24 กันยายน 2553 07:57 น.
กันนาเทวี
เห็นขอบฟ้าเรืองรองมองชีวิต
แม้วิกฤตเช่นไรสุดไหวหวั่น
เงินและงานเบื้องหน้าสารพัน
ล้วนป่วนปั่นรุมเร้ากันเข้ามา
ต้องหันหน้าสู้ไปในวันนี้
คิดแต่ดีคุณทำได้ใช่ปัญหา
แก้ไขด้วยพลังใจในสัจจา
ใช้ปัญญาตริตรองมองหนทาง
มองหนทางข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
ใจเบิกบานรู้เตือนตนทนทุกอย่าง
ปัญหามาปัญญาแก้แน่วแน่พราง
แม้อ้างว้างยากไร้ขาดใครแล
ปัจจุบันหายใจอยู่รู้คุณค่า
ใช้ธรรมานำจิตติดกระแส
มิท้อถอยปล่อยใจให้อ่อนแอ
โลกปรวนแปรเช่นไรใจมั่นคง
ใจมุ่งมั่นฝันใฝ่ในสิ่งถูก
ไม่พันผูกสิ่งชั่วมัวลุ่มหลง
ปรับความคิดเสียใหม่ให้รู้ปลง
เข้ารกพงหนามไหน่หวนใจคืน
เริ่มวันใหม่ใจใหม่สดใสกว่า
พลิกชีวากล้าฝันพลันสดชื่น
ต้องกล้าสู้อยู่ไปใจหยัดยืน
ให้รู้ตื่นเบิกบานสำราญใจ..
6 กันยายน 2553 05:20 น.
กันนาเทวี
พิศดาวดวงล่วงลาคราใกล้สาง
อรุณลางแลเลือนเหมือนม่านฝัน
ฉากชีวีที่เวียนเปลี่ยนอีกวัน
ให้สุขสันต์ทุกชีพชนคนเดินดิน
เสียงเจื้อยแจ้วแว่วมาคราดึกค่อน
ดอกขจรหอมไกลใจถวิล
คิดถึงคนลาไกลใจโบยบิน
มิเคยสิ้นแรงรักใฝ่ภักดี
หริ่งเรไรกรีดเสียงเพียงใจพ้อ
นับวันรอคิดพะวงคงสดสี
ยิ้มสู่ใจไหวหวามตามวจี
บทเพลงที่เว้าวอนในกลอนกานท์
ฟ้าลิขิตหรือไรไยพานพ้อง
ดังพี่น้องร่วมจิตคิดประสาน
เทวดาเสกมนต์ดลบันดาล
ให้สราญรื่นรมย์สุขสมใจ
เอาความรักศรัทธาพาย่างก้าว
คอยโน้มน้าวปูทางอย่างผ่องใส
เป็นกุศลดลจิตคิดการณ์ไกล
ให้ปลอดภัยก้าวหน้าสมค่าคน
แลขอบฟ้าเรืองอรุณอุ่นใจแท้
เก็บกุญแจหัวใจไม่สับสน
แม้เหนื่อยหนักพักใจให้อดทน
พลิกฟื้นตนมุ่งหน้ากล้าก้าวเดิน..