21 กรกฎาคม 2552 07:57 น.
กันนาเทวี
รักหนอรักถักทอก่อตัวแล้ว
มาเปลี่ยนแนวชีวิตคิดไม่ถึง
อยู่ดีดีมีเขาในคำนึง
ยังซาบซึ้งตรึงอยู่มิรู้วาย
หลบหนีเข้าพงไพรใจไหวหวาม
หนีสู่ความสงัดตัดใจหมาย
จะขึ้นเหนือล่องใต้ใจวุ่นวาย
รักหนอรักช่างร้ายมิคลายคลอน
หวานอันใดไหนเล่าเท่าหวานรัก
อ่อนแอนักผิดคาดมิอาจถอน
ยามรักร้างอ้างว้างใจอาวรณ์
ใจรอนรอนนอนหลับกับน้ำตา
เปี่ยมพลังหวังดีมีแต่ให้
ยามชิดใกล้ปลาบปลื้มเป็นนักหนา
ภูมิใจนักเกินจำนรรจ์พรรณนา
ชุบชีวาชุ่มเย็นเช่นฝนโปรย
บางคราครั้งมัวเมาเฝ้าพร่ำเพ้อ
หลงละเมอกังวลจนใจโหย
ได้คำตอบปลอบขวัญดั่งลมโชย
ที่ราโรยก็เริงรื่นยิ้มชื่นบาน
รักหนอรักถักทอก่อตัวแล้ว
ยังแน่แน่วจริงใจใฝ่สมาน
จะยุ่งยากเช่นไรในดวงมาลย์
ยังต้องการรักอยู่โปรดรู้ใจ...
กันนาเทวี
๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
19 กรกฎาคม 2552 18:36 น.
กันนาเทวี
เขียนกลอนรักจากใจใส่ซองน้อย
ถักทอถ้อยคำซึ้งส่งถึงเขา
ฝันเคียงคู่อยู่กินถิ่นลำเนา
จะคอยเฝ้าปฏิบัตินั่งพัดวี
ค่ำคืนนี้เหงาใจด้วยไกลห่าง
เธอจากร้างแรมไกลมิใช่หนี
รู้ว่าไปทำงานนะคนดี
ครบขวบปีย้อนมาบ้านนาเรา
ที่เมืองกรุงยุ่งยากดูจากข่าว
ทุกเรื่องราวสับสนจนอับเฉา
อำนาจเงินขันแข่งยื้อแย่งเอา
ดั่งแมงเม่าหลงแสงสีชีวีวาย
โอ้พี่จ๋ากลับนามาสู่ขวัญ
มาร่วมฝันสานสู้สู่จุดหมาย
ฟื้นผืนนาปู่ย่าและตายาย
มิให้หายสูญสิ้นแผ่นดินทอง
กาสะลองบานแล้วแว่วเพลงหวาน
ณ ใต้ลานทองกวาวแห่งเราสอง
สัญญากันมั่นไว้มอบใจครอง
ทุ่งรวงทองลานฟางมิร้างเลือน
เขียนกลอนรักจากใจใส่ซองน้อย
ด่วนจี๋หน่อยไปรณีย์อย่าคลาดเคลื่อน
จะรอพี่คนดีนั้นมาเยือน
เหมือนดั่งเดือนเยี่ยมฟ้าคราค่ำคืน....
กันนาเทวี
๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๒
17 กรกฎาคม 2552 20:29 น.
กันนาเทวี
ป่าคือบ้านบ้านคือป่ามานานโข
เราเติบโตจากผืนป่าได้อาศัย
วิถีชนคนดอยด้อยปัจจัย
มิสิ้นไร้ทำกินในถิ่นเรา
น้ำจากฟ้าปลาจากห้วยรวยสินทรัพย์
มากเกินนับค่าได้ในขุนเขา
อากาศดีแดดใสในลำเนา
มีพี่น้องพงศ์เผ่าเราสุขใจ
ทำผืนนาขั้นบันไดไว้ปลูกข้าว
ออกรวงพราวเหลืองอร่ามงามไสว
ดอกตะแบกม่วงครามงามวิไล
โอ้แดนไพรเมืองแมนแคว้นฉิมพลี
ลูกหลานเอ๋ยเชื่อปู่ย่ากลับมาเถิด
อย่าเตลิดเพลิดไปในแสงสี
ในเมืองต่างแก่งแย่งและแข่งดี
ห่างวิถีบ้านป่าช่างน่ากลัว
ไปให้เขาครอบงำทางความคิด
แล้วหลงติดเงินตราอาจพาชั่ว
ลืมตัวตนคนบ้านเราไปเมามัว
พาให้ตัวทุกข์ยากลำบากนาน
กลับถิ่นดอยคอยอยู่คืนสู่เหย้า
มารับเอาจารีตดีที่ถิ่นฐาน
ภูมิปัญญาป่าไพรไม่กันดาร
คือวิมานสราญใจในแดนดง
กันนาเทวี
๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒
14 กรกฎาคม 2552 19:14 น.
กันนาเทวี
ฟ้าเรืองรองส่องมาคราวันใหม่
พลังใจพาฟื้นตื่นจากฝัน
ชีวิตที่ผันผ่านเมื่อวานวัน
มิอาจหันย้อนกลับลับล่วงเลย
ณ วันนี้ที่ใจเป็นเจ้าของ
คิดมุ่งปองหวังใดไยนิ่งเฉย
ตั้งใจเพียรกระทำย้ำให้เคย
คำใดเอ่ยเผยตรงลงมือทำ
ยามดินแล้งแห้งนาหญ้าขาดฝน
เมื่อผ่านพ้นฝนมาพาชุ่มฉ่ำ
ชีวิตคนทุกข์ยากทนตรากตรำ
บุญหนุนนำพบสุขผ่านทุกข์ทน
ในชีวิตผิดพลั้งยังแก้ได้
รู้จักให้อภัยเถิดจะเกิดผล
เขาหรือเราต่างเกิดมาผจญ
ชีวิตคนต่อสู้รู้แบ่งปัน
อนาคตสดใสมิใหลหลง
มัวพะวงห่วงถามความสุขสันต์
ทุกข์คราใดร่ำไห้ใจจาบัลย์
พร่ำรำพันยิ้มหัวด้วยมัวเมา
อรุณรุ่งฟ้าผ่องเรืองรองใส
ปรับใจใหม่พาตนพ้นอับเฉา
ฟ้าหลังฝนสดชื่นฟื้นซบเซา
ใจคนเราสติตื่นย่อมรื่นรมย์
กันนาเทวี
๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒
12 กรกฎาคม 2552 22:51 น.
กันนาเทวี
เหม่อมองท้องฟ้าเทา เงียบซึมเซาตั้งเค้าฝน
น้ำตารินเอ่อล้น ในกมลคนเดียวดาย
หยาดฝนหล่นไหลริน อยากลืมสิ้นใจสลาย
ลิ้นเล่ห์เพทุบาย ช่างเหลือร้ายซ่อนปลายคม
มืดมนราตรีกาล มิพ้นผ่านใจพาลขม
หรีดหริ่งร้องระงม ยิ่งจ่อมจมตรมอุรา
ดึกสงัดลมสงบ ยอมสยบอยู่เอกา
กี่หนทนรอท่า หมดราคาความสำคัญ
ฟ้าหม่นคนใจหมอง สิ่งหวังปองฟ่องลอยฝัน
โหยไห้ใจจาบัลย์ เปลี่ยนแปรผันและห่างไกล
มุมเก่าหมองเซาซบ คงเร้นหลบไปไหนไหน
หมดเยื่อมิเหลือใย น้ำตาไหลในค่ำคืน...
กันนาเทวี
๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒