22 กรกฎาคม 2548 10:15 น.
กันเอง
ฉันวาดดาวเรียงรายในคืนค่ำ
งามเลิศล้ำเดือนหงายภายเวหา
เรียงกระจายดวงดาวพราวนภา
สวยงามตาเดือนเด่นเป็นแสงนวล
ดาวลูกไก่เรียงร้อยคอยตามแม่
งามเด่นแท้ประกายพรึกยามดึกหวน
เด่นดาวศุกร์ทอแสงยามแลงจวน
ดาวเหนือชวนเดินป่ายามราตรี
วาดดาวหนึ่งตรึงใจในความคิด
เหมือนชีวิตผู้คนหม่นหมองศรี
วาดดาวไถไถ่นาแม่ข้าที
นานหลายปีหวั่นไหวในนามดาว
ลุทิวา,ฉันยังนั่งแต่งฟ้า
ลากเส้นมาทบพื้นบนผืนขาว
เขียนขีดรุ้งเชื่อมโยงเส้นโค้งยาว
แสงสีพราวเลื่อมมลายรับไอดิน
รุ้งจากฟ้าโค้งทบบรรจบทุ่ง
ชาวนามุ่งรับขยับหาทรัพย์สิน
ไม่ย่อท้อในงานที่ชาญ-ชิน
พลิกแผ่นดินเป็นทองที่ท้องนา
ฉันจับไถมาแต่งเป็นแปลงข้าว
จากรุ่งเช้าจวบเย็น,เป็นปราถนา
ฉันปลูกข้าวกอน้อยร้อยผกา
หยิบหมึกมาเป็นพร่าฝน,หล่นซับดิน
22 กรกฎาคม 2548 10:01 น.
กันเอง
ฝันเถิดสาวเอยเจ้าเคยฝัน
กลางคืน-กลางวัน,ฝันให้ถึง
เมื่อพร้อมฝันจงฝันอันตราตรึง
สักวันหนึ่งดอกฝันนั้นงามเงย
ฝัน,ฝันอย่างไรให้ฝันเถิด
ฝัน,ฝันให้เกิดความจริงสิ่งเปิดเผย
ฝัน,จงเป็นฝันนิรนดร์-เคย
หนุ่ม-สาวเอย,ฝันเจ้าจงก้าวไป
ฉัน,จะร่วมฝันกับเธอไม่เพ้อหรอก
หวังผลิดอก-กิ่งก้าน,อันไสว
มาร่วมฝันให้ฝันนี้มีฝันไกล
เหนื่ออื่นใดคือฝันที่ดั้นเดิน
ใช่เพียงฝันแล้วตื่นคืนความฝัน
ใช่เพียงวันเพื่อย่างก้าวในหาวเหิน
ใช่ว่าฝันที่หวังไกลนั้นไร้เกิน
หากเผชิญร่วมกับฝัน-อันท้าทาย
22 กรกฎาคม 2548 09:54 น.
กันเอง
หนาวแล้วนะที่รัก
หากหนาวนักก็ห่มผ้า
ห่มให้อ่นกายา
หนาวนักก็หาผ้ามาห่มกาย
เธอหนาวมากไหมที่รัก
ฉันรู้จักวิธีทำให้หายหนาว
ฉันจะบอกเธออย่างไม่อาย
หาผู้ชายเคียงคู่ดูสักคน
เธอบอกไม่หนาวแต่เธอเย้น
คำบอกของเธอทำให้ฉันเห็นความสับสน
หนาวนั้นย่อมอยู่ในกลม
หากสัมผัสผิวกายคน...นั้นอุ่นละมุนละไม.
22 กรกฎาคม 2548 09:44 น.
กันเอง
บนหนทางยาวไกลในสายรุ้ง
ขอบฟ้าคุ้งทบดินไม่ส้นฝัน
อุดมการณ์ดำรงคงนิรันดร์
ใจมุ่งมั่นดั้นด้นบนรุ้งทอง
จึงบากบั่นฟันฝ่าตามหารุ้ง
ใจหมายมุ่งคว้าเอา,ดาวทั้งผอง
ขอบฟ้ากว้างใจฉันนั้นหมายปอง
ท่วงทำนองชีวิตไม่คิดวน
ได้เห็นรุ้งปรุงฟ้าคราฝนพร่ำ
ยามใกล้ค่ำฟ้างามท่ามฝุ่นฝน
รุ้งกินน้ำดุจดื่มปลึ้มกมล
ฟ้าชวนยลรุ้งชวนเยือนเหมือนวิมาน
รุ้งจูบพื้นยืนตระหง่านโค้งผ่านฟ้า
สวยงามตาสายใยให้ประสาน
จากสวรรค์ดาวดึงส์ถึงบาดาล
เป็นสะพานรุ้งโยงโค้งเชื่อมใจ
18 กรกฎาคม 2548 20:13 น.
กันเอง
โลกมนุษย์นี้ก็แปลกแยกกันออก
ช่วยบ่งบอกความเป็นไปในวิถี
บอกคนนี้ชั่วบอกว่าคนนั้นดี
บอกคนนี้เป็นคนไม่สมประกอบชอบใส่ไฟ
จิตมนุษย์จึงเป็นไปในวิกฤติ
วิปริตแห่งมนุษย์สุดแก้ไข
รวนเรสับสนปนเปไป
มีจิตใจเกิดประหลาดขาดข้อมูล
คนดีจึงหรรษาประสาคน
คนบ้าก็สับสนจนส้นสูญ
คนดีล้วนสุขสันต์การเก้อกูล
คนบ้าจึงพอกพูนความเกียจชัง
โลกมนุษย์นี้ก็แปลกรู้แยกแยะ
รุมทึ้งแทะกักขฬะละความหวัง
คนบ้าแม้นมีฝันมันก็พัง
คนดีมีมนต์ขลังยั้งความคิด