26 ตุลาคม 2551 22:59 น.
กิตติเวทย์
แม้ลูกยิงจะแฉลบแบบฟลุ๊คฟลุ๊ค
แต่ก็ปลุกใจหงส์ตรงเป้าหมาย
หวังกระชากแชมป์ที่รอแฟนมากมาย
แดงเฉิดฉายเหนือสิงห์ผีปืนกล
เล่นกันดีจริงจริงยิ่งคืนนี้
เหมือนจะชี้แชมป์ลีกอีกสักหน
อลอนโซ่โชว์เพลงเท้าสะเด่าชน
เจอร์ราด์ดก็อีกหนึ่งคนจึงผลงาม
เดิร์กเค้าเล่าก็ขยันวิ่งไม่หยุด
กายไม่ทรุดไม่หยุดเก่งน่าเกรงขาม
ว่าไปแล้วทุกตำแหน่งแข่งลือนาม
จึงคว้าสามแต้มนำฉ่ำดวงจินต์
จึงประกาศสดุดีอย่างมีสุข
ปวงความทุกข์เคยมีลี้หายสิ้น
คืนนี้คงนอนหลับนับสุบิน
หงส์โบยบินถิ่นฟ้านภาลัย
26 ตุลาคม 2551 11:05 น.
กิตติเวทย์
ยามดึกดื่นคืนค่ำรำพึงเศร้า
ถึงน้องเจ้าคนไกลใจหงอยเหงา
ลมเฉื่อยฉิวทิวไผไหวแผ่วเบา
อยากจะเดาเจ้าฝากลมชื่นชมมา
ยามดึกดื่นคืนนั้นใต้จันทร์แจ่ม
ยังแต่งแต้มหัวใจให้ครวญหา
แม้คืนนั้นและคืนนี้มีจันทรา
แต่ต่างกันราวดินฟ้าอุรารมณ์
ค่ำคืนนั้นจันทราฟ้าสว่าง
เจ้าเคียงข้างกายใจไร้ขื่นขม
อิงแอบกันพรอดรักภักดิ์ชื่นชม
หริ่งระงมดนตรีนี้คืนนั้น
แต่คืนนี้ไม่เป็นเช่นคืนนั้น
แม้เพ็ญจันทร์แจ่มฟ้าข้าโศกศัลย์
จันทร์ส่องฟ้าแต่ข้าเหงาเศร้าจาบัลย์
ฝากคำฉันท์ถึงทรามวัยได้ไหมจันทร์
ฝากบอกเธอข้าเพ้อ ณ ที่เก่า
ที่สองเราเคยนั่งร่วมสร้างฝัน
ใต้ร่มไม้ใต้เงาใต้แสงจันทร์
สัญญามั่นฉันคู่เธอไม่เผลอใจ
อยู่แห่งไหนขอให้รู้พี่ครวญคร่ำ
ฝากถ้อยคำกับลมพรมพลิ้วไหว
ฝากจันทราส่องซึ้งถึงทรามวัย
บอกความนัยคำนี้ "พี่รักเธอ"ฯ
26 ตุลาคม 2551 09:38 น.
กิตติเวทย์
เลี้ยงกูดูแลกู
ให้เฝ้าอยู่แต่ดาดฟ้า
จากเล็กจนโตมา
ตัดมรรคาการหากิน
พอโตมึงกลับไล่
ให้กูไปจากเคยชิน
ชีวิตบนผืนดิน
กูจักผินหน้าพึ่งใคร
หากคิดทำแบบนี้
ไยรอรีจนเติบใหญ่
ยามที่กูเยาว์วัย
ควรสอนให้กูหากิน
คิดดูกูไม่เคย
สักครั้งเลยไปต่างถิ่น
แล้วกูจะหากิน
เลี้ยงชีวินได้อย่างไร
หากมึงถูกเลี้ยงดู
ให้กินอยู่ในบ้านใหญ่
นานปีห้ามออกไป
อยู่แต่ในบ้านหลังงาม
วันหนึ่งเขาก็บอก
ให้มึงออกโดยไม่ถาม
แล้วมึงจะรู้ความ
ที่กูพล่ามให้มึงฟัง
ไม่รู้จะนอนไหน
มึงเอ๋ย! ใจไร้ความหวัง
อาหารจะประทัง-
-ชีพก็ยังหาไม่เป็น
กูเจอหมาตัวโต
มันโมโหมาไล่เข็น
ข่มขู่อย่างเลือดเย็น
ว่านี่เป็นถิ่นของมัน
กูกลัวใจแทบวาย
เกือบสลายไหวหวาดหวั่น
มืดค่ำยิ่งหนาวสั่น
ต้องร้องลั่นรินน้ำตา
หากได้ขอได้ไหม
ขอกลับไปยังดาดฟ้า
เพราะนั่นคือเคหา
ที่อยู่มาแต่เยาว์วัย
หากแม้นว่าได้กลับ
กูคงหลับตาตอนตาย
แม้อดทั้งเช้าสาย
ก็สุขใจตายบ้านกูฯ
25 ตุลาคม 2551 16:07 น.
กิตติเวทย์
งามหนองามหน้าผากริมปากงาม
งามคิ้วงามตาเด่นงามเส้นผม
งามจมูกงามแก้มแกมคอกลม
งามพรั่งพรมนมเนื้อเสื้อก็งาม
เท่าที่ดูพธูงามตามที่กล่าว
แต่สิ่งหนึ่งนั้นเล่าเฝ้าไถ่ถาม
ใจของเจ้างามไหมแม่นงราม
นี่แหละคือคำถามงามไหมเธอฯ
18 ตุลาคม 2551 08:46 น.
กิตติเวทย์
แสงนวลของหิ่งห้อย กลางไพร
หาช่วยคลายจิตใจ สร่างเศร้า
นวลปรางอยู่หนใด ในถิ่น สกลนา
ดึกดื่นจันทร์ส่องเย้า ยิ่งเศร้า เหงาทรวง
ดึกดื่นเช่นนี้ช่างเงียบเหงาเสียนี่กระไร
ดูดวงดาวที่สุกใสเริ่มลาลับจากฟากฟ้า
ดวงเดือนที่เคยจ้าก็หายลับไปกับดาว
ฟากฟ้าคงเหงาหากมันรู้สึกได้
ฟ้าเอยอย่าเหงาใจข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า
จะร้องเพลงให้เจ้าฟัง ฟังสิฟังสิข้าร้องแล้ว
น้ำตาของเจ้าเป็นสายฝนชะโลมดิน
แต่น้ำตาข้าสิ หาประโยชน์อันใดมิได้เลย
ฟ้าเอยพรุ่งนี้ดวงดาวจะกลับมาหาเจ้าอีก
เจ้าอย่าโศกเศร้าไปเลย..นะนะนะฟ้า
.ฮือ..ฮือฮือ ฯฯฯฯ