29 กรกฎาคม 2555 18:18 น.
กิตติกานต์
"เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล
จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ "
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หากวันหนึ่ง ตื่นมาแล้วพบว่า
โลกเบื้องหน้า พูดจา ภาษาอื่น
ความเป็นไทยถูกโค่นล้มทั้งยืน
เราจะชื่นอยู่ได้ อย่างไรกัน
เมื่อต้องเรียนรู้เรื่องภาษาอื่น
เราควรมีจุดยืนอย่างสร้างสรรค์
ภาษาไทยเอกลักษณ์อันสำคัญ
บ้าง...ลืมกันไปแล้ว หรืออย่างไร ?
เศรษฐกิจ การเมืองเรื่องใหญ่ยิ่ง
ความเป็นจริงเราตระหนักกว่าสิ่งไหน
เพราะเป็นการพัฒนาประเทศไทย
แต่ถ้าใครทิ้งภาษาก็น่าอาย
ภาษาไทยเป็นของไทยใช่เมืองขึ้น
เราจงตื่นดูตัวอย่างอันหลากหลาย
ภาษาไทยใช้มาแต่ตายาย
อย่าได้หน่ายเขียนอ่านสื่อสารตรง
จำเป็นที่ต้องเรียน- ใช้ ภาษาอื่น
ก็จงมีจุดยืนไว้อย่าใหลหลง
เขียนไทยถูก ใช้ถูกคำตามจำนง
ภาษาคงเอกลักษณ์ไทยได้ยืนนาน
ท่ามกลางโลกไร้พรมแดนอันแสนกว้าง
หลากภาษาหลากทางต่างสื่อสาร
ความสำคัญก็เห็นได้ ใช่ดักดาน
ทุกหย่อมย่านเกิดมาพูดจาไทย
ขอคนไทยร่วมใจรักษ์ภาษา
สร้างคุณค่าอักษรสยามความยิ่งใหญ่
เรามิเคยเป็นข้าแผ่นดินใด
ภาษาไทยคุ้มหล้ามาตุภูมิ.
กิตติกานต์
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๕
2 เมษายน 2554 23:50 น.
กิตติกานต์
...โลกเมื่อก่อนตอนฉันยังเด็กน้อย
แม่พ่อคอยใส่ใจให้อ่านเขียน
ถูกปลูกฝังนิสัยรักการเรียน
จนบัดนี้มิแปรเปลี่ยนเพียรอ่านจริง
...รักการอ่านหนังสือคือมิตรแท้
ทุกครั้งที่ย่ำแย่ในทุกสิ่ง
โลกหนังสือเตือนใจให้ประวิง
มิชังชิงการอ่านสราญรมย์
...อ่านหนังสือคือการอ่านชีวิต
วันละนิดละน้อยค่อยสะสม
ประสบการณ์คุณค่าน่านิยม
เราชื่นชมรู้ได้ไม่ยากเลย
...นิตยสารมากมายหลากหลายด้าน
ตำราอ่านครวญใคร่ได้เฉลย
หลากเรื่องราวแปลกใหม่ไม่คุ้นเคย
ใครมิอาจว่าเชยเพราะรู้คุณ
...อ่านบทความอ่านไปได้ความคิด
อ่านธรรมะน้อมจิตให้อ่อนอุ่น
อ่านบทกวีกาพย์กานท์หวานละมุน
อ่านสารคดีเพิ่มพูนปัญญาตน
...เมื่อมีทุกข์คราใดพาใจเศร้า
อ่านหนังสือแบ่งเบาความเหงาหม่น
ลำนำคำพลิ้วคลายทุรายทุรน
สุขกมลแทนค่าน่าชื่นใจ
...อันความรู้คือทรัพย์นับค่าล้น
โจรจักเบียดเบียนปล้นไปไม่ได้
อ่านหนังสือสะสมทรัพย์ภายใน
เป็นอาภรณ์งามวิไลประดับตน
...อ่านหนังสือใส่ใจได้ความรู้
เป็นอาวุธเคียงอยู่ได้รู้ผล
จะพูดจากระทำใดไม่พ่ายคน
สดับยลเห็นซึ้งถึงวิญญา
...โลกวันนี้ที่ฉันนั้นเติบใหญ่
มองเห็นความเป็นไปให้หรรษา
การอ่านยังฝังจิตสนิทอุรา
ปรารถนารสอ่านซาบซ่านใจ
...การอ่านเหมือนอาหารบำรุงจิต
เสมือนยาบำรุงชีวิตอันยิ่งใหญ่
เป็นวิตามินเสริมสร้างจากข้างใน
รู้ทันกาย - จิตใจได้สมบูรณ์
....มาร่วมใจปลูกฝังรักการอ่าน
เริ่มจากบ้านแม่พ่อก่อเคยคุ้น
ให้ความรู้คู่กายหมายเป็นทุน
เพื่อเจือจุนอนาคตให้งดงาม
.....................กิตติกานต์ *_*
4 กุมภาพันธ์ 2554 17:13 น.
กิตติกานต์
หากหัวใจของเธอกำลังทุกข์
ฉันเพียงอยากปลอบปลุกให้สุขบ้าง
เพราะเคยหวั่นและไหวแทบวายวาง
แต่ทุกอย่างผ่านได้...เพราะใจเรา
เพราะใจเราคิดไปไม่สิ้นสุด
จึงมิอาจยั้งหยุดต่อสิ่งเร้า
เมื่อใดใจหยุดพะวงคงบรรเทา
ความซบเซาห้วงหทัยจะได้เลือน
ยิ้มเถิดนะคนดีที่แสนรัก
โลกใบนี้ทายทักอยู่เป็นเพื่อน
เมื่อฟ้าค่ำลมหนาวชมดาวเดือน
ฉันจะเยือนสบตาในราตรี
" กำลังใจ" วุ้นเส้น : กิตติกานต์
4 กุมภาพันธ์ 2554
16 มกราคม 2554 08:13 น.
กิตติกานต์
แด่ พระคุณที่สาม....
เด็กเหมือนดั่งดอกไม้หลายสี
ผลิดอกคอยแสงรพีที่ส่องฉาย
ปลูกมาจากต่างถิ่นทั้งดินทราย
เพียงมาหมายปั้นได้ในมือครู
ภาระหน้าที่ของครู เหนื่อยแสนสาหัส
สิ่งที่ได้ทำในหน้าที่ครูในวันนี้ ทำให้หวนย้อยไปถึงเมื่อวัยเยาว์
ว่าครูผู้อบรม สั่งสอนเรา ท่านเหนื่อยใจ เหนื่อยกายเพียงไร
ทุกวัน...ได้ตระหนักทุกๆอย่างที่ครูผู้สั่งสอนต้องพบเจอ...
แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่าง...อาจไม่ทั้งหมด
นั่นคือ เด็กในปัจจุบันนี้สอนยาก ไม่เห็นความสำคัญของการศึกษาเหล่าเรียนนัก
อีกทั้ง ไม่ค่อยเคารพในครูเหมือนเมื่อเราเป็นเด็กๆ
การเป็นครูในวันนี้
หลายสิ่งหลายอย่างถูกตั้งคำถามอยู่ในใจ
เพียงแค่เราหวั่นไหว ไม่เชื่อมั่น ขาดศรัทธาในความเป็นครู
เชื่อว่า คงจะอยู่บนเส้นทางนี้อย่างไม่มีความสุข...
สำหรับฉัน...จะทำหน้าที่ของครูให้ดีที่สุด
เหมือนเมื่อวัยเยาว์ที่ได้รับจากครูในดวงใจ
แด่ พระคุณที่สาม...
ที่ยังมีชีวิตอยู่และบางท่านได้อำลาโลกนี้ไปแล้ว...
..........................................................................
วุ้นเส้น กิตติกานต์
๑๖ มกราคม ๒๕๕๔
8 มกราคม 2554 00:22 น.
กิตติกานต์
...เมื่อได้สบตา...คู่นั้น
โลกของฉันก็อ่อนไหว
ที่เคยแข็งกร้าวในจิตใจ
ถูกดวงตาไร้เดียงสา...กลบกลืน
...โลกทั้งโลกกลับงดงาม
คืนนิยามความสดชื่น
คืนรอยฝันของวันคืน
ที่เป็นอื่น...กลับคืนมา
ฉันพ่ายแพ้...ตาคู่นั้น
เต็มรอยฝันความเดียงสา
พิสุทธิ์ใสไร้มายา
เปล่งประกายแววตา...มาทายทัก
...สองมือมิแปดเปื้อน
มิเคยเอื้อมดาวเดือนมิรู้จัก
มิพูดคำว่ารัก แต่ว่ารัก
ให้ผู้ใหญ่รู้จักตระหนักคิด
...เมื่อยามยิ้มยิ้มจริงใจ
มิเคยใช้มารยาดัดจริต
สองแก้มแสนงามยามพินิจ
แม้จะติดขี้มูกก็ผูกใจ
...โลกของเจ้าผืนผ้าขาว
อยากวาดดาวพราวแสงใส่
ชีวิตละมุนละไม
ห่างไกลจากภัยทั้งปวง
...เมื่อได้สบตาคู่นั้น
ห้วงแห่งความฝันก็หมดห่วง
มิใช่นาทีการตักตวง
ขออย่าล่วงล้ำดวงตางาม.
วุ้นเส้น : กิตติกานต์
วันเด็กแห่งชาติ 2554