20 สิงหาคม 2552 21:06 น.
กิตติกานต์
เป็นคำถามเล่นเล่นเมื่อเย็นนี้
ต่างชวนชี้ทักทายชวนไต่ถาม
เพียงผ่อนคลายจากงานผ่านวันยาม
เพียงลืมความเมื่อยหมองของจิตใจ
คำถามหนึ่งสะดุดให้ใคร่ครวญคิด
หนึ่งชีวิตผูกพันไม่หวั่นไหว
ถามเล่นเล่น...รักแท้ แพ้อะไร
อาจจะได้คำตอบที่ชอบจริง...
ถามเล่นเล่น...ตอบจริงไว้ก็ไม่ว่า
หากเมตตาวอนตอบขอบคุณยิ่ง
รักเอยรัก สนิทแนบหวังแอบอิง
อยากรู้จริงรักแท้...แพ้อะไร........?
............................................................
..............................................กิตติกานต์
12 สิงหาคม 2552 23:12 น.
กิตติกานต์
จะมีใครรักเราได้เท่าแม่
เป็นรักแท้ยิ่งใหญ่ไร้เขตกั้น
รักของแม่แสนอุ่นคุณอนันต์
เป็นขอบรั้วป้องกันภยันตราย
เติบโตมายืนหยัดได้ในวันนี้
เพราะเลือดเนื้อแม่พลีมีหนีหาย
ทางที่แม่ปูวางต่างเรียงราย
ให้ลูกได้ย่ำกรายสู่ปลายทาง
ในวันนี้แม่เหนื่อยแท้และแก่เฒ่า
เหลือเพียงเราจงเฝ้าดูอย่ารู้ห่าง
สองมือแม่แก่กร้านงานละวาง
บางวันครางครวญด้วยเจ็บป่วยกาย
วัยชรารุมเร้าแม่เศร้าจิต
ขณะชีวิตเดินไป...ใกล้จุดหมาย
สบตาแม่...น้ำตาแต้มลงแก้มลาย
ไม้ใกล้ฝั่ง จะวางวาย กระไรฤา
กอดแม่ไว้...ในอ้อมแขนแทนแม่กอด
เพ้อคำพรอด...แทนแม่พรอดมิได้หรือ
ป้อนแม่แทน...แม่ป้อนเคยอ้อนมือ
เพราะนั่นคือ...ฝีมือแม่แต่ก่อนมา
แม่คงหวังเพียงอยาก...ฝากผีไข้*
จงเชื่อใจที่ฝังปลูกลูกเถิดหนา
แต่แบเบาะจนเติบโตโอ้เลี้ยงมา
สอนให้ไขว่ให้คว้าจนกล้าบิน
พระคุณแม่ยิ่งใหญ่กว่าใดอื่น
ผ่านวันคืนรอยเมตตาพาถวิล
สองมือลูกผูกสมัครภักดิ์ดวงจินต์
มิมีสิ้นห่วงใยในมารดา
ก่อนที่แม่พักกายใจในคืนนี้
ขอลูกเอ่ยวจีนี้เถิดหนา
ซึ้งในรักพระคุณแม่ทุกเวลา
ขอสัญญาเดินระหว่างทางแม่ปู.
.........................................................
...............................................กิตติกานต์
*ฝากผีไข้ = ฝากผีฝากไข้
กล่าวกันว่า เส้นทางที่ก้าวเดินไปนั้น
ย่อมมิได้โรยด้วยกุหลาบ...
แต่คำสอนของแม่นั้น
ดีงามเสมอ...
หากได้เดินทางตามคำสอนของแม่
เสมือนว่า ได้เดินอยู่บนกลีบดอกไม้
ที่หอม และอ่อนนุ่ม...
3 สิงหาคม 2552 18:43 น.
กิตติกานต์
ขอบอกว่ารักแม่...ขอเขียนถึงแม่..ไว้ที่บ้านกลอนของเรา....*_*....
แม่...
๑...
มือของแม่หยาบกร้านเพราะงานหนัก
มือทอถักรักอุ่นละมุนหวาน
มือปัดเป่าไล่หนาวความร้าวราน
มือประสานความเป็นไปในชีวิต
ด้วยมือแม่ผลักดันฝันยิ่งใหญ่
ด้วยหัวใจไม่ตอกย้ำกรรมสิทธิ์
ด้วยดวงตามองเล็งเพ่งพินิจ
ด้วยดวงจิตแห่งการให้ไม่รู้เลือน
จากวันแรกสู่โลกใหม่กว้างใหญ่นี้
เฝ้าถนอมดวงฤดีใครมิเหมือน
จากวันสู่เดือนปีที่ย้ำเตือน
เป็นทั้งเพื่อน ทั้งแม่แต่นานเนา
ยอมตรากตรำทำงานจนกร้านแกร่ง
ยอมเหนื่อยแรงแห่งกายที่ไล่เร้า
ยอมอดนอนบนหมอนหนุนที่อุ่นเบา
ยอมเพื่อเรา...หลับตาพริ้มอิ่มสบาย
๒...
จะกี่วันผันผ่านแม้นานนัก
แต่ความรักของแม่มิแปรหาย
ยังคงมั่นอุ่นอาบตราบวันตาย
ไม่สลายเลือนร้างจืดจางลง
ในความดี ความชั่วของตัวลูก
แม่พันผูกรับได้ใจยังส่ง
กำลังใจ ต่อใจ ให้ยืนยง
รักแม่คงเสมอต้นเสมอปลาย
จะมีใครรักเราได้เท่าแม่
ยามท้อแท้ปลอบปลุกจนลูกหาย
ปาดน้ำตาที่ช้ำตรมขมขื่นคลาย
หลอมละลายทุกข์โศกจนโลกคลอน
๓...
ขอกราบแม่ด้วยดวงใจที่ให้ลูก
ที่พันผูกท่ามระหว่างยังขวัญอ่อน
กราบขอบคุณอุ่นอกเหลือเอื้ออาทร
ที่พร่ำสอนวอนว่าเมตตาธรรม
ขอตอบแทนค่าน้ำนมเพาะบ่มจิต
ให้ชีวิตสดใสได้อิ่มหนำ
ขอถ้อยหวานขานขับรับน้ำคำ
เพียงจะย้ำว่ารักแม่อุ่นแดดวง
สัญญาว่าจะเคียงอยู่คู่คำแม่
มอบรักแท้ปันไปอย่าได้ห่วง
คำแม่สอนจะประทับอยู่กับทรวง
ส่งถึงสรวงด้วยรัก...จากหัวใจ.
.........................................................
.......................................กิตติกานต์
28 กรกฎาคม 2552 08:39 น.
กิตติกานต์
๒๙ กรกฎาคม วันภาษาไทยแห่งชาติ....ร่วมรักษ์ภาษาไทยกันนะคะ
...ภาษาไทยคือนิยามความเป็นชาติ
ใครมิอาจเหยียดหยามประณามได้
เอกลักษณ์เด่นล้ำ...ความเป็นไทย
เกียรติศักดิ์ธำรงไว้ในแผ่นดิน
...๗๒๗ ปี ลายสือไทยให้คุณค่า
ร่วมรักษาสืบสานเป็นวรรณศิลป์
สละสลวยเรียงถ้อยร้อยคำริน
ไทยทั่วถิ่นภูมิใจใช้เจรจา
...กิจการงานชื่นจิตสัมฤทธิ์ผล
ไทยทุกคนชื่นใจในภาษา
ใช้เขียน พูด อ่านกันแต่นานมา
เป็นวัจนภาษาคุณค่างาม
...ร่วมตระหนักคุณค่าภาษาชาติ
ให้วิลาศวิไลในสยาม
สื่อภาษาจรุงคำลำนำความ
เลื่องลือนามรักษ์ค่าภาษาไทย
...มาร่วมมือ ร่วมใจให้คุณค่า
ใช้ภาษาถูกความตามสมัย
หลักภาษาไวยากรณ์อย่านอนใจ
โปรดจงใช้ถูกต้องทำนองคำ
...ร่วมผูกคำสร้างสรรค์เป็นวรรรณศิลป์
น้ำคำรินรสหวานวันยังค่ำ
ทั้งร้อยแก้ว ร้อยกรองคล้องลำนำ
งดงามล้ำภูมิใจไปนิรันดร์.
....................................................................
............................................กิตติกานต์
26 กรกฎาคม 2552 16:33 น.
กิตติกานต์
จาก ร่าน สู่ ผีเสื้อ...จากผีเสื้อ สู่ ปรัชญา...ผีเสื้อ
................................*_*................................
...ขยับปีกรำร่ายหมายให้โลก
ลืมทุกข์โศกได้บ้าง...ในบางหวัง
อาหารตา อาหารใจได้ประทัง
อย่าชิงชังปวงข้า...นรากร
...วะวับแวมหลากหลายลายสีศิลป์
เจ้าโบกบินรำร่าย...หลายวันก่อน
ผ่านทิวาราตรี...กี่อาทร
ผีเสื้อเอย...เจ้ารำฟ้อนนอนที่ใด
...หรือว่าใช้ช่วงเวลา...คุ้มค่าแล้ว
จึงผะแผ่ว...ปีกล้ามิฝ่าได้
หรือมิอาจสู้อธรรม...ที่ล้ำใจ
จึงลาร้างให้โลกวุ่นสิ้นอุ่นครอง
...ดูดน้ำทิพย์ของดอกไม้จนไหวหวาน
เกาะกิ่งก้านระยับเหลือเมื่อแสงส่อง
แต่มิใช่หมายใจ...ใครจับจอง
คนทั้งผองขอเพียงพบ...สยบใจ
...จนกาลผ่านคืนวันสิ้นฝันฝาก
เหลือเพียงซากขาดวิ่นยลยินไหม
"ปรัชญา...ผีเสื้อ"เหลือสิ่งใด
จะฝากไว้...กล่าวถึง...จึงฝากคำ.
...................................................................
....................................................กิตติกานต์