17 ธันวาคม 2551 21:46 น.
กันนาเทวี
บนเส้นทางชีวิตที่คิดหวัง
มองภาพหลังตนบ้างอย่างสงสัย
ใครหนอชี้ชะตาพาเป็นไป
หนทางไกลฝ่าฟันอันตราย
ลุ่มหลงใจใฝ่ฝันแย่งกันสูง
ต่างลากจูงลาภยศกำหนดหมาย
หลงติดยึดสมบัติในรูปกาย
ผลสุดท้ายลับหายตายทุกคน
บ้างชังกันหันหลังยังเบือนหนี
จะร้ายดีกระทำลงย่อมส่งผล
ช้าหรือเร็วไม่ต่างต้องผจญ
สุขทุกข์ทนรับกรรมต้องจำใจ
ชีวิตนี้น้อยนักนะเพื่อนเอ๋ย
หากเปรียบเปรยพยับแดดระยิบไหว
เปรียบน้ำค้างรุ่งรางจางเร็วไว
ฟองน้ำไหลลอยไปในธารา
เปรียบครรลองชีวิตคิดวาดฝัน
ดุจเดินกันบนเส้นด้ายคลายปัญหา
แม้พลาดพลั้งอาจพลัดตกอกช้ำมา
เกินเยียวยาแก้ไขได้ทันการณ์
พึงระวังตั้งใจไม่ประมาท
อย่าได้ขาดสติตรองมองพื้นฐาน
ดีและชั่วคิดก่อนรู้ประมาณ
รู้จักกาลพอดีมีสุขเอย
กันนาเทวี
๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๑
16 ธันวาคม 2551 08:13 น.
กันนาเทวี
รักจำแนกแยกได้ใครสามารถ
ธรรมชาติรู้จักรักมักสุขี
รักเริ่มต้นสองคนไม่ค่อยดี
ส่วนมากมีเงื่อนไขใคร่ครอบครอง
บ้างรักกันหวงกักกันฉันคนเดียว
ห้ามแลเหลียวใครอื่นขืนเป็นสอง
ขอเป็นหนึ่งในใจห้ามมีรอง
หากเกี่ยวข้องคนใหม่ได้เห็นดี
ความรักคือมายาพาหลงผิด
พาชีวิตติดบ่วงใจไร้ศักดิ์ศรี
ต้องเกิดตายหลายภพจบไม่มี
สุขเปรมปรีดิ์ย่อมร้อยรัดผูกมัดกัน
รักเมตตาเผื่อแผ่แน่ที่สุด
เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกโศกสุขสันต์
รักด้วยหวังสิ่งดีดีคิดแบ่งปัน
รักอย่างนั้นคือธรรมค้ำโลกา
เราคือเพื่อนร่วมทางร่วมสร้างก่อ
หากทุกข์ท้อจนใจในปัญหา
ความรักหนึ่งพึ่งได้ในชีวา
คือสัจจาแห่งมิตรคิดเกื้อกูล
รักเกิดขึ้นตั้งอยู่ครู่ดับไป
รักยิ่งใหญ่คือรักอย่างดับสูญ
รักที่แท้เข้าใจเหตุต้นมูล
รักเทิดทูนเหนือกว่ารักผลักออกไป
กันนาเทวี
๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๑
14 ธันวาคม 2551 19:48 น.
กันนาเทวี
ถักทอร้อยถ้อยคำลำนำรัก
เป็นสุขนักพักพิงอิงแอบขวัญ
คืนฟ้าหนาวดาวรายใต้เงาจันทร์
ร่วมร่ายฝันเริงระบำคำกลอนกานท์
ร่วมใจปองล่องฟ้าธารป่าเขา
ถิ่นลำเนาเพลงรักอักษรสาร
หรีดเรไรแซ่ซ้องก้องไพรพราน
ดอกไม้บานกลิ่นอวลชวนดมดอม
ใต้ร่มไม้ใบบังดังสวนฝัน
จูงมือกันชมดอกบานตระการหอม
เอื้องผึ้งสวยรวยรินกลิ่นพะยอม
ดั่งยั่วย้อมภู่ภมรให้ว่อนชม
เพลินพนาฟ้าใสได้เที่ยวท่อง
แดดสาดส่องพฤกษ์ไพรใจสุขสม
วิมานน้อยกลางพงไพรใจรื่นรมย์
เพลินรักห่มอุ่นไอในแดนดง
ใต้ผืนฟ้าสุธาธารหวานชื่นรัก
ด้วยสมัครปักใจใช่ลุ่มหลง
อานุภาพความรักจักมั่นคง
ให้ยืนยงตราบฟ้าดินสิ้นมลาย
ถักทอร้อยถ้อยคำลำนำกลอน
ฝากคำอ้อนวอนฟ้าอย่าห่างหาย
รักกันมั่นจีรังทั้งใจกาย
ดั่งนิยายรักแท้ที่แน่นอน
กันนาเทวี
๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๑
13 ธันวาคม 2551 15:27 น.
กันนาเทวี
พระจันทร์ดวงโตโต เริ่มพ้นโผล่สุดขอบฟ้า
ผู้คนต่างรีบมา มองจันทร์จ้าคราเยี่ยมเยือน
สามสิบปีใกล้โลกสุด งามประดุจทองลอยเลื่อน
คราก่อนมายิ้มเตือน โอ้ดวงเดือนเพื่อนคนดี
เคลื่อนคล้อยลอยรอบโลก มิรู้โศกทุกข์สักที
ลอยไปตามวิถี จรลีแต่ก่อนมา
มนุษย์คิดฝันเฟื่อง แต่งเติมเรื่องดวงจันทรา
เป็นปมปริศนา ไขปัญหาชะตาตน
ช่างสรรค์พรรณนา จันทร์เจ้าขาช่วยบันดล
โอ้เอ๋ยคนหนอคน ก็ผลกรรมเราทำเอง
พระจันทร์ดวงโตโต มาอวดโชว์ใช่อวดเบ่ง
หากคนคิดยำเกรง ให้รีบเร่งทำความดี.
กันนาเทวี
๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๒
12 ธันวาคม 2551 21:14 น.
กันนาเทวี
เดือนแจ่มฟ้าค่ำนี้ฤดีป่วน
คืนรัญจวนฝังจำทำใจหาย
จากรักห่างปีเดือนเคลื่อนรักคลาย
เศร้ามิวายใจจางเพราะห่างจร
แสงจันทร์หม่นคนเหงาเร้าในจิต
คงไร้สิทธิ์เหินห่างลางสังหรณ์
ก็แค่ทางผ่านไปไยอาวรณ์
เร่รักซ้อนปลูกไว้ไม้ริมทาง
ดั่งตะวันชิงพลบหลบลับฟ้า
สายธารายิ่งไหลไกลออกห่าง
เมื่อเกสรดอกไม้ชืดจืดจาง
กลีบปลิวคว้างลอยลมจมธุลี
น้ำค้างพรมลมหวนครวญเพลงเศร้า
เงียบไร้เงาเคยเคียงเลี่ยงหลีกหนี
ดั่งภมรร่อนเริงรื่นชื่นชีวี
หลากหลายสีเชยชมและดมดอม
หลงปลื้มใจใฝ่ฝันถึงวันเก่า
คงซบเซารักผ่านไม่หวานหอม
ร้าวรอนใจขื่นขมด้วยตรมตรอม
ใจจำยอมแพ้รักหักอุรา
เหม่อมองจันทร์วันนี้ฤดีหมอง
รักเคยปองหลีกไกลใจคอยหา
บอกกับใจอย่าหลั่งรินน้ำตา
ทรมาเพียงไรใจเจ็บจำ...
กันนา......
๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๑