28 ตุลาคม 2552 12:24 น.
กิ่งโศก
๏ ลมเหนือล่วงไล่เน้น......... โลมหนาว
เสียงร่ำสอดรัวราว................สั่นร้าง
เย็นซ้อนเยือกแทรกยาว-......ยืดซ่อน
พี่โอดเพียงเอกอ้าง..............พจน์เอื้อนพากษ์โอย ๚
๏ ลมเหนือล่วงไล่เน้นเนื้อหนาวโลม
ลมไล้ลูบตะโบมบดแสยง
ลมเย็นเยียบเทียบทาบปลายดาบแทง
ลมพัดแฝงฝากป่วนใจรวนรอน
๏ หนาวคราวนี้พี่นั้นคงตายแน่
หนาวคางสั่นโศกแท้แม่สมร
หนาวจวนเหน็บเจ็บเนื้อแทบหน่ายนอน
หนาวสะท้อนซ่อนห้วงทรวงระทม
๏ ล่วงลุผ่านพาดใจเพียงสัมผัส
ล่วงรวบรัดบีบเร้นเร้ารสขม
ล่วงล่องแล้วแผ่วพรั่นหวั่นจิตตรม
ล่วงระบมบดบั่นหั่นหาญใจ
๏ พี่กำสรวลครวญคร่ำรำพันพ้อ
พี่ทดท้อแทบสิ้นชีพตักษัย
พี่โดดเดียวเปลี่ยวเหงาเถ้าสิ้นไฟ
พี่แร้นแค้นขาดใครเป็นคู่เคียง
๏ ตายตกดับลับลงเพราะไร้นุช
ตายไม่ผุดหยุดดิ้นสิ้นส่ำเสียง
ตายครานี้พี่ไร้คนร่วมเรียง
ตายคงเพียงซากไม้ไร้คนแล ๚
๏ เหมันต์โหมม่านห้วง..........ห่มมนต์
สายหมอกสอดแมกสน..........ซ่อนไม้
ครวญเร้าค่อนระคน...............คืนร่ำ
ข่มเยือกขืนหยุดไขว้..............ขับย้อนโขยง ๚ะ๛
+ กิ่งโศก+
๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๒
ภาพมาจาก กูเกิ้ลจ้า...พอจะเพลามือจากงานแล้วครับพี่น้อง
15 ตุลาคม 2552 13:02 น.
กิ่งโศก
๏ อุทกท่วมทั่วทั้ง........ ฟ้าประดังด้วยเม็ดฝน
กระหน่ำซ้ำผองชน ........บางนาป่นเป็นสายธาร๚ะ๛
๏ อุทกท่วมทั่วทั้ง ........ ธานี ฤาเฮย
ใยใช่จมนที ........ทบเสี้ยว
บางนาระบมมี ........มากหนึ่ง เกินนา
นรทุกข์เข็ดเขี้ยว ........ข่มร้าวแสนเข็ญ๚
๏ ฤา เทวโกรธขึ้ง ........ขุ่นใด ท่านนา
จึงเสกชลาลัย ........ รดล้น
มารุตพัดกระพือไกล ........ โหมกราด ราบเฮย
เหล่าพิรุณเม็ดต้น ........แตะต้องหั่นตัว๚
๏ ฤา ชนชาวเหล่าฟ้า.........คร่ำครวญ
รวมร่ำโศกกำสรวล ........สั่งฟ้า
ชลเนตรนองจวน -........เจียนกลบ มิดนอ
เป็นบัดพลีผืนหล้า ........ ลบหนี้โทษทัณฑ์ ๚
๏ วิถียานหยุดยั้ง ........นิ่งจร ต่อเฮย
ทูรบทแรมรอน ........ เบิ่งร้าง
บางนาถิ่นเนานอน ........น้ำเจิ่ง จมเฮย
คอยหัตถ์แม่คัดง้าง ........ ฉุดขึ้นจมโคลน ๚
๏ บางนาว่ายิ่งโอ้ ........ ระบม อ่วมเอย
สิ้นแม่แลระทม ........ ทดท้อ
สะอื้นอกอาบขม........ ขื่นยิ่ง
ว้าเหว่หว่านคำพ้อ ........พี่น้องเห็นใจ ๚ะ๛
+ กิ่งโศก+
๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๒
ภาพมาจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ รามฯสองน้ำท่วม
เนื้อหา มาจาก รถข้าพเจ้าลุยน้ำ จนดับไปเลยอะ ลอยเท้งเต้ง เหมือนเรือ ตอนนี้อยู่โรงซ่อม..