30 ตุลาคม 2553 11:48 น.
กิ่งโศก
๏ อาดูรแล้วแก้วตาสุดาเอ๋ย
รอยเขนยเคยหนุนกระชุ่นหนี
มิเหลือความค้างขื่อสื่อฤดี
ถวิลทอดเกินที่ถึงดวงพักตร์
๏ ประหนึ่งแส้โบยกราดจึงฟาดโกรธ
ต้องทัณฑ์โทษความไหนใคร่ประจักษ์
จึงดูไร้สิ้นแล้วซึ่งแนวรัก
โอยกระอักไหลเต่อเผยอตรม
๏ หวนใจหาความหลังกี่ครั้งเล่า
รอยสองเงาเงยชิดสนิทสม
ชี้นั่นนกนี่ไม้รื่นนัยน์ชม
รื่นภิรมย์พิรี้แลพิไล
๏ กี่น่านน้ำข้ามท่องที่ล่องเที่ยว
ขึ้นเหนือเลี้ยวลงตกหรือวกใต้
มิเคยแปรเปลี่ยนจางจำหว่างใจ
โชติไสวสว่างกระจ่างวาว
๏ เหตุผลตามต้นสายกระไรนั่น
ถึงมีอันเหหักร่วงจากหาว
อัปปางเรี่ยเกลี่ยเกลื่อนหล่นเลื่อนกราว
รอยเศษร้าวลึกป่นคำคนแปร
๏ อาดูรแล้วแก้วตาสุดาพี่
ฝากชีพนี้ยอบพร้อมเซ่นย้อมแผล
สังเวยย้ำบำบวงซากดวงแด
ชาตินี้แพ้พาลจบอย่าพบเจอ ๚ะ๛
+ กิ่งโศก +
เครดิตภาพ บล็อคโอเคฯ ไอวี่
19 ตุลาคม 2553 13:03 น.
กิ่งโศก
๏ แรงบุญบ่งบอกร่วม เลอท่วมจิตกุศล ทั่วสกลกล่าวพร้อม
พึงน้อมแด่พ่อหลวง เทวะปวงพิทักษ์ ปกปักป้องถวาย
จิตกายยอท่วมเกล้า เทิดแด่องค์พ่อเจ้า ยิ่งไท้ราชัน ๚ะ๛
๏ บทจรจึงบ่ายข้าม............... ชลธาร
เจ้าพระยาสะพาน ............ที่เก้า
สู่ถิ่นสถิตสถาน ...................พงพฤกษ์ โพ้นนา
เมืองเพชรหวังเยือนเหย้า .....เกิดสร้างกุศล ๚ะ
๏ มหาชัยถิ่นนี้ ..................สาคร เนืองแฮ
สาคเรศไหลจร .......................ล่องย้ำ
ถวิลห่วงสมร ..........................พรากนุช แม่นา
ชลเนตรคงนองน้ำ ................เรื่อแก้มแอร่มลาม ๚ะ
๏ สงครามประชิตยั้ง ...........ย่ำสมุทร ผ่านแล
ชำนะใดประยุทธ ..................นั่นแล้ว
พิชิตพ่ายใจนุช ....................เกรงขนาบ เรียมฤา
บึ่งบ่ายคลายมิแคล้ว ...............ขับลี้ครรไล ๚ะ
๏ ราชบุรีเรียบเร้น ........แลทาง
เขาโขดลิบยอดยาง............... ชะโงกง้ำ
บัดพลีเทพกระถาง ...............ธูปนบ ประนมเนอ
ฝากแม่มิ่งเลอล้ำ ................. อยู่เพี้ยงเพียงหลัง
๏ ถึงคิรีเด่นเงื้อม .................ตระหง่านสูง
โยงระยิบยางยูง .............. .เยี่ยมฟ้า
สบสีด่างทอดจูง ....................จรดทาบ พื้นนา
ตริต่างประตูอ้า ...................เปิดเอื้อมโอบคอย ๚ะ
๏ เห็น เขาย้อยช้อยอ่อน .........ศิลา ธารเฮย
หวานยิ่งฤาย้อยหา ................... รสลิ้น
กลัวนักจักหลงคา- ................... รมหยอด ลวงรา
จึ่งค่อยผลอยผละสิ้น ..................หลบเร้นหลีกหาย ๚ะ
๏ บ่าย หนองหญ้าปล้องฟาก...... ฝั่งสอง
รกชัฏจัดเรียงจอง .......................พุ่มตั้ง
แล่นยานผ่านลับผอง ....................หลักเคลื่อน
ลมพัดระบัดรั้ง .............................ลู่ไล้ไหวสี
๏ ขจีเขียวเลี้ยวระ ....................เรียงทาง
หญ้ากี่ปล้องกองวาง.................... ซุกแว้ง
หากผ่านหวั่นสรรพางค์ .............ซุกแอบ ไว้นา
กลัวยิ่งกริ่งเยงแกล้ง .................. กกหญ้ากอยี ๚ะ
๏ ครั้นที่หยุดสุดท้าย ................ พักแรม
ลานวัดเพลาแพลม .................เที่ยงรั้ง
สุรีย์สาดเรื่อแซม ......................ปลุกชีพ
นบกราบรับพรตั้ง ....................จิตแต้มกุศล
๏ ลิ้นช้างช่างชื่อให้ ..............พึงฉงน
ช้างใช่งับลิ้นกล......................เล่ห์กลั้น
คนเยือนอย่าซุกซน ..............วัจนะ ลวงรา
ช้างสาปบาปสะบั้น..................ขาดลิ้นเสวนา ๚ะ
๏ ผาไพรผืนแผ่กว้าง ...........แก่งกระจาน
ยะเยือกกัลปาวสาน............สืบซ้อน
ใครล่วงพ่วงลุญาน ...........พึงสดับ
สงัดสงบร้อน..................... ย่ำแล้วสมประสงค์ ๚ะ
๏ ประจงแจงแต่งสร้าง ........เพียรสรร พจน์แฮ
กิ่งโศกด้อยจำนรร .............ประดิษฐ์แคว้ง
กานท์มิซ่านชอนไช ..............สู่จิต ทบนา
ยอบ,นบประจบแจ้ง ............เถิดผู้จำเริญ ๚ะ๛
+ กิ่งโศก +
๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓