30 ธันวาคม 2553 13:13 น.
กิ่งโศก
๏ วารวันหันเบิ่งผู้- ..... ทำนา ทั่วเฮย
เคียวเก่าเข้าซอกฝา.... บ่ฟื้น
ตอข้าวต่างตกคา- ...... คูขอด แห้งเนอ
คลื่นแผ่วแว่วสะอื้น ..... สดับโอ้จิตเห็น ๚ะ๛
๏ วารวันบ่หันเบิ่ง หาบรรเทิงสิแลเห็น
คราบชุ่มทางกระเซ็น ดอกเหงื่อดื่นเกินด่างเดียว
๏ เสื้อเก่าตัวมักคุ้น รอยปะชุนซีดหม่นเซียว
มือสั่นพร้อมด้ามเคียว เกี่ยวกอข้าวรอตะแคง
๏ รวงแลด้วยข้าวลีบ เฉกโดนบีบให้แบแห้ง
ซังกุดทรุดเปื่อยแปลง บ่งบอกร้างเกินว้างดาย
๏ สองเข่าที่คางเกย หรือบอกเผยทางสุดท้าย
น้ำตาแม้นไม่กราย คงตกร่วงกลางทรวงลึก
๏ กี่กาลกี่พานพบ แลจุดจบเกินคาดตรึก
จักซับให้รู้นึก เนื้อรสสุขนั้นฉันใด
๏ เคียวเอยคงคล้องฝา รอคอยท่าถือด้ามใหม่
ล้อเกวียนคงหมุนไป กี่รอบรู้ในรอยเดิม
๏ ปัจจุสมัยบ่ง ยังฉายคงครอบงอบเจิม
ฐานะมิต่อเติม กี่ชั่วชั้นบรรพชนม์ ๚ะ๛
+ กิ่งโศก+
๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๓
27 ธันวาคม 2553 15:12 น.
กิ่งโศก
๏ ร่ำกลิ่นรินก่ำแก้ม ...... เลียมกาย โลมแล
กระแจะจันทน์กำจาย ...... แจ่งรื้น
เสน่ห์ซ่อนซ้อนฉาย- ...... ฉานเนื่อง สบเนอ
เอมอิ่มโอ้เต็มตื้น ......... ห่มใต้มนตรา ๚ะ๛
๏ กลิ่นร่ำแก้มแกมกรุ่นละมุนก่อ
ประทิ่นทอทาบจิตพิสมัย
ดั่งพระเวทย์สวดนำสื่อพร่ำนัย
สบพะวงหลงไหลมิคลายคลา
๏ หอมถวิลกลิ่นเนื้ออยู่เนืองนิจ
จักบ่ายบิดหลบเบี่ยงใช่เลี่ยงว่า-
หวานเกินหวำนำผลผลิมนตรา
ยิ่งคำจาน้าวจับขานขับแจง
๏ กระแจะจันทน์ครั้นแซมยิ่งแกมซ่าน
ลุสู่มานหมายพล่าอุระแผลง
ยอสยบ-ยอบย้ำพึงสำแดง
แน่นหนึ่งเดียวเหนี่ยวแปลงมิแสร้งปรำ
๏ ชะรอยกลิ่นน้าวแดให้แปรดื่น
กระสันต์ชื่นสุดเร้าก้าวถลำ
กลิ่นกระแจะจันทน์เจื่อนให้เตือนจำ
ครั้นเจ้าร้างเกินกล้ำยิ่งย้ำกลืน
๏ กระสาสาบกำหนดจรดจมูก
ปะแป้งร่ำด่ำผูกใจลุกตื่น
กี่ครั้งฝันเพ้อหวนกี่ครวญคืน-
ค่ำมิคล้ายหลุดฟื้นให้ขื่นคา
๏ เฉกมนตร์เคล้าคล้ายงำพร้องคำสาป
สิโรราบยากเหเสน่หา
กลิ่นหอมฟุ้งจรุงโลมโน้มอุรา
ล่วงลึกสู่นิทราสุขาลัย ๚ะ๛
+ กิ่งโศก +
๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๓
บรรเลงขลุ่ย ..ศรีนวล (อ.ธนิศร์ ศรีกลิ่นดี)
ภาพ..จากกูเกิ้ล
21 ธันวาคม 2553 20:30 น.
กิ่งโศก
๏ ทิฐิสุมรุ่มร้อน........................สืบลาม
ลามสืบทอดสอดตาม..................ตริถ้อย
ถ้อยตริสิแสร้งถาม....................ถกหยอด
หยอดถกยกเทิงย้อย.................เยี่ยงย้ำหยิ่งผยอง ๚ะ
๏ ผยองหยิ่งเผยอยั่วเพี้ยง.........สุริย์ฉาย
ฉายสุริย์รำบาย........................เบิกแจ้ง
แจ้งเบิกบอกศักดิ์หมาย............บทอวด
อวดบทบาทวาดแสร้ง................สบผู้เยินยอ ๚ะ
๏ ยอเยินเพลินโสตย้ำ.............เสนาะโยน
โยนเสนาะฉอเลาะโชน............ร่วนฟ้า
ฟ้าร่วนม่วนครื้นโผน...............คึกพร่ำ
พร่ำคึกมิสึกล้า.........................เลียบห้วงล่วงหาว ๚ะ
๏ หาวล่วงท่วงท่าท้าว...............เหยียบเพลิน
เพลินเหยียบผู้อื่นเยิน............เลี่ยงรู้
รู้เลี่ยงเบี่ยงบ้างเผชิญ.............หลีกสับ
สับหลีกละเลยสู้ ......................สืบไว้ไมตรี ๚ะ
๏ ไมตรีไว้ผูกแม้น.................มิตรภาพ
ภาพมิตรติตรึงตราบ...............ชีพสิ้น
สิ้นชีพกรุ่นกำซาบ..................สื่อกล่าว
กล่าวสื่อกระผีกริ้น.................แซ่ซ้องก้องไกล ๚ะ
๏ ไกลก้องแลเกียรติล้ำ..........ยกจาร
จารยกแยงแต่งขาน...............ติดคล้อง
คล้องติดจิตแห่งทาน...............มธุรส ถ้อยนา
ถ้อยมธุรสสื่อพ้อง..................เหล่าผู้เจริญธรรม ๚ะ๛
+ กิ่งโศก+
บรรเลงขลุ่ย ..ม่านมงคล (อ.ธนิศร์ ศรีกลิ่นดี)
ภาพ..จากกูเกิ้ล
2 ธันวาคม 2553 10:41 น.
กิ่งโศก
๏ ยอกรบังคมบาท อภิวาทนรังสรรค์
เทิดไท้จอมราชัน- จักรีวงศ์องค์ภูมี
๏ พระราชกรณียกิจ แผ่ทั่วทิศปัถพี
ชโลมด่ำฤดี เหล่าพสกรื่นสราญ
๏ ดินแห้งทรงพลิกห้อม โครงการล้อมห้วยระหาน
โชคชุ่มชระอุ่มธาร ฝนหลวงหล่นประโลมริน
๏ ทฤษฎีใหม่เกษตร สู่แคว้นเขตพนาถิ่น
แบ่งปันการทำกิน ลำดับส่วนสบสมบูรณ์
๏ เศรษฐกิจพระทรงสั่ง เพียงประทังชีพเกื้อกูล
พอเพียงอย่าพอกพูน ดำเนินตนบนปรัชญา
๏ ธรรมชาติทรงฟื้นฟู วิจัยสู่เชิงศึกษา
โครงการพัฒนา สิ่งแวดล้อมด้วยกองทุน
๏ แพทย์พระราชทาน สู่หมู่บ้านพระองค์หนุน
รักษาแลเจือจุน พลังชาติพลามัย
๏ ส่งเสริมการศึกษา โครงการสราณุกรมไทย
โรงเรียนอุปถัมภ์ใน พร้อมทุนสู่ยุวชน
๏ ศาสนาทรงทำนุ บำเพ็ญลุการกุศล
บำรุงรุ่งอำพน ทุกลัทธิทอศรัทธา
๏ ประมุขแห่งจอมทัพ ยินสดับริปูผวา
ศูนย์รวมสถิตย์ตรา ทหารหาญฮึกเหิมจินต์
๏ สร้างสื่อสัมพันธ์เขต นาประเทศทุกทั่วถิ่น
ทั่วภพจบธรณิน ร่วมแซ่ซร้องสรรเสริญนาม
๏ ทรงรักษ์ศิลปะ อักขระแห่งสยาม
ดนตรีทวีนาม เลอค่าล้ำลำนำเดิม
๏ การกีฬาทรงพระเชี่ยว ตัวแทนเดียวเข้าแข่งเสริม
เรือใบไสวเจิม ชำนะชัยโดยพระองค์
๏ พระราชกรณียกิจ เสกประสิทธิ์สมประสงค์
ไพร่ฟ้าประชาพงศ์ เกษมศานต์สำราญชม
๏ อภิลักขิตศุภสมัย ทศนัขใส่ประณตก้ม
จตุรพรพิศุทธิ์พรม ทรงชันษายิ่งยืนนาน ๚ะ๛
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ในนามกิ่งโศก ผู้ประพันธ์