31 มกราคม 2552 17:46 น.
กันนาเทวี
เศรษฐกิจย่ำแย่แก้ไม่ไหว
คนทั่วไปเหนื่อยล้าต่างหน้าหมอง
บ้างตกงานรายได้หมดอดเงินทอง
ชีวิตต้องตกอับปรับไม่ทัน
เพิ่มภาษีการค้าพาให้วุ่น
เพิ่มต้นทุนกิจการกระทันหัน
น้ำมันแพงสินค้าขึ้นตามกัน
สู้ฝ่าฟันวิกฤตคิดทบทวน
ก่อนเคยอยู่กินพอดีต่างมีสุข
แสนสนุกสุขใจไร่นาสวน
ทำพออยู่กันไปไม่เรรวน
ปลอดหนี้ล้วนสบายใจไม่ทุกข์ทน
ส่งเสริมทุนเป็นเสือเพื่อแข่งขัน
ค้าหุ้นปั่นหลอกกันเองให้สับสน
บ้างอยากรวยธุรกิจติดลมบน
ทุ่มเสียจนหมดตัวไม่กลัวภัย
เศรษฐกิจการเมืองเรื่องการค้า
ใช้อำนาจเงินตรามาผลักไส
ทุจริตโกงกินจนสิ้นไป
อนาถไทยอับปางอย่างสิ้นลาย
ควรรัฐ, ราษฎร์ ร่วมมือกันประหยัด
ช่วยกำจัดสิ่งฟุ่มเฟือยที่เสียหาย
เก็บออมไว้วันหน้าพาสบาย
แม้พิษร้ายเศรษฐกิจไม่คิดกลัว
กันนาเทวี
๓๑ มกราคม ๒๕๕๒
28 มกราคม 2552 22:52 น.
กันนาเทวี
ความสุขที่ปลูกได้ใช่หาซื้อ
ท่านขงจื้อกล่าวย้ำเป็นคำสอน
ชีวิตจักร่มเย็นเป็นดั่งพร
ผลสะท้อนร่มเงาเขาคุ้มกัน
โลกสดชื่นเขียวใสใบไม้หนา
ชื่นชีวาพักพิงอิงแอบขวัญ
สวนไม้ผลปนไม้ป่านานาพันธุ์
ความสุขอันยั่งยืนและรื่นรมย์
มีร่มไม้ชายคาต่างอาศัย
เมื่อไม้ใหญ่มีราคาค่าสะสม
ได้ดูแลรักษามานานนม
ใต้เงาร่มผลผลิตติดมากมาย
ให้อากาศแจ่มใสให้ดอกผล
ก้านกิ่งหล่นขนมาทำฟืนขาย
ตามร่มเงาปลูกขิงข่ากระชาย
แสนสบายชุ่มชื้นพื้นแผ่นดิน
ปลูกต้นไม้วันนี้มีสุขแน่
ร่มเย็นแผ่ปกคลุมชุ่มทั่วถิ่น
ได้ร่มเงาดอกผลคนเก็บกิน
เป็นทรัพย์สินสะสมระดมทุน
สร้างสุขสันต์ร่วมกันหมั่นสร้างปลูก
เป็นของลูกหลานไทยได้เกื้อหนุน
มรดกสิ่งแวดล้อมเกิดสมดุล
สะสมบุญปลูกต้นไม้ไว้เถิดเอย....
กันนาเทวี
๒๘ มกราคม ๒๕๕๒
ภาษิตจีน
“หากต้องการความสุขหนึ่งชั่วโมง……………ให้นอนซะ
หากต้องการความสุขหนึ่งวัน……………ให้ไปตกปลาซะ
หากต้องการความสุขหนึ่งเดือน……………ให้แต่งงานซะ
หากต้องการความสุขหนึ่งปี………..ให้ขอรับมรดกซะ
แต่ถ้าหากต้องการความสุขตลอดชีวิต
ให้ปลูกต้นไม้”
25 มกราคม 2552 12:27 น.
กันนาเทวี
นอนซมไข้ปวดหัวตัวร้อนจัด
หายใจขัดเหนื่อยอ่อนนอนผวา
เหมือนไร้ญาติขาดมิตรคิดพึ่งพา
อนิจจาชีวิตแทบปลิดปลง
คราวโชคร้ายไข้รุมสุมทรวงหนัก
หยุดผ่อนพักร่างกายคลายประสงค์
เรื่องราวใดใหญ่น้อยค่อยวางลง
ชีวิตคงเดินหน้าสู้อยู่ต่อไป
ผจญโลกโชคชะตามาแสนหนัก
ทั้งเรื่องรักการงานเกินต้านไหว
สังขารล้าอ่อนแรงโรคแซงใน
เหลียวหาใครปลอบขวัญฉันเดียวดาย
ซุกกายกลางผ้าห่มซมพิษไข้
น้ำตาไหลรันทดแท้เฝ้าแลหาย
ยามไข้หนักพักผ่อนอ่อนใจกาย
ยอมแพ้พ่ายอดทนสู้อยู่ลำพัง
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้คือพึ่งตน
เกิดเป็นคนคิดสู้อย่างมีหวัง
อันรักโลภของนอกกายไม่จีรัง
ใครชอบชังฟังพินิจผิดเป็นครู
เถอะวันนี้วันที่ได้ผ่อนพัก
ได้ตระหนักใจตนทนอดสู
ชีวิตที่ไร้สิทธิ์คิดเชิดชู
ขอเพียงอยู่หายใจไปวันวัน
กันนาเทวี
๒๕ มกราคม ๒๕๕๒
23 มกราคม 2552 08:12 น.
กันนาเทวี
อันมนุษย์เกิดมาในหล้าโลก
มีสุขโศกโชคชะตาพาพลิกผัน
ถึงจนมีต่างชาติชนระคนกัน
แปลกผิวพรรณร่วมผืนดินถิ่นฟ้าเดียว
หากเข้าใจหลักการสมานมิตร
มองชีวิตเป็นมรรคาพาเฉลียว
ต่างก้าวเดินเผชิญแน่ทุกข์แท้เทียว
ล้วนข้องเกี่ยวกันอยู่อย่ารู้เลือน
เด็ดดอกหญ้ากระเทือนถึงดวงดาว
แสงแวววาวหม่นมัวสลัวเกลื่อน
วิกฤตโลกร้อนแรงแสดงเตือน
พายุเคลื่อนสู่ฝั่งพังยับเยิน
ร่วมรักษาโลกเราเฝ้าแหนหวง
เราตักตวงอาศัยมานานเนิ่น
เปลี่ยนแปรสิ่งแวดล้อมมากมายเกิน
เพราะหลงเพลินก่อสร้างอย่างใจตน
เคยสู้รบทำลายขยายเขต
เป็นสาเหตุทำลายได้รับผล
สงครามร้ายคุกคามเหล่าผู้คน
ต้องผจญอุบัติภัยไร้เมตตา
สันติภาพที่เรียกร้องอยู่ก้องโลก
วิปโยคทุนสามานย์ที่ผลาญพร่า
รวยเท่าไหร่ยิ่งหิวยิ่งอยากนา
เหมือนดั่งว่าเตรียมไปใช้ในโลกันต์
กันนาเทวี
๒๓ มกราคม ๒๕๕๒
20 มกราคม 2552 23:51 น.
กันนาเทวี
เคยอกหักรักเก่าเศร้าไม่หาย
สุดเสียดายแม้รักอยู่สุดกู่หา
เขาเห็นเราไม่สำคัญในวันลา
คำสัญญาล้มล้างจางจากใจ
จำฝึกตนทนไปให้แกร่งกล้า
แม้อ่อนล้าเพียรมั่นไม่หวั่นไหว
จะทุกข์ท้อก้าวย่างยากเพียงใด
แม้ร่ำไห้อกร้าวจำก้าวเดิน
หมดพลังรักเก่าของเราแล้ว
จากลาแจวลืมรักจักห่างเหิน
ยังจดจำย้ำเจ็บเหน็บเหลือเกิน
ด้วยหลงเพลินลืมรักไซร้ใช่จีรัง
อยู่อย่างคนไร้รักมักเปลี่ยวเหงา
เหมือนดั่งเราผิดพลาดจึงคลาดหวัง
ความมั่นใจเคยมีก็ภินท์พัง
กับความหลังยังจำติดพิษไม่คลาย
จำทนฝืนยืนสู้ดูโลกเก่า
เหลือเพียงเงาซากรักหักสลาย
อนิจจารักฝันนั้นกลับกลาย
เมื่อถูกชายทอดทิ้งหญิงระทม
รักที่ฝันมั่นคงซื่อตรงแน่
กลับพ่ายแพ้กลลวงทรวงขื่นขม
จะจำไว้สอนใจใครหลงจม
ระวังคมรักบาดอนาถใจ
กันนาเทวี
๒๐ มกราคม ๒๕๕๒