29 กันยายน 2552 20:47 น.
กันนาเทวี
เจ็บแค้นเคืองกันไยไร้ประโยชน์
คอยเพ่งโทษดีเลวสิ่งเหลวไหล
เกิดเป็นคนเขาก็จิตเราก็ใจ
ให้อภัยเถิดหนาพาร่มเย็น
จงรักกันดั่งเพื่อนหรือพี่น้อง
คอยประคองช่วยเหลือเมื่อยากเข็ญ
ศีลธรรมนำมาใช้สิ่งจำเป็น
จิตบำเพ็ญแลดูผู้ทุกข์ทน
อาทรเด็กไร้ญาติขาดพ่อแม่
ถูกรังแกทิ้งขว้างกลางถนน
มีชีวิตอ้างว้างกลางผู้คน
ต้องมืดมนหนทางย่างก้าวไป
ห่วงพ่อแม่แก่เฒ่าคนเก่าก่อน
ช่วยผัดผ่อนดูแลด้วยเลื่อมใส
เคยอาทรเรามาแต่เยาว์วัย
อย่าทอดทิ้งท่านให้ว้าเหว่เลย
ความโกรธขึ้งปึงปังไม่ยั้งคิด
เส้นโลหิตแตกได้ใคร่อยากเผย
สารทุกข์หลั่งสะสมมากกว่าเคย
คนจะเย้ยเยาะเราให้เศร้าตรม
หยุดสักคราให้อภัยใจล้ำเลิศ
แสนประเสริฐโลกนี้คงสุขสม
อาวุธร้ายสงครามความระทม
ให้เลิกล้มหมดไปหมดภัยพาล....สาธุ
25 กันยายน 2552 21:56 น.
กันนาเทวี
เหมือนฟ้าแกล้งพบกันพลันต้องจาก
รักจำพรากสุดหลัาสุดฟ้าเขียว
ห่างกันเพียงหนทางใช่ร้างเกลียว
ใจแน่นเหนียวรักหนึ่งซึ้งในทรวง
ฤๅฟ้าดินสวรรค์ท่านลิขิต
ดลให้จิตตามหามาห่วงหวง
เป็นมิ่งมิตรรู้ใจใช่แค่ควง
มิหลอกลวงรักแท้แน่แก่ใจ
มิได้หวานหว่านคำถึงพร่ำเพ้อ
เพียงพบเจอโลกนั้นพลันสดใส
มิเลิศเลอให้ค่าเกินกว่าใคร
เหมือนสายใยก่อสานเนิ่นนานปี
มิคิดผลักหรือดึงถึงกักขัง
แรงพลังโยงใยในวิถี
ความคิดถึงซึ้งใจในวจี
แม้จะมีอุปสรรครักมิคลาย
ดูแลกันเกื้อหนุนอุ่นไอรัก
ได้พิงพักคราใจท้อต่อความหมาย
เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่มิงมงาย
อธิบายไม่รู้จบเมื่อพบเธอ
ก่อนจากกันทุกครั้งใจยังหาย
ฝากใจกายตามติดชิดเสมอ
เสียงเพลงหวานซ่านใจใฝ่ละเมอ
ขอเสนอกลอนรักฝากลอยลม..
19 กันยายน 2552 20:27 น.
กันนาเทวี
เพลงรัก.....บรรเลงแว่ว
เสียงขลุ่ยแผ่ว.....พริ้วลิ่วลมหวน
ที่โน่น....แผ่นดินเดือด
ชีวิตตาม.....ใจตน
หวังสุขล้น.....แล้งไร้ใฝ่เอื้อ
ปลูกถั่ว.......จะเอางา
สามหลัก...เคยค้ำยัน
นับวันโอนเอน....แรงอ่อนล้า
ปลวกกัดกร่อน....ทำลาย
ชิงชัย....ดั่งใบ้บ้า
เอาเลือดทา....ฟ้าดินแดงเปื้อน
ไข้หวัด....ยิ่งลำพอง
เพลงชัง....ดังกว่าแล้ว
ไร้ซึ่งแนว...เจริญก้าวหน้า
ฝูงมด......แตกกระจาย
อนิจจา....ผาสุข
กลับลุกโชน....ไฟแห่งตัณหา
แม่น้ำ.....ขุ่นข้นคลั่ก...
17 กันยายน 2552 18:33 น.
กันนาเทวี
ท้อทำไม...ชีวิต
แค่เดินทาง..จากต้นสู่ปลาย
นกน้อย...ยังร้องเพลง
สู้สู่ฝัน...ฟันฝ่า
ล้านัก..พักผ่อนก่อนนะ
แวะเยี่ยมเพื่อน..พูดคุย
ละคร..ใกล้จบแล้ว
ใคร่ครวญ..บทบาทที่แสดง
ผึ้งน้อย..หาน้ำหวาน
13 กันยายน 2552 19:49 น.
กันนาเทวี
แสงสุรีย์เลื่อนลับดับลาแล้ว
มองเห็นแนวเนินเขาเงาสลัว
ไม้ตะคุ่มพุ่มใบเริ่มมืดมัว
ยามราตรีโรยตัวทั่วแผ่นดิน
รอพรายสรวงดวงแขแลเฉิดฉัน
งามแสงจันทร์นวลผ่องต้องโขดหิน
งามแอร่มแจ่มจ้าฟ้าโสภิณ
ธรนินทร์แผ่นพื้นคืนเดือนเพ็ญ
ครวญคะนึงรักข้าฟ้าไกลถิ่น
ใจโบยบินจันทร์เจ้าพาเขาเห็น
นวลพักตราครายิ้มพริ้มใสเย็น
ดุจเดือนเด่นในใจให้ตรึงตรา
โอ้ค่ำคืนแสนงามยามเดือนส่อง
ฟ้างามผ่องรักเจ้าเฝ้าฝันหา
หนาวลมโชยคิดถึงซึ้งอุรา
ก่อนเดือนลาลับล่วงฝากดวงใจ
เย็นชุ่มฉ่ำน้ำค้างพร่างพรหมพฤกษ์
ล่วงเลยดึกแล้วหนอละออไข
ป่านฉะนี้หนาวเย็นฤๅเช่นไร
ส่งสายใยถึงกันมองจันทร์งาม
หรีดเรไรร่ำร้องแซ่ซร้องเสียง
เดือนดาวเคียงลอยต่ำใจวาบหวาม
เดือนเพื่อนใจไปลับกับโมงยาม
เกินจักห้ามรักลาล่วงเช่นดวงเดือน...
กันนาเทวี
๑๓ กันยายน ๒๕๕๒