4 พฤศจิกายน 2551 21:07 น.
กิตติเวทย์
ใกล้วันลอยกระทงปลงใจเศร้า
นั่งหงอยเหงาเหม่อมองร่ำร้องหา
เห็นคนอื่นควงคู่เดินผ่านตา
แต่ตัวข้าขาดยอดชู้คู้ชีวัน
หลายปีแล้วเศร้าสร้อยลอยกระทง
ตั้งประสงค์ให้สมหวังดังใฝ่ฝัน
ให้พบรักคู่แท้ในเร็ววัน
จึงตั้งจิตอธิฐานหลายกาลมา
แต่หลายปีก็ไม่พบประสบรัก
หรือชะตาต้องจักอนาถา
หรือไม่เคยตักบาตรร่วมกานดา
ถึงเพ้อหาอย่างไรไม่ได้ยล
ลอยกระทงคราวนี้อีกปีแล้ว
คงไม่แคล้วเปลี่ยวจิตอีกหนึ่งหน
กระทงน้อยไร้คู่สู่สายชล
ดวงกมลหม่นหมองมองกระทงฯ
3 พฤศจิกายน 2551 21:04 น.
กิตติเวทย์
เก็บหัวใจใส่ซองขาวปิดกาวแน่น
ไม่ง่อนแง่นเปิดให้สาวใดเห็น
หัวใจพี่ที่เคยมอบให้เนื้อเย็น
ยังโดดเด่นเช่นปีที่ผ่านมา
คำสัญญาว่ารักภักดิ์เพียงเจ้า
ที่สองเราเคยสาบานด่านภูผา
ยังเกริกก้องคงอยู่ไม่โรยรา
คือคำว่าชีวิตนี้มีเพียงเธอ
แม้คราวนี้เราห่างไกลในฟากฟ้า
แต่สัญญาที่มอบให้ไม่พลั้งเผลอ
ใจดวงนี้ยังขอรอพบเจอ
จะไม่เผลอไม่เลือนไม่เคลื่อนคลอน
เก็บหัวใจใส่ซองขาวปิดกาวทับ
เขียนกำกับ "แด่คนดี" ศรีสมร
เก็บใส่กล่องล็อคไว้ดังใส่กลอน
รอบังอรมาเปิดอ่านวันกลับมาฯ
3 พฤศจิกายน 2551 08:48 น.
กิตติเวทย์
รสรักลักล่อลิ้ม เลิศเลอ
จิตจ่อจดจ้องเจอ แจ่มเจ้า
ปกปิดปรี่ปรนเปรอ ปีนป่าย ไปปอง
เสพสู่สองสิ้นเศร้า สั่นสู้ซ่านทรวง ฯ
มีคู่อยู่ที่บ้าน เดียวกัน
แต่ใจกลับผูกพัน อีกผู้
ปากเธอบอกมีฉัน คนเดียว จริงนา
แต่กลับแอบมีชู้ ใจเจ้าแสนดำ
2 พฤศจิกายน 2551 19:52 น.
กิตติเวทย์
ทานมื้อเย็นกับสะเดาน้ำปลาหวาน
หมดสองจานข้าวสวยด้วยความขม
หวานน้ำปลาขมสะเดารสกล่อมกลม
อีกปลาดุกคลุกผสมอารมณ์จอย
ที่แย่คือทานคนเดียวแสนเปลี่ยวจิต
ขาดมิ่งมิตรร่วมวงคงเหงาหงอย
สะเดาขมน้ำปลาหวานควรเลิศลอย
แต่กลับด้อยรสชาติเหมือนคาดการณ์
คงวิเศษหากมีใครร่วมวงด้วย
ไม่ต้องสวยแค่ใจดีมีสมาน
น้ำปลาหวานคงหวานล้ำฉ่ำดวงมาน
สะเดาขมก็คงต้านหวานหนีไปฯ
1 พฤศจิกายน 2551 20:00 น.
กิตติเวทย์
คืนจันทร์แจ่มแซมดาวสกาวฟ้า
มีแจ่มจันทร์เคียงข้าฟ้าสวยใส
ยิ่งจันทร์แจ่มแจ่มจันทร์ยิ่งอำไพ
โอ้..สุขใจยิ่งล้ำฉ่ำดวงจินต์