30 ตุลาคม 2551 21:43 น.
กิตติเวทย์
หลายวันผ่านเห็นเธอนั่งเหม่อเหงา
ดวงตาเศร้าหมองหม่นจนมองเห็น
ตั้งแต่เช้าผ่านบ่ายจนกลายเย็น
ก็ยังเห็นเธอเหม่อเพ้อเดียวดาย
อยากจะไปปลอบใจให้คลายเศร้า
ข่มความเหงาที่มีให้หนีหาย
จะไม่ถามถึงความช้ำระกำใจ
เพียงแค่ใฝ่คลายหม่นหมองคลองอุรา
หากพี่นี้เข้าไปหาจะว่าไหม
มาทำไมไม่ได้ปองร้องเรียกหา
อยากจะอยู่คนเดียวดังผ่านมา
โอ้น้องยาสงสารเจ้าที่เหงาใจ
30 ตุลาคม 2551 10:49 น.
กิตติเวทย์
ครู คือผู้สอนศิษย์บอกทิศให้
กระ เกรียมไว้เป็นทุนหนุนสดใส
ดาษ ดื่นดกครูดีมีทั่วไทย
ทราย หลากหลายสีสรรค์คือปัญญา
ครู ผู้ให้ความรู้คู่ลูกศิษย์
กระ ตุ้นจิตคิดดีมีศึกษา
ดาษ ดาพาทำนำวิญญาณ์
ทราย นั้นหนาคือความรู้คู่ชีวัน
29 ตุลาคม 2551 21:57 น.
กิตติเวทย์
สมหวังก็หลั่งล้น นองเนตร
ขมขื่นก็ท่วมเขต สองเบ้า
ใยเจ้าช่างมากเลศ อัสสุ เจ้าเอย
ทุกข์สุขเอ็งคลอเคล้า กับข้าฤาไฉน ฯ
28 ตุลาคม 2551 22:42 น.
กิตติเวทย์
ปัง ปัง ปัง เสียงปังเสียงดังลั่น
หนุ่มคนนั้นไหวสั่นพลันล้มกลิ้ง
ชายภูมิฐานสามนายไม่ประวิง
จ้ำอ้าววิ่งไปดูรู้ผลพลัน
ข้างศพพบกระเป๋าหนังใบใหญ่
ดูข้างในยาบ้ามีหลายสีสัน
เสียงปืนปังมนต์ขลังวิสามัญ
อีกเสียงหนึ่งร้องลั่น พ่ออย่าตายฯ
28 ตุลาคม 2551 10:23 น.
กิตติเวทย์
เสียงชายหนุ่มคนนั้นฟันมีดฉับ
ให้นึกนับกลับหลังเมื่อครั้งเก่า
ถูกมีดบาดเลือดซิบแค่บางเบา
แต่ทำเอาเจ็บปวดรวดร้าวใจ
เจ้าคงเจ็บมากมายใช่ไหมนั่น
เสียงเอี๊ยดลั่นสนั่นโครมลมวูบไหว
ฟันฉับฉับสลับก้านผ่านกิ่งใบ
ยางหยดไหลรดพื้นยืนมองดู
เสียงเอี๊ยดก้องร้องไห้ใช่ไหมนั่น
ยางหยดนั้นหยาดน้ำตาน่าอดสู
หากเปล่งเสียงได้บ้างคงพรั่งพรู
ใครต่อใครคงรับรู้ว่าเจ้าครวญฯ