20 มีนาคม 2551 03:39 น.
การัณยภาส
ไปเที่ยวผับ กลับดึกดื่น ตื่นไม่ไหว
ทั้งร้องรับ เต้นสลับไป หลายร้อยหน
ถึงบ้านแล้ว นอนเร็วรวด ไม่สวดมนต์
ไม่สังหรณ์ ไม่ฉงน จนเจอดี
กำลังฝัน ว่าเห็นงู เนื้อคู่ทัก
เลื้อยเข้ามา พูดว่ารัก ช่างสุขศรี
หากเสียงร้อง ที่ก้องมา ดังหลายที
ทำฉันนี้ สะดุ้งตื่น ขึ้นทันใด
คอยเงี่ยหู ดูลาดเลา เสียงเป่าร้อง
ดังหวีดก้อง ร้องโหยหวน ชวนหวั่นไหว
หนาวสะท้าน ผ่านเข้าตัว ขั้วหัวใจ
ใครหนอใคร มาร้องร่ำ ทำฉันกลัว
ดึกป่านนี้ ยังมีเสียง สำเนียงประหลาด
ดังซู้ดซ้าด ผ่านกำแพง แสงสลัว
ใจสับสน ขนลุกตั้ง ไปทั้งตัว
คว้าสร้อยพระ มาสวมหัว กลัวผีมา
เขย่าขวัญ สั่นประสาท ขยาดจิต
แต่ยังคิด อยากรู้เห็น เป็นนักหนา
จึงไล่เลียง ตามเสียงนี้ จากที่มา
แล้วแนบหน้า ส่องตาดู รูกำแพง
คนข้างห้อง ร้องครวญคราง พลางระริก
เสียงกระซิก ดังลอดล่อง ตามช่องแสง
โอ้ละหนอ พอเห็นแล้ว สิ้นเรี่ยวแรง
หายคลางแคลง เธอเมคเลิฟ กับแฟนเธอ
12 มีนาคม 2551 02:07 น.
การัณยภาส
คือความงาม อันล้ำเลิศ ประเสริฐยิ่ง
ล้วนทุกสิ่ง ถูกสรรค์สร้าง อย่างหรูหรา
ประดับพลอย กลอยแก้วเก็จ เพชรรัตน์ดารา
ทรงคุณค่า ประทับไว้ ในวิมาน
ดั่งความรัก ปักในจิต คิดฝันเฟื่อง
อร่ามเรือง แรงรุ่งโรจน์ โชติช่วงฉาน
หลงยึดมั่น ในรักนั้น นานแสนนาน
ลิ้มรสหวาน ปานน้ำผึ้ง จนซึ้งใจ
สร้างวิมาน ประสานฝัน บนชั้นฟ้า
สูงสุดหล้า นภากว้าง สว่างไสว
เป็นพยาน แห่งรักมั่น สวรรคาลัย
แสนยิ่งใหญ่ เกินจะนับ ประทับทรวง
เพียงเศษเสี้ยว เฉลียวจิต สักนิดไม่
วิมานใจ ที่โลดแล่น บนแดนสรวง
โฉมสคราญ งามจริงแท้ แค่ลมลวง
ทลายร่วง บ่วงพิศวาส ตัดขาดกัน
ดั่งความรัก ที่เลิศลอย นั้นคล้อยเคลื่อน
วิมานเลื่อน ให้เตือนจิต หยุดคิดฝัน
ลอยละลิ่ว ปลิวสลาย มลายพลัน
ขาดสะบั้น วันแสนหวาน วิมานลอย