4 สิงหาคม 2551 00:36 น.
กันนาเทวี
เหม่อมองฟ้าพร่าพราวดาวรายรอบ
สุดเขตขอบฟ้าไกลใจเราฝัน
เย็นลมบนฝนพาหนาวมาพลัน
สุดจะกั้นจิตคะนึงซึ้งห่วงใย
หริ่งเรไรร่ำร้องก้องไพรสณฑ์
รักมีมนต์ตรึงตราพาหวั่นไหว
ธรรมชาติแห่งราตรีย่ำยีใจ
อวลอุ่นไออ้อมแขนแสนอาวรณ์
กลิ่นสุคนธ์หวลหอมดอมดมชื่น
รวยระรื่นซาบซ่านทรวงสมร
ป่านฉะนี้ซบตักใครใจรอนรอน
เคยชิดซ้อนคราไกลใจชืดชา
กระชั้นเสียงไก่แจ้วแว่วสำเนียง
เจื้อยจำเรียงดึกค่อนนอนผวา
รอแล้วรอรับขวัญวันกลับมา
อนิจจาห่วงไหมใครคนคอย
ระยะทางหมางหมองเหม่อมองท้อ
นับวันรอเพ้อพร่ำจำใจหงอย
ต่อแต่นี้นับวันจะลับลอย
รักจะกร่อยหรือเล่าเขาจึงเมิน
แสนจะห่วงรักอาลัยใจจดจ่อ
รักแล้วพอลาร้างอาจห่างเหิน
หักอาลัยตัดใจไม่ห่วงเกิน
ด้วยบังเอิญใจเหงาเฝ้ารำพัน
กันนาเทวี
๔ สิงหาคม ๒๕๕๑
1 สิงหาคม 2551 07:34 น.
กันนาเทวี
ขอมอบดอกไม้งามในความฝัน
ทุกชนชั้นได้เชยชิดพิสมัย
อบอุ่นด้วยไมตรีอุ่นละไม
จากดวงใจเปี่ยมพลังและหวังดี
ที่ท้อแท้แก่ชะตาท้าทายเกิด
จงบรรเจิดฝันกล้าอย่าถอยหนี
มีพลังสรรสร้างทั่วปฐพี
ทุกถิ่นที่เรืองรองผ่องอำไพ
เมื่อสีทองขลิบฟ้าครารุ่งสาง
แลเลือนลางพลิกตื่นฟื้นเคลื่อนไหว
เดินด้วยกล้าท้าฝันฝ่าฟันไกล
นำพาไฟแห่งเสรีชี้ชะตา
แก่นธรรมคือสาระสละแล้ว
เพื่อดวงแก้วอุทิศจิตหรรษา
เกิดปีติสันติธรรมนำชีวา
ยิ้มแปร่งปร่ายามถูกหยันยังมั่นคง
จะลุกขึ้นสู้สู้อยู่เคียงข้าง
ใช่อ้างว้างห่างเหินหรือเพลินหลง
อุดมการณ์สานต่อก่อยืนยง
ให้ไตรรงค์พัดไสวในแดนดิน
ขอมอบดอกไม้งามในความคิด
ทุกดวงจิตกล้าแข็งแกร่งดังหิน
อุปสรรคท้าทายไม่ยลยิน
จักโบยบินสู่ฟ้าท้าเสรี.....
กันนาเทวี
๑ สิงหาคม ๒๕๕๑