14 กุมภาพันธ์ 2551 22:53 น.
กันนาเทวี
ให้ความรัก...จริงใจในวันนี้
ด้วยดวงใจยินดีที่เติมฝัน
เป็นเพียงหนึ่งรักเดียวเกี่ยวสัมพันธ์
ผูกไมตรีหมายมั่นอย่าหวั่นกลัว
ให้ความรัก...แก่กันมั่นสมัคร
คิดดูแลปกปักรักทูนหัว
ยามยิ้มแย้มชื่นใจไม่หมองมัว
อยากหยอกเย้ายวนยั่วใจพัวพัน
ให้ความรัก...แสนดีมีคุณค่า
อยากใกล้ชิดทุกคราพาสุขสันต์
มอบไออุ่นลึกล้ำมากำนัล
อ้อนแอบอิงทุกวันฝันถึงเธอ
ให้ความรัก.....ตามใจไม่ต้องฝืน
สุขสมหวังเริงรื่นชื่นเสมอ
วันแห่งรักชื่นทรวงห่วงละเมอ
หวังชื่นรักยามเผลอเจอรักจริง
ให้ความรัก...เสริมสร้างทางชีวิต
เสริมพลังแห่งจิตมิตรยอดยิ่ง
เพิ่มความหวังพลังใจไม่ประวิง
เพิ่มพูนสุขทุกสิ่งพึ่งพิงพา
ให้ความรัก...เคียงข้างอย่างคู่คิด
ให้ใจเราลิขิตจิตหรรษา
รู้ทันรักห่างทุกข์สุขอุรา
ยังรอรักผ่านมาอย่าลืมเลือน........
12 กุมภาพันธ์ 2551 23:59 น.
กันนาเทวี
รักอย่างไรให้ถึงซึ่งความสุข
รักสนุกทุกข์ใจในภายหลัง
เมื่อแหนงหน่ายคลายรักมักชิงชัง
เลยต้องนั่งกินน้ำตาด้วยอาลัย
รักแบบเพื่อนก็ดีไม่จี๋จ๋า
แต่สัญญาร่วมวงไม่สงสัย
ช่วยเหลือกันเสมอเมื่อมีภัย
สบโชคชัยยินดีร่วมปรีดา
รักพ่อแม่แน่แท้มีแต่ให้
ทุ่มเทใจดูแลแก้ปัญหา
ทั้งส่งเสียร่ำเรียนให้เงินตรา
ถึงแม้ว่าลูกแย่แม่ปรานี
รักของครูรู้ว่าพาอ่านเขียน
พาพากเพียรสอนให้ไม่หน่ายหนี
สอนให้รักก้าวหน้าพาทำดี
ช่วยชวนชี้พัฒนาอย่ารีรอ
รักพี่น้องปรองดองผองเหล่าญาติ
ชนร่วมชาติสามัคคีดีจริงหนอ
ทำหน้าที่จริงจังรู้เพียงพอ
จึงเกิดก่อมวลพลังอยู่ยั่งยืน
รักอีกอย่างคือเมตตาสละแล้ว
ดุจดวงแก้วกลางใจให้รู้ตื่น
ส่องสว่างปัญญาพาฟื้นคืน
รักไหนอื่นสุขเท่าเรารักธรรม........
......เมตตาธรรมค้ำจุนโลกา.......
11 กุมภาพันธ์ 2551 07:25 น.
กันนาเทวี
ด้วยความรักจากใจจึงใฝ่หา
ฝากลมพาเคียงใจห่วงใยเหลือ
คำรักมั่นขอบคุณที่จุนเจือ
มอบรักเอื้ออุ่นไอให้แก่กัน
แม้จะอยู่ห่างไกลใจแน่นหนัก
หมั่นเติมรักเติมใจในความฝัน
คอยประคองใจรักทุกคืนวัน
พร่ำรำพันดมดอมหอมแก้มนวล
ภูมิใจแล้วแก้วตามาคอยเฝ้า
ทุกค่ำเช้าส่งเสียงเพียงลมหวน
วอนหยอกเย้าเคล้าคลอดั่งยั่วยวน
ปองสงวนจอมขวัญมั่นรักเดียว
ยอมแพ้พ่ายค่ายกลมนต์สะกด
ด้วยร้อยรสพจนาพาเกาะเกี่ยว
ร้อยคำเรียงเพียงหนึ่งถึงกลมเกลียว
จึงแลเหลียวห่วงใยไม่รู้ลืม
เธอคือหนึ่งเติมใจให้ซึ้งค่า
ของคำว่ารักแท้ที่ดูดดื่ม
มอบรอยยิ้มเต็มใจใช่หยิบยืม
สุดแสนปลื้มยินดีที่พบพาน
อานุภาพความรักมักศักดิ์สิทธิ์
เพียงลิขิตดวงใจใฝ่สมาน
บุญนำพาพบยอดเยาวมาลย์
รักแสนหวานซึ้งใจใฝ่นิรันดร์............
9 กุมภาพันธ์ 2551 16:23 น.
กันนาเทวี
พระสอนว่า...............
ใครชอบใครชังช่างเถิด
ใครเชิดใครชูช่างเขา
ใครบ่นใครเบื่อทนเอา
ใจเราร่มเย็นเป็นพอ
"""""""""""""""""""""""""""""
อย่าท้อแท้แก่ความทุกข์
หวังแต่สุขพร่ำวอนขอ
พึ่งตนอย่ารีรอ
รู้จักพอรู้เท่าทัน
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
สุขกับโศกเปลี่ยนแปรผัน
ธรรมะหลักประกัน
หากยึดมั่นต้องหมั่นเพียร
เพียรพิจพินิจตรอง
ตัวเราต้องหมั่นเล่าเรียน
ปัญญาคือบังเหียน
สติเพี้ยนเพราะหลงทาง
มองตนก่อนคนอื่น
รู้ตัวตื่นอย่าเหินห่าง
จิตธรรมไม่อำพราง
จะเป็นกลางว่างและเบา
ศึกนอกพอบอกได้
แต่ศึกในมักขลาดเขลา
ไม่รู้ตัวของเรา
จึงต้องเศร้าทุกข์ร่ำไป
คนเรามักประมาท
จึงผิดพลาดเพราะอ่อนไหว
กิเลสยั่วย้อมใจ
ชักชวนให้ลงอบาย..........
7 กุมภาพันธ์ 2551 11:27 น.
กันนาเทวี
อันมนุษย์คนเราเบาความคิด
มักยึดติดตัวตนจนแน่นหนา
อยากได้ยศเงินทองของนานา
สมบัติบ้าหนักแบกแอกของตน
เพราะกิเลสแสนกลพาคนหลง
ไม่อาจปลงวางใจให้สับสน
มีเท่าไหร่ไม่พอเลยหนอคน
ต่างดิ้นรนไขว่คว้ามาครอบครอง
คิดอยากได้อยากมีและอยากเป็น
จุดประเด็นแข่งขันเป็นเจ้าของ
ทั้งตำแหน่งยศถาและเงินทอง
ต่างก็จ้องถึงมุ่งร้ายหมายแย่งชิง
โลกวุ่นวายวิวาทเกิดบาดหมาง
ล่อลวงพรางร้อยเล่ห์เพื่อทุกสิ่ง
เร่งเอาเปรียบกอบโกยมากมายจริง
ได้มายิ่งอยากได้ไม่เพียงพอ
หากคิดให้เสียสละละวางบ้าง
เปิดช่องทางแบ่งใจให้กันหนอ
เมตตาธรรมค้ำจุนอย่ารีรอ
โลกเกิดก่อไมตรีดีต่อกัน
ได้โอกาสเวลาละตัวตน
จะทุกข์ทนยึดไว้ทำไมนั่น
โลกนี้หนอพอเพียงถ้าแบ่งปัน
คิดสร้างสรรค์สามัคคีดีกว่าเอย