31 สิงหาคม 2552 19:18 น.
กิตติกานต์
...ซื้อไหมจ๊ะหัวใจใบละร้อย
จะติดสอยตามไปในทุกที่
เป็นหัวใจว่างว่างทุกอย่างดี
ยังไม่มีใครจองเลยห้องใจ
...ซื้อไหมจ๊ะหัวใจที่ใสซื่อ
มิเคยดื้องอแงแค่ร้องไห้
เป็นห้องโล่งเย็นฉ่ำดาวรำไร
ยังไม่มีผู้ใดได้ครอบครอง
...ซื้อไหมจ๊ะหัวใจที่แสนขี้อ้อน
จะเว้าวอนพาทีมิมีหมอง
จะชวนชี้ชมดาวเราเฝ้ามอง
ลองไตร่ตรองให้ซึ้งจึงลองซื้อ
...ซื้อกี่ดวงคนดีใยมิบอก
หรือมาหลอกชมใจที่ใสซื่อ
ใจที่ขายล้วนใจที่ใครลือ
ผ่านฝึกปรือทุกข์ยากขวากหนามคม
...ซื้อไหมจ๊ะหัวใจที่แกร่งกล้า
ปรารถนาเพียงลุกได้ในยามล้ม
จะเป็นแรงพลังใจให้ชื่นชม
ยามตรอมตรมจะปลอบใจให้คลายจาง
...เหลือเพียงใจ คนขายใจ ที่ไม่ขาย
และบ๊ายบายหากผู้ใดหมายเคียงข้าง
สี่ห้องใจสุขเยือนมิเลือนราง
เพราะถอดวางมอบให้ใครบางคน......
..............................................................
..............................................กิตติกานต์.
24 สิงหาคม 2552 14:12 น.
กิตติกานต์
...มือจับมือก้าวเดินเพลินใจนัก
รักผูกรักสนิทแนบแอบไออุ่น
ใจอิงใจสายสัมพันธ์หวานละมุน
ตาสบตาเคยคุ้นหนุนตักนอน
...หลับตาลงคงมั่นสัญญารัก
ส่งใจภักดิ์หนักยิ่งดั่งสิงขร
ห้วงคำนึงห่วงหาล้วนอาทร
ฟังคำอ้อนจนหัวใจไหวรำพัน
...จะเหนื่อยหนักแค่ไหนใจไม่ท้อ
เธอคอยต่อกำลังใจไม่ไหวหวั่น
ระยะทางห่างไกล...ใจใกล้กัน
ฟ้ามิกั้น...ทุกอย่างระหว่างเรา
...คิดถึงจนหมดใจรู้ไหมเอ่ย
เธอเฉลยคำรำพันในวันเหงา
ขอตอบกลับกระซิบเสียงเพียงเบาเบา
ยังคอยเฝ้ารอยจุมพิตพิชิตหทัย...
...จะคอยวันได้พบประสบพักตร์
จะร้อยรักงดงามติดตามได้
จะคอยฟังเพลงกล่อมจากจอมใจ
อิงอกในยอดชีวิตทุกนิทรา.
.........................................................
..........................................กิตติกานต์.
20 สิงหาคม 2552 21:06 น.
กิตติกานต์
เป็นคำถามเล่นเล่นเมื่อเย็นนี้
ต่างชวนชี้ทักทายชวนไต่ถาม
เพียงผ่อนคลายจากงานผ่านวันยาม
เพียงลืมความเมื่อยหมองของจิตใจ
คำถามหนึ่งสะดุดให้ใคร่ครวญคิด
หนึ่งชีวิตผูกพันไม่หวั่นไหว
ถามเล่นเล่น...รักแท้ แพ้อะไร
อาจจะได้คำตอบที่ชอบจริง...
ถามเล่นเล่น...ตอบจริงไว้ก็ไม่ว่า
หากเมตตาวอนตอบขอบคุณยิ่ง
รักเอยรัก สนิทแนบหวังแอบอิง
อยากรู้จริงรักแท้...แพ้อะไร........?
............................................................
..............................................กิตติกานต์
12 สิงหาคม 2552 23:12 น.
กิตติกานต์
จะมีใครรักเราได้เท่าแม่
เป็นรักแท้ยิ่งใหญ่ไร้เขตกั้น
รักของแม่แสนอุ่นคุณอนันต์
เป็นขอบรั้วป้องกันภยันตราย
เติบโตมายืนหยัดได้ในวันนี้
เพราะเลือดเนื้อแม่พลีมีหนีหาย
ทางที่แม่ปูวางต่างเรียงราย
ให้ลูกได้ย่ำกรายสู่ปลายทาง
ในวันนี้แม่เหนื่อยแท้และแก่เฒ่า
เหลือเพียงเราจงเฝ้าดูอย่ารู้ห่าง
สองมือแม่แก่กร้านงานละวาง
บางวันครางครวญด้วยเจ็บป่วยกาย
วัยชรารุมเร้าแม่เศร้าจิต
ขณะชีวิตเดินไป...ใกล้จุดหมาย
สบตาแม่...น้ำตาแต้มลงแก้มลาย
ไม้ใกล้ฝั่ง จะวางวาย กระไรฤา
กอดแม่ไว้...ในอ้อมแขนแทนแม่กอด
เพ้อคำพรอด...แทนแม่พรอดมิได้หรือ
ป้อนแม่แทน...แม่ป้อนเคยอ้อนมือ
เพราะนั่นคือ...ฝีมือแม่แต่ก่อนมา
แม่คงหวังเพียงอยาก...ฝากผีไข้*
จงเชื่อใจที่ฝังปลูกลูกเถิดหนา
แต่แบเบาะจนเติบโตโอ้เลี้ยงมา
สอนให้ไขว่ให้คว้าจนกล้าบิน
พระคุณแม่ยิ่งใหญ่กว่าใดอื่น
ผ่านวันคืนรอยเมตตาพาถวิล
สองมือลูกผูกสมัครภักดิ์ดวงจินต์
มิมีสิ้นห่วงใยในมารดา
ก่อนที่แม่พักกายใจในคืนนี้
ขอลูกเอ่ยวจีนี้เถิดหนา
ซึ้งในรักพระคุณแม่ทุกเวลา
ขอสัญญาเดินระหว่างทางแม่ปู.
.........................................................
...............................................กิตติกานต์
*ฝากผีไข้ = ฝากผีฝากไข้
กล่าวกันว่า เส้นทางที่ก้าวเดินไปนั้น
ย่อมมิได้โรยด้วยกุหลาบ...
แต่คำสอนของแม่นั้น
ดีงามเสมอ...
หากได้เดินทางตามคำสอนของแม่
เสมือนว่า ได้เดินอยู่บนกลีบดอกไม้
ที่หอม และอ่อนนุ่ม...
3 สิงหาคม 2552 18:43 น.
กิตติกานต์
ขอบอกว่ารักแม่...ขอเขียนถึงแม่..ไว้ที่บ้านกลอนของเรา....*_*....
แม่...
๑...
มือของแม่หยาบกร้านเพราะงานหนัก
มือทอถักรักอุ่นละมุนหวาน
มือปัดเป่าไล่หนาวความร้าวราน
มือประสานความเป็นไปในชีวิต
ด้วยมือแม่ผลักดันฝันยิ่งใหญ่
ด้วยหัวใจไม่ตอกย้ำกรรมสิทธิ์
ด้วยดวงตามองเล็งเพ่งพินิจ
ด้วยดวงจิตแห่งการให้ไม่รู้เลือน
จากวันแรกสู่โลกใหม่กว้างใหญ่นี้
เฝ้าถนอมดวงฤดีใครมิเหมือน
จากวันสู่เดือนปีที่ย้ำเตือน
เป็นทั้งเพื่อน ทั้งแม่แต่นานเนา
ยอมตรากตรำทำงานจนกร้านแกร่ง
ยอมเหนื่อยแรงแห่งกายที่ไล่เร้า
ยอมอดนอนบนหมอนหนุนที่อุ่นเบา
ยอมเพื่อเรา...หลับตาพริ้มอิ่มสบาย
๒...
จะกี่วันผันผ่านแม้นานนัก
แต่ความรักของแม่มิแปรหาย
ยังคงมั่นอุ่นอาบตราบวันตาย
ไม่สลายเลือนร้างจืดจางลง
ในความดี ความชั่วของตัวลูก
แม่พันผูกรับได้ใจยังส่ง
กำลังใจ ต่อใจ ให้ยืนยง
รักแม่คงเสมอต้นเสมอปลาย
จะมีใครรักเราได้เท่าแม่
ยามท้อแท้ปลอบปลุกจนลูกหาย
ปาดน้ำตาที่ช้ำตรมขมขื่นคลาย
หลอมละลายทุกข์โศกจนโลกคลอน
๓...
ขอกราบแม่ด้วยดวงใจที่ให้ลูก
ที่พันผูกท่ามระหว่างยังขวัญอ่อน
กราบขอบคุณอุ่นอกเหลือเอื้ออาทร
ที่พร่ำสอนวอนว่าเมตตาธรรม
ขอตอบแทนค่าน้ำนมเพาะบ่มจิต
ให้ชีวิตสดใสได้อิ่มหนำ
ขอถ้อยหวานขานขับรับน้ำคำ
เพียงจะย้ำว่ารักแม่อุ่นแดดวง
สัญญาว่าจะเคียงอยู่คู่คำแม่
มอบรักแท้ปันไปอย่าได้ห่วง
คำแม่สอนจะประทับอยู่กับทรวง
ส่งถึงสรวงด้วยรัก...จากหัวใจ.
.........................................................
.......................................กิตติกานต์