13 มีนาคม 2552 15:38 น.
กานท์ กานต์
๏ เดือนเด่นดับพยับโพยมมิโลมโลก
ดาวก็โศกสำรอกแสงหมดแรงส่ง
เมฆาลัยที่ไหวติงพลันนิ่งลง
ใจก็ปลงหลงเลือนกับเดือนดาว
กี่ฤดูกี่กาลที่ผ่านพ้น
อีกกี่หนต้องทนรู้ฤดูหนาว
โอ้น้ำค้างกลางสถลหล่นสกาว
เซาะย่างก้าวคราวโศกให้โกรกชัน
เจ้ามิ่งขวัญอยู่หนใดช่างไกลแสน
หากว่าแม้นเจ้ากลับ รอรับขวัญ
คลายเศร้าให้เรืองไรรำไพพรรณ
บางทุกข์นั้นซึ่งซ่อนเร้นทุกเต้นใจ ฯ
...
7 มีนาคม 2552 07:19 น.
กานท์ กานต์
๏ค้นหาไต่ยอด
โอบกอดยึดแน่น
จับจดสุขแสน
ในแก่นโลกีย์
ค้นพบสิ่งใด
เห็นไป่ไม่มี
ไขว่คว้าวิ่งหนี
สักกี่หนทาง
กักเก็บกอบโกย
หิวโหยอ้างว้าง
มองเห็นความต่าง
ระหว่างวิถี
ละวางของหนัก
นึกรักษ์เสรี
สุขทุกข์?ชั่วดี ?
ตามที่ต้องการ ฯ
-กานท์ กานต์-
6 มีนาคม 2552 07:43 น.
กานท์ กานต์
๏ ใต้น้ำค้างกลางหาวในราวป่า
ใต้ผืนฟ้าเรืองรามอร่ามใส
ใต้ใบไม้ปลิวพัดสะบัดใบ
ใต้ซากไม้ซากขอนนอนระเน
ยังมีใครคนหนึ่งซึ่งซึมเศร้า
เฝ้าปลุกปลอบความเหงาเคล้าว้าเหว่
ด้วยตัวตนของตนบนผืนเปล
ไกวระเหระหนทนบนผืนกรรม
ใต้ร่มพฤกษ์ยังมีความเย็นเยียบ
ท่ามความงียบมีเสียงเพรียกของความช้ำ
ใกล้ทางจรมีเสียงคนบ่นงึมงำ
กลบความจำที่ลบเลือนหลังเตือนใจ
เขาลุกขึ้นยืนหยัดปัดฝุ่นเกาะ
ดุ่มลัดเลาะเลียบลานลงธารไหล
กระแสชลซ่านซาบอาบหทัย
เอิบอิ่มไอลบร้อนผ่อนอีกครา
ขึ้นตลิ่งเอนอิงรุกขชาติ
สูดอากาศสุดสะอ้านผ่านเทือกผา
ล้วนหลากแปลกแมกไม้ดงพงพนา
อีกปักษาบินวกวนให้ยลเพลิน
เปรียบโดนสารละลายทุกข์ที่คลุกคลั่ง
จิตก็ดั่งเป็นเช่นนกวิหคเหิน
อิสระเสรีมิมีสิ่งใดเกิน
จนเผลอเดินไปตามนกที่วกบิน
ลืมกลิ่นไอควันพิษติดจมูก
ลืมผิดถูกลืมกฏหมดทั้งสิ้น
ลืมเกรี้ยวกราดอำนาจบาดชีวิน
ลืมแม้กินกามเกียรติเสียดอารมณ์ฯ
...
5 มีนาคม 2552 14:28 น.
กานท์ กานต์
.
.
.
หากยังรักก็โปรดเถิดอย่าเชิดใส่
ถอดดวงใจวางให้แล้วนะแก้วขวัญ
อย่าได้เมินอย่าได้หมองไม่มองกัน
โธ่..ชีวันอย่าตัดพ้อให้ง้อนาน.
.
.
.
.
๏ ถอดฤทัยมาวางอยู่ข้างไหน?
จะสิ้นใจอยู่แล้วน้องแก้วเอ๋ย
ที่เคยพบมิได้พบประสบเชย
จึงมาเอ่ยออดอ้อนอักษรตาม
สุริยนเลื่อนลับลงกับที่
ดวงฤดีอยู่แดนใดให้ใจหวาม
หวั่นประหวัดกลัดกลัวทุกชั่วยาม
ดังเพลิงลามร้อนรุกทุกเสี้ยวทรวง
แม้นชาตินี้ตัวพี่ไม่มีสิทธิ์
ผู้ทรงฤทธิ์เทพไท้ในแดนสรวง
แกล้งทอนรักหักสวาทพี่ขาดร่วง
พรากขวัญดวงแลลับไม่กลับคืน
คืนวันผันผ่านเนิ่นนานนัก
ด้วยรสรักทับถมซึ่งขมขื่น
ฝันที่หวังพังหายทลายครืน
หลับคล้ายตื่นหม่นมัวทุกขั้วใจ
แรมร้างแรมทางอยู่ต่างที่
ค่ำคืนนี้บังอรเร่นอนไหน
จะนิราศระเหระหนตำบลใด
เคยบ้างไหมใจคะนึงส่งถึงมา
ฝันที่ใฝ่คงเป็นได้แค่ไฟฝัน
ด้วยรอวันสิ้นกำลังพร้อมสังขาร์
พี่รอเจ้าเฝ้าแต่หลงอย่าสงกา
ใช้อุราซึ่งซ่อนเร้นเป็นประกันฯ