2 ธันวาคม 2551 10:36 น.
กิตติเวทย์
อก.....สั่นขวัญหมองไหม้ อาดูร
หัก....เจ็บใจเสียศูนย์ ป่นปี้
ดัง.....กับลูกบอลลูน ลมพัด ไปนา
เป๊าะ..แตกดังถูกบี้ แหลกร้าว ภังค์ภินท์
2 ธันวาคม 2551 10:20 น.
กิตติเวทย์
ถึง......ที่รักฟากฟ้า ไกลกัน
เธอ....ที่เคยผูกพัน ชิดใกล้
ผู้.......เป็นดั่งชีวัน เลอค่า
เป็น...ดั่งดวงตาไซร้ ของข้าเนอนา
ดวง....ใจอยู่ไกลโพ้น แดนดิน
ใจ......พี่ห่วงยุพิน ยิ่งล้ำ
อยู่.....เย็นเป็นสุขจินต์ ดีไหม
เสมอ..มั่นปองคิดย้ำ แต่เจ้าคนเดียว
มิ.......มีเพียงสักครั้ง ในจิต
เคย...ที่จะใกล้ชิด อื่นผู้
เปลี่ยน..ใจคู่ชีวิต เป็นอื่น เลยนา
ไป.....เถอะเรียนให้รู้ จบแล้วหวนคืน
2 ธันวาคม 2551 09:33 น.
กิตติเวทย์
ปริญญาตรีนี่นี้ บัณฑิต
บางพวกมากความคิด เก่งล้น
บางพวกสับสนจิต มืดมั่ว
ดีชั่วมีมากพ้น หากให้คำนวณ
บัณฑิตดังว่านี้ ทางโลก
หากขยันไม่มีตก สักผู้
บางพวกสัปหงก แอบหลับ
ครบสูตรเป็นผู้รู้ รับไว้ปริญญา
บัณฑิตเขาว่าไว้ ฉลาด
คนเก่งมากสามารถ เด่นล้ำ
ชีวิตก็สะอาด งามทั่ว
อุปสรรคมาก็ย้ำ อาจแก้ปมคลาย
บัณฑิตทุกวันนี้ ดูแปลก
บัณฑิตจิตใจแตก ชั่วช้า
บางคนชอบแตกแยก ใจชั่ว
บางพวกเป็นผู้กล้า เสพคุ้นความดี
บางคนจบสูงแท้ มหา บัณฑิต
พูดคิดทำนานา ค่าล้ำ
แต่มีพวกเย็นชา ปนอยู่
คิดชั่วปองหั่นห้ำ เพื่อสร้างประโยชน์ตน
อีกคนสุดแปลกแท้ ดุษฎี บัณฑิต
มีอยู่ยังคลุกคลี ชั่วช้า
เรียนมากน่าจะดี เป็นแบบ อย่างนา
แต่กลับมืดมัวบ้า ต่ำช้าทรชน
หลายคนจบสูงล้ำ เรียนมา
พอสบกับปัญหา มืดตื้อ
จนใจไม่อาจหา ทางออก
ถึงกับทำลายชื่อ ฆ่าให้ตัวตาย
ว่ามาคือบัณฑิต โลกีย์
ปนอยู่กับชั่วดี ติดย้ำ
ทั้งที่ความหมายมี บัณฑิต ฉลาดนา
หมายว่าปัญญาล้ำ กอปรด้วยคุณธรรม