๏ เผา "สุม-รุม-อุ้ม "ป่น .... แปลงชาติซื้อ "กอบ-ลอบ-หอบ"ราษฎร์ .... บ่รู้โกง "แก่ง-แย่ง-แบ่ง"ญาติ .... บดยึด ประเทศนากิน "ตะ-กละ-ตะ-"กลามผู้ .... เปลือกใต้วาทกรรม๏ รู้ "ตรึก-ลึก-นึก"รู้ .... เพียงไหนแก่น "ซึ่ง-กึ่ง-หนึ่ง"นัย .... วาทนั้นแท้ "ทราบ-ภาพ-หยาบ" ใส .... สัมผัส ต้องนอจริง "เปล่า-เล่า-เป่า"กระชั้น .... กระหน่ำซ้ำให้หลง๏ อวด "เบ่ง-เก่ง-เร่ง"อ้าง .... อวดดีโอ่ "ท่า-อ้า-พา"ที .... ถ่อยโอ้โง่ "งม-ถ่ม-จม"พจี .... ต่ำพจน์เผย "แต่-แถ-แส่"โป้ .... ปดด้วยต่ำทราม๏ วาท(ะ) "กล่อม-ห้อม-ล้อม"ลุ่ม .... ให้หลงปรุง "รส-หมด-จด"ประจง .... ประดับป้อนแต่ง "ย้ำ-ย่ำ-ซ้ำ"ตรง .... ตีบ่อยเพี้ยน "จัด-คัด-ยัด"ขย้อน .... "วาทเพี้ยนแต่งปรุง"๏ ชน "ไทย-ใด-ใช่"ด้อย .... ในสติเหวย "ออก-ดอก-งอก"ผลิ .... โผล่พ้นชั่ว "ชีพ-รีบ-จีบ"ริ .... ล้วนห่อ ดีเฮยแท้ "อยู่-ดู-รู้"ต้น .... กำเนิดตั้ง"ประชาธิปไตย" ๚ะ๛+ กิ่งโศก +อาทิตย์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๖
๏ ให้จำเริญรุ่งด้วย .... "จตุรพิธพรชัย""อายุ"ยืนสืบขัย .... เขตขั้น"วรรณะ"เปล่งอำไพ ... เกียรติยศ สูงเฮย"สุขะ"ผ่องเกินปั้น ... "พละ"พร้อมทรัพย์บริวาร ๚ะ๛+ กิ่งโศก +๒๖ พฤศจิการยน ๒๕๕๖เนื่องด้วย ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ เป็นวันคล้ายวันเกิด คุณแก้วประภัสสร ขอคุณอำนาจพระรัตน์ไตร จงคุ้มครองมีแต่ความสุขตลอดไป นะขอรับ
๏ เสียงประโคมย่ำยามท่ามกำสรวลสังข์แซ่แตรแห่หวนรัญจวญหาย-ฆ้องกลองรับเปิงมางกำจรกำจายปี่หงส์ส่งสุดท้าย..เสด็จเทอญ ๚ะ๛๏ เสียงประโคมย่ำย้ำ.... ยาม"กำสรด"สังข์เป่า"สำหรับบท".... ทั่วก้อง"แตรงอน"ท่อนงอจรด .... แจมร่วม ขับแล"แตรฝรั่ง"ดังร้องต้อง .... ขับเคล้าผสานผสม ๚ะ๏"พญาโศกลอยลม"ลั่นแล้ว...."ปี่ไฉน""กลองชนะ"รัวไหว .... จังหวะช้า"เปิงมาง"ย่างขยับชัย .... ยอส่งสังฆราชสู่ฟ้า .... สถิตย์โพ้นถิ่นสวรรค์ ๚ะ๏ "กลองทัดตะโพนฉิ่ง"พร้อม.... ปี่พาทย์วง"เพลงบทชุดนางหงส์".... ส่งท้าย"ระนาดเอกทุ้ม"คง .... "ฆ้องเล็ก ใหญ่"เเฮคลอ"ปี่ชวา"คล้าย .... ร่วมเคล้าบทเพลง ๚ะ๏ เสียงประโคมย่ำย้ำ ....ยามสถิตส่งเสด็จโลกชิต .... อริยะเจ้าศิวโลกดุสิต .... สถานทิพย์ พิมานแฮประสกสีกาเฝ้า .... ร่วมน้อมส่งเสด็จ สู่พระนิพพานเทอญ ๚ะ๛...............................ขอถวายความอาลัยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกข้าพระพุทธเจ้า นามปากกา "กิ่งโศก"๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๖
๏ คราบบุญนักบาปซ้อน .... ซุกนัยทรัพย์ชั่วซื้อเบิกใบ ........ เทวโลกเบื้อง--สวรรค์นั่นใช่ไหน ........ นำทรัพย์ ซื้อฤาซื้อมากยิ่งกระเตื้อง ....... เขยิบชั้นเยี่ยมสูง ๚ะ๛๏ ใครหนอกำหนดกั้น .... ทำเกณฑ์เลี่ยงเบี่ยงบ่ายเอนเบน ..... อุบาทย์ใบ้แข่งขันฉุดประเคน ......... บริจาคยาจกตกนรกไหม้ .......... เพราะไร้ทรัพย์สิน ๚ะ๛๏ ประพฤติชั่วหยาบช้า..... เสมอหินบาปจับจึ่งอาจิณ ............ อวดแจ้งแม้พระแม่ธรณิน ............ ยังแยก หนีนาร่างหล่นเลื่อนเสมือนแกล้ง.... กลบใต้นรกภูมิ ๚ะ๛๏ มิอาจเอ่ยยกอ้าง ...... สาธยายผู้ลุ่มหลงอบาย- ........... มุขนั้นเนื้อชั่วทุกไส้สาย ......... เส้นขด ขอดนอตะกละตะกรามหั้น ........ กัดเนื้อเถือผืน ดินเฮย๚ะ๛๏ จ้องมล้างม้างล่ม ...... รานชาติอามีสสินบาทคาด ......... คิดปล้นเถิดผลาญพร่าฆ่าขาด .... ผ่าแล่ง ประเทศเนอเนรคุณข้ามพ้น ............. นรกห้วงอเวจี ๚ะ๛+ กิ่งโศก +๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๖พระอังคาร แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะเส็งที่มา : ดูละครพื้นบ้าน สุรยะ-จันทรคาธคนบาปหนา ย่อมหนักแผ่นดินเมื่อร่างหล่นลงดิน พระแม่ธรณี ยังแยกแผ่นดินหนี อย่างมิอาจรองรับร่างไว้ได้เลยบาปเจ้าหนักหนาสาหัสสากรรแท้แล้ว
๏ ช้ำรานฉานล้าเฉก .....ชะรอย แช่งแลทอดเนิ่นเทินหน่ายถอย .... นับท้อพากย์สรรพรั่นสบพลอย .... สั่นผ่าน โศกเฮยผลาญย่ำพร่ำยิ่งพ้อ .... พิโยคโย้ผ่าวยืน ๚ะ๛๏ ช้ำรอยรานผ่านเร้าผ่าวอารมณ์-สะกิดแคะแทะข่มจวนล่มขืน-สังขารยั้งหวังหยัดรัดที่ยืน-เหยียดชูเชิดหน้าชื่นระรื่นทรวง๏ ขมซ่อนหลบขบมุมในหลุมหม่น-หมางครางครวญถ้วนหนระคนห่วง-หาอาทรภาพเก่าอันร้าวกลวง-โบ๋ลึกล้นเกินล้วงจะท้วงร้อง๏ คมใหม่กดหมดคมบาดจมค่อน-มิดด้ามพร้าหาผ่อนบันทอนผ่อง-ใสมัวขับจับเคล้าสีเทาคล้อง-คอถูกก่านบั่นต้องจนหมองตัว๏ กรีดบรรจงบ่งไว้บิใจแหว่ง-วิ่นชิ้นแหกแหลกแห่งขาดแบ่งหัว-หูร่างไร้คล้ายขอดเหมือนถอดคัว-เกล็ดปลาเกลี้ยงเหวี่ยงทั่วทั้งตัวทิ้ง-๏ แผลใหม่ไหม้ซ้ำเหมือนต่างเตือนมุ่ง-หมายใครได้สะดุ้งร่วงรุ่งดิ่ง-หล่นถึงเนื้อลึกใต้มิไหวติง-ดึงยุดฉุดสาวยิ่งนับนิ่งยอ๏ ปล่อยไปตามยะถาชาตาที่-ย่ำผจญหนนี้ไม่หนีหนอสยบยอมจ่อมพับลำดับพอ-เพียงแค่รานผ่านล้อของเวลา+ กิ่งโศก +พฤหัสบดี ที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๖แรม ๗ ค่ำ เดือนสิบ ปี มะเส็ง...ตอนนี้เป็นแผลที่แก้มขวา..แบบว่าโดนใบมีดโกนเข้าไป ฉึกหนึ่ง เลือดโทรมเลย หุหุ...