11 กรกฎาคม 2556 10:50 น.

๏.. ณ.คืนแรม แอร่มจันทร์..๏

กิ่งโศก

  ๏ พลบค่ำย่ำโพล้เพล้เสียงเห่หาย
อ่อนแสงแรงระรายเลือนวายดับ-
ลาพร้อมย้อมจันทรจรประทับ-
ประดาฟ้าระยับรับจันทร์แรม ๚ะ๛
    ๏ พลบย่ำโพล้เพล้บ่าย .... บรรพรต ลับแล 
สิ้นสุริย์ฉายยศ .... ย่อแล้ว
งันแลเงียบเรียบลด .... ลาวุ่น วายอา
สัตว์โลกต่างมิแคล้ว .... ล่วงเข้านิทรา
   ๏ จันทร์เสี้ยวเลี้ยวผ่านซุ้ม .... เมฆแฝง
ปิ่นศิวะสำแดง .... เดชไซร้
รัศมีหรี่ยิ่งแรง .... ทีฆรัต
คล้ายโอบประโลมไล้ .... พระแม่เจ้าเทวี
   ๏ ดื่นจวนดึกนึกเย้า .... ยลตัว
ใยเบิ่งซุ่มมุมสลัว .... แอบซ้อน
มัวชื่นตื่นชมกลัว .... ใครแอบ รู้เอย
โผล่สบประจบอ้อน .... ศศิเจ้าเห็นใจ
   ๏ ประทานหว่านรสล้ำ .... เลอสุข
ปลาตหายคลายทุกข์ .... พรากล้วน
ปรุงเสน่ห์เห่สนุก .... สนานนับ นานเนอ
เปล่งปลั่งประดังถ้วน .... ทรัพย์ถ้วมหัวหู
   ๏ จันทร์แรมแอร่มเจ้า .... อย่าจร จากเฮย
อยู่คู่ข้าอย่าถอน .... พรากข้า
โดดเดี่ยวยิ่งรอนรอน .... จิตร่ำ  เจรียงแล
เคียงแนบแอบเถิดอ้า.... อกผู้ระทม ๚ะ๛
         
            + กิ่งโศก +
    ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนแปด ปีมะเส็ง
 (พระจันทร์ข้างขึ้น แต่ใยคิดถึงข้างแรม)
10 กรกฎาคม 2556 08:41 น.

๏..เถรส่องบาตร ..๏ (กลอนห่อโคลงฯ)

กิ่งโศก

 ๏ เห็นเถรท่านส่องบาตรจริยวัตร-บท
ใครไหนนำกำหนดสะกดก่อ-
การเพ่งพิศพินิจละเอียดลออ
หรือเพียงบาตรสะอาดล้อ-ยอตะวัน ๚ะ๛ 
  ๏ เถรท่านส่องบาตรชี้ ..... ปุจฉา
พระใหม่พบสบครา .... ล่วงเช้า
มิตรึกนึกเหตุหา ..... โดยเหตุ แท้เฮย
มองส่องตามพระเจ้า .... เช่นคล้ายได้เห็น
  ๏ เถรท่านมิใช่ชั้น ..... ตาเถน
สื่อพระวินัยเกณฑ์ ..... ปฏิบัติไว้
บาตรแตกแยกโหว่เบน....อาบัติ  
เพียงแค่นิ้วสอดได้.... รั่วด้วยประดัง
  ๏ ฟังรู้หูรับพร้อง .... พึงสดับ
จริยาวัตรรับ .... จึ่งรู้
คลี่กระจ่างความจับ ....ถามเถิด ท่านฮา
ถึงแก่นแกนหลักผู้.... สำเร็จแล้วถึงสถาน
 ๏ อย่าเลียนเยี่ยงอย่างผู้ .... เลียนนำ ตามนา
เลียนอย่างมิรู้สำ- .... เร็จแท้
จงคิดก่อนเถิดทำ .... ประพฤติ ตามนอ
เลียนเช่นริเรียนแล้.... จักรู้ความคราว
 ๏ เราโง่หรือไม่รู้ .... ริถาม 
อย่าอวดโอ่โง่หาม .... แห่ห้อม
เช่นเถรส่องบาตรยาม....พินิจ บาตรแฮ
เถิดเถอะถ้วนสิ่งพร้อม .... บอกด้วยเหตุผล  ๚ะ๛ 
    
        + กิ่งโศก +
    ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖
สดุดคำ เถรส่องพระ เลยอยากรู้...แล้วก็รู้..
เรื่องเถรส่องบาตรนี่ มีนิทานในพระพุทธศาสนาจะเล่าให้ฟังสักนิด ตามธรรมดา เถร มีอยู่ ๒ เถร
เถร แปลว่า ท่านผู้ใหญ่
เถน แปลว่า หัวขโมย
ตามภาษาบาลีแปลไม่เหมือนกัน
สำหรับเรื่องเถรส่องบาตร เป็นเถรผู้ใหญ่ เพราะบาตรท่านแตกอยู่นิดหนึ่ง ตามธรรมดาในพระวินัย ถ้าบาตรแตกพอนิ้วลอดได้ต้องเปลี่ยนบาตรใหม่ บาตรอันนั้นจะใช้ไม่ได้ 
พระพุทธเจ้าปรับเป็นอาบัติเพราะข้าวรั่ว
ทีนี้ เถรผู้ใหญ่บาตรท่านแตก เวลาท่านเช็ดบาตรเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ส่องดู ส่องดูรอยร้าวว่า มันจะแตกมากไปหรือไม่มาก ถ้ามันยังไม่มากก็ใช้ต่อไป
ทีนี้ ลูกน้องของท่านสิ ไม่รู้ว่าท่านส่องทำไม เห็นท่านส่องก็ส่องบ้าง ส่องส่งเดช บาตรของตัวน่ะไม่แตก เห็นอาจารย์ส่องก็ส่องตาม แล้วก็ไม่ถามด้วยว่า ท่านส่องทำไม
 ก็ส่องตามท่าน เรียกว่า ส่องแบบโง่ๆ”
“ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน”
...................................................................
3 กรกฎาคม 2556 14:30 น.

๏.. แหวกกรรม ..๏

กิ่งโศก

    ๏ จะสาวสายว่ายข้าม .... สาคร 
หวังผุดโผล่บนดอน ....  เดิ่นด้าว
กักกันจิตริดรอน ....  กิเลส ล้อมแล
เกลาขัดกรองย่างก้าว ....  กำหนดรู้จังหวะเดิน ๚ะ๛    
   ๏ อยากจะว่ายข้ามเวิ้งทอดเบิ่งว้าง
ไกลแสนเหลือแลทางเลือนห่างถึง
สุดแหวกหนุนข้ามน้ำครุ่นคำนึง
คงผลอยหล่นก้นบึ้งกึ่งบาดาล
  ๏ ด้วยคลื่นลมโถมซัดระบัดซ้ำ
หรือเคราะห์คราวกระทำระกำฐาน-
แต่ปางก่อนคงร้ายคล้ายยักษ์มาร
ชาตินี้จึงขึ้งผลาญตามราญรอน
  ๏ จักพึ่งใครไร้ที่เป็นที่พึ่ง
สัมพันธ์ตึงสหายเส้นใยหย่อน
เห็นกรวดน้ำคว่ำขันโขกบั่นคลอน
ตัดตัวบท-กดกร้อน-ทุกตอนตรา
  ๏ เหลือเส้นทางท้ายสุดจึงยุดไว้
เส้นเชือกใฝ้เกลียวฟางอนาถา
จำใจจับปรับตัวตามชะตา
ให้หมดสิ้นทุกท่าในครานี้
  ๏ หัวงกำหนดกำเนิดไปเกิดใหม่
สรรสร้างทางไสวพรายฉวี
ก่อตะบะสะสมบ่มบารมี
ในภพภูมิสุขาวดีที่หมายปอง
 ๏ รอมินาน-ดอกกรรม-อันย้ำใกล้
จะชดใช้ใหม่สร้างสวมสนอง
ลบรอยกระปะปุโปพุพอง
ทาบรังษีเรืองรองผุดผ่องโลม ๚ะ๛
    
            + กิ่งโศก +
      ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖
สงสัยงานชุก..จึงเขียนไปเรื่อย.......เปื่อย..
2 กรกฎาคม 2556 12:25 น.

๏..นิมิตร้าย ..๏

กิ่งโศก

  ๏ สะดุ้งตื่นเลขชี้  .....      สำเร็จ 
กรองกลั่นผ่านสะเด็ด ..... สุดท้าย 
บรรจงจับโดยเคล็ด .....  ครองศาสตร์ เชื่อเฮย
นิมิตแปรแปลงร้าย .....  เปลี่ยนด้านเป็นดี  ๚ะ๛
         
 ๏  สะดุ้งตื่นลืมตาเมื่อเช้าตรู่
ในนิมิตรครั้งครู่ใกล้สู่สาง
ในฝันนั้นพบยักษ์ชลูดยาง
นัยนากระด้างเยื้องย่างเย้ย
๏ มิอาจก้าวเท้ายุดดุจดั่งยึด
ติดตรึงขึงออ-อึดเฝือฝืดเอ่ย
ลมปราณขาดชะงักสำลักเงย
ตระโกนก้องร้องเพ้ยลืมตาโพง
๏ โบราณกล่าวเล่าไว้ฝันร้ายว่า
จะกลายดีปรีดานำพาโด่ง-
ตำแหน่งรุ่งศักดิ์รั้งมิยั้งโยง
การค้าขายให้โล่งประสงค์รับ
๏ ทั้งโชคลาภจับเสกดว้ยเลขสวย
จะมั่งมีดีด้วยหวยประดับ
ประดาเดชบารมีทวีทรัพย์
มีเรือนขายเททับหวังรับโชค
๏ จึงบรรจงเจียดงบสมทบซื้อ
ทุ่มทั่วตัวสองมือถือโฉลก
นอนกระหยิ่มนั่งแย้มแซมเอนโยก
หวังชะตาว่อนโบกไสวบาน
 ๏ ครั้นเพลานาทีที่รอท่า
เลขที่ออกบอกช้าเสียงพาขาน
ใยยักษ์หนีลี้หายมลายพาล
ผลที่ผิดมโหฬาร..โอ้ฉันเงง  ๚ะ๛
         + กิ่งโศก+
๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖
      ซื้อ 84 กงๆๆ เลย
11 มิถุนายน 2556 11:37 น.

๏ ..จรุงกลิ่น..มาลาสวรรค์..๏

กิ่งโศก

   ๏ ยอ-กลีบเหยียดก้านซับ .... หยาดชล
ยั้งรับอาบแสงยล   ....  ระยิบย้อม  
ขจรกลิ่นขจายจน  .... โชยกรุ่น ทั่วฮา
ละเมียดละไมล้อม .... ร่ำพื้นไพรสณฑ์
   ๏ ภู่คลึงผึ้งคลุกเคล้า .... เกสร
บินว่ายร่าย-วน-จร ....ตรลบฟุ้ง 
เสพมธุรสตอน .... แต่รุ่ง อรุณเนอ
ปีกกระพือพร่างรุ้ง .... ประดับหล้าโลมสนาน
   ๏ ผกาคู่ภู่ผึ้ง .... ปฏิพัทธ์
ดุจนุชสุดกำดัด....จริตจะก้าน
พราวเสน่ห์เล่มัด .... โลมสวาท หมายนอ
เริงล่อสัตว์ผู้ส้าน.... มุดซ้อนซุกชม
 
   ๏ ถ้วนกลีบเด่นดอกเกลี้ยง....   เกลาพิสุทธิ์ แท้เฮย
สะอาดหอมประดุจ ....  แต่งหล้า
ประทิ่นกลิ่นเริงรุจ.... จรุงโรจน์ แรงเนอ
จักดอกดินดอกฟ้า.... ประดับให้โลกสวย
   ๏ สุคันธชาติล้วน ....  แลหมาย
กำเนิดจวบวางวาย....เหี่ยวสิ้น
ย่อมยังอยู่ต้นปลาย....วงชีพ
ดับสลายตายดิ้น ....บ่ได้จีรัง
   ๏ ยังกลิ่นหอมย่อมแห้ง .... เหือดจาง ดอกนา
สิ่งแน่แส่นับวาง ..... สถิตย์ไว้
ก่อพฤติการกาง .....บันทึก กรรมนา
จึงบ่หายลบให้ ....  ช่วยชี้ผ่านผล ๚ะ๛
             
           + กิ่งโศก +
       ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๖
 ๐ ร่ำร่ำกลิ่นดอกไม้ระรื่นแล้ว กำหนดจมูกสูดดมจึ่งรับรู้แห่งกลิ่นหอม ...ข้าพฯเจ้า ชื่นชอบนัก ดอกการเวก
หลับตากลิ่นยังอวล คล้ายกำลังนอนหลับอยู่ใต้ดงไม้อันสงบ..อา สุขยิ่งยามยล กลิ่นการเวก....
Calendar
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟกิ่งโศก
Lovings  กิ่งโศก เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกิ่งโศก
Lovings  กิ่งโศก เลิฟ 2 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกิ่งโศก