7 กรกฎาคม 2550 14:53 น.
กัลลดา
ความผูกพัน
ความรัก..และวันเวลา
นำมาซึ่ง..ความผูกพัน
โดยที่เรา.ไม่ทันรู้สึกตัวมาก่อน
คนบางคนมีความรัก..และสุขที่ได้ผูกพันกับคนที่ตนรัก
อีกบางคนอยากรัก..แต่ไม่อยากผูกพัน..
สิ่งใดกันหนอ?..ที่ผูกและพัน..คู่รักเข้าไว้ด้วยกัน
ความรัก..ความคิดถึง..ความห่วงใย..การยอมรับ..การให้อภัย..
คำตอบนั้น..มีได้ร้อยแปด..พันประการ
ขอเพียง..ความรักนั้น..เกิดจากใจแท้จริง
ทุกสิ่งทุกอย่าง..ทั้งร้ายและดี..
ที่ได้เกิดขึ้นในวันเวลาที่ผ่านไป
นับตั้งแต่วินาทีที่มีใครคนนั้นอยู่ข้างในใจ
จะกลายเป็นสายใย ...ที่ไม่อาจรู้ความแข็งแรง
และไม่อาจคะเนความยาวไกล..ที่มีหน้าที่ผูกและพัน..
ใครหลายคนอาจคิดว่าการจากกัน..
อาจทำให้สายใยนี้ขาดลง...
แต่ในความเป็นจริงนั้น..
หากจากกันทั้งที่ยังรัก..
ยิ่งคิดถึง..ยิ่งห่วงหา..สายใยยิ่งแข็งแรง
หากจากกันเพราะไม่รัก..
ก็ใช่ว่าจะความผูกพันจะขาดหาย..
เพียงแต่เจ้าของ..เจ็บปวดเกินกว่าจะอยากนึกถึง
จึงเก็บมันไว้ในส่วนลึกของใจ..
เมื่อเวลาผ่านไป..เมื่อคิดถึงได้โดยที่ไม่เจ็บปวด
จะพบว่าความผูกพันไม่ได้หนีหน้าไปไหน
หากยังคงสงบนิ่ง..
รอคอยการค้นพบจากใจตัวเราเอง
ขอเพียงให้ ความผูกพัน
เป็นดั่งสายใยที่อ่อนโยน..อบอุ่น
อย่าได้กลายเป็นโซ่..ผูกล่ามหัวใจใครไว้เลย
2 กันยายน 2548 09:23 น.
กัลลดา
=
กาลครั้งหนึ่ง.....นานมาแล้ว.....
มี..อากง..แก่ๆ...อยู่คนนึ่ง...อยากจะสอนข้อคิดอะไรบางอย่างให้หลานๆ...ตามปะสาคนแก่
อากง...จึงเรียกหลานๆ
ทั้งสี่มานั่งล้อมโต๊ะสี่มุม....แล้วบอกหลานทั้งสี่ว่า
เอาล่ะหลานๆ ..ตอนนี้หลับตา..นะ..หลับตา.....
พอหลานๆหลับตา...
อากง...ก็เดินเข้าไปห้องเก็บของ...แล้วหยิบโคมไฟเก่าๆมาอันนึ่ง...
อากง...เปิดฝาครอบ...จุดไฟ...แล้วปิดฝาครอบ...
แล้ว...
อากง...ก็บอกหลานทั้งสี่...ว่า...
ลืมตาขึ้น..แล้วบอก...อากง...ซิว่าโคมไฟสีอะไร...?เด็กทั้งสี่ลืมตาขึ้น....ตอบไล่ๆ
กัน....ตอบไม่เหมือนกัน...และเริ่ม...ทะเลาะกัน....
คนที่นั่งด้านนึ่งบอกว่า...สีแดง...อีกด้านนึ่งบอกว่า...เขียว...สีเหลือง...และน้ำเงิน....ตามลำดับ...
ทั้งสี่ทะเลาะกันพักนึ่ง....
ก็มีเด็กคนนึ่งถาม...อากง...ว่า......
อากง....ทำไมของอย่างเดียวกัน...มีตั้งหลายสี...........
อากง...ก็เลยบอกว่า...เดี๋ยวนะ...อากง...จะทำอะไรให้ดู....
อากงเดินมาที่โต๊ะ...หยิบฝาครอบแล้วหมุนให้ดู...ปรากฎว่า....
ฝาครอบสี่ด้าน....สี่สี...แดง...เหลือง...เขียว...น้ำเงิน...
หลังจากนั้น...อากง...ก็บอกว่า....เอ๊าตอนนี้บอกอากงซิ...โคมไฟสีอะไร...?
หลานๆ....ตอบเหมือนกันคือสีของเปลวไฟ.....
อากง..เลยบอกว่า...เอาล่ะหลาน...อากง..ถามอะไรชักสองข้อนะ....
ข้อที่..1.....เมื่อสักครู่นี้....ครั้งแรก...ไครผิด....
หลานตอบว่า....ไม่รู้.....
อากง...บอกว่า....รึว่า...อากง..ผิด........
อากง...เลยบอกอีกว่า...ฟังนะ..เจ้าทั้งสี่..นั่งอยู่ในที่เดียวกัน.... มองของ
อย่างเดียวกัน...ในเวลาเดียวกัน...ยังเห็นไม่เหมือนกันเลย..... ทำไม..?
ทำไมถึงไม่มีใครผิดล่ะ....
อากง..เลยบอกว่า...ก็เพราะคนทุกคนมองจากมุมมอง...ของตัวเอง...เห็นในสี่งที่ตัวเองเห็น....
แต่..ถ้าเจ้าอยากเข้าใจว่าทำไมคนอื่นเห็นอย่างที่เขาเห็น...เจ้าก็เดินไปมองที่มุมของเขา
แล้วเราก็จะเห็นอย่างที่เขาเห็น....
แต่ถ้าลองนึกภาพนะ...เจ้าทั้งสี่..นั่งอยู่ที่เดียวกันมองของอย่างเดียวกัน...ในเวลาเดียวกันยังเห็นไม่เหมือนกันเล๊ย....
ในอนาคต....เวลาที่อยู่ในสังคม...เป็นไปได้มั๊ยว่าคน..ก็มองสี่งต่างๆ....ไม่เหมือนกัน......
เพราะฉนั้น....เวลาที่คนคิดไม่เหมือนเรา....ใครผิด...
ในอนาคตนะ...เวลาที่เจ้าคิดไม่เหมือนคนอื่น....อย่าไปโกรธว่าเขาผิด...อย่าไปกลัวว่า...ตัวเองผิด....
เพราะคนแต่ละคน...ก็เห็นสี่งต่างๆ...จากขอบข่ายประสบการณ์และสี่งแวดล้อมของตนเอง....
แต่ถ้าเจ้าอยากเข้าใจว่า...ทำไมคนอื่นถึงคิดแบบนั้น....เจ้าก็เดินไปมุมของเขา...
และเมื่อเจ้ายอมเข้าใจคนอื่น....อาจเป็นไปได้ว่าคนอื่นก็อาจจะยอมที่จะเดินมา....และเข้าใจเจ้า.....
คำถามที่..2...อากง..บอกว่า....ที่เห็นครั้งแรกกับครั้งหลัง....เป็นของอย่างเดียวกันมั๊ย..?....
หลานบอกว่า....อย่างเดียวกัน.....
แล้วเห็นเหมือนกันมั๊ย....?....ครั้งแรกเห็นอะไร...?
หลานตอบว่า...ฝาครอบ....และครั้งหลังเห็นเปลวไฟ....
อากงเลยบอกว่า....หลานๆเอ๊ย...
ในอนาคตถ้าเลือกได้นะ...อย่ามองสี่งต่างๆ...เพียงแค่ที่เห็น....
จงเข้าใจสิ่งต่างๆ... อย่างที่เป็น....
******************************************************************************************
เก็บจากเมล์มาฝากค่ะ...
เช้านี้เรายิ้มแล้ว..แต่คุณล่ะยิ้ม..รึยัง...
******************************************************************************************