22 กันยายน 2551 18:31 น.
กันนาเทวี
เพื่อนเอยเพื่อนรัก
คงทดท้อเหนื่อยหนักมากใช่ไหม
วิปโยคโศกเศร้าร้าวทรวงใน
หวังหาใครปลอบจิตหายคลายระทม
คราทุกข์ถมจมปัญหามาถามทัก
ปัญหาหนักพาใจให้ขื่นขม
ยังขาดคนรู้ซึ้งถึงใจตรม
ชีวิตล่มเปลี่ยวเหงาเข้าติดตาม
คิดหน่วงหนักหักอาลัยใจข้องขัด
คิดป้องปัดกรรมใดใคร่ไต่ถาม
คลื่นชีวิตยากเย็นเป็นนิยาม
เกินจักห้ามน้ำตาล้นอับจนทาง
ยามตกอับยับเยินเกินแก้ตก
ใครจะปกป้องภัยให้กระจ่าง
ใครกันหนอแนะนำยามเลือนลาง
ต้องอยู่อย่างเอกาว้าเหว่เดียว
อดทนแม้ใครเขาลืมเราสิ้น
ต้องถวิลแลหายใจเปล่าเปลี่ยว
ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลเคยกลมเกลียว
เคยข้องเกี่ยวเหลียวลับไม่กลับมา
เพื่อนเอยเพื่อนรัก
หากเหนื่อยนักพักก่อนเสียเถิดหนา
พักที่จิตวกวนสับสนพา
คลายอ่อนล้าจิตสงบคงพบทาง...
21 กันยายน 2551 09:20 น.
กันนาเทวี
พิศนาบุปผามาลีหอม
พวงพยอมชูช่อล่อให้หลง
หมู่ภมรเวียนว่อนร่อนบินลง
ท่ามกลางดงพวงผกาน่าเชยชม
ไม้หลากพันธุ์หลากสีคลี่กลีบสวย
ลมระรวยโชยชื่นรื่นสุขสม
หอมจรุงฟุ้งไกลใคร่ดอมดม
เล่ห์รักจมอวลกลิ่นรินฤดี
กลิ่นมาลีกำจายคล้ายหญิงงาม
กระฉ่อนนามลือไกลในศักดิ์ศรี
รูปก็งามนามเพราะพร้อมความดี
ดั่งมาลีหอมหวลอวลกลิ่นไกล
มวลกวีเปรียบชายคล้ายภมร
กลิ่นกำจรโชยหอมย่อมตอมไต่
เพียงถวิลดมดอมล้อมมาลัย
สุขสมใจบินจรไม่ย้อนมา
นารีงามไม้ดอกออกสดใส
ช่างวิไลเฉิดฉันท์กันนักหนา
คือบทกลอนเสนาะเพราะอุรา
ด้วยหวังกล้าชิดเชยเผยดวงมาลย์
บทกวีสีสันผันอักษร
เป็นบทกลอนชมมาลีที่หอมหวาน
ถักทอถ้อยร้อยรสพจมาน
ซึ้งซาบซ่านหวานล้ำพร่ำพรรณนา........
20 กันยายน 2551 08:26 น.
กันนาเทวี
ค่าของคนจนมีหรือดีชั่ว
หากรู้ตัวมิยอมให้ใครเหยียบหยาม
ก็ฝึกฝนตนไว้ใกล้นิยาม
นั่นคือความเป็นมนุษย์สุดยอดคน
เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง
ไม้ยางยูงป่าใหญ่ในไพรสนฑ์
กว่าจะเติบโตใหญ่สู่เบื้องบน
ต้องอดทนมากมายก่อกายมา
จะตัดสินค่าคนสมควรหรือ
ชีวิตคือสิ่งดีที่สรรหา
จะวัดกันว่าดีมีราคา
มาตรฐานคุณค่าที่อะไร
วัดตำแหน่งการงานหรือความรู้
ชนเชิดชูยกย่องฤๅไฉน
วัดสมองหรือวัดผลกำไร
ที่หาได้จากการค้าว่ารวยจน
ทุกคนล้วนเกิดมาทำหน้าที่
ล้วนมุ่งดีจริงใจไม่สับสน
สังคมแปลกแยกทางต่างดิ้นรน
สอนเล่ห์กลดลใจให้ต่างกัน
จึงผู้คนมากมายหลายร้อยเล่ห์
บ้างโฉเกปิดบังยังสุขสันต์
ค่าของคนวัดได้ที่ไหนกัน
ค่าคนนั้นไม่อาจวัดเป็นอัตรา....
ค่าของคน อยู่ที่ว่า เป็นคนของใคร?
แต่ " คน กลับ ใจ" ต้องให้กำลังใจกัน อิอิ
18 กันยายน 2551 06:29 น.
กันนาเทวี
ยามรุ่งรางขอบฟ้าทอแสงเรื่อ
ตะวันเอื้อไออุ่นหนุนนำช่วย
เรืองรำไรลมอ่อนชอนระรวย
แต้มฟ้าสวยขลิบทองมองสุขใจ
ไก่แก้วขันบรรเลงเพลงย่ำรุ่ง
จึ่งสะดุ้งตื่นฝันในวันใหม่
อดีตลับเลือนลางกลางหทัย
เสียงแจ่มใสเจื้อยแจ้วแว่วกังวาน
ม่านหมอกขาวเฉียบเย็นเป็นม่านฟ้า
เหล่าดาราวิบวับลับสังขาร
ร่วงหายลับไปกับราตรีกาล
ล่วงเลยผ่านสู่สว่างกระจ่างวัน
จะค่ำแจ้งกี่ครั้งยังไม่รู้
ต้องเตรียมอยู่กี่คราจะแปรผัน
วันเดือนปีคลาเคลื่อนชั่วกัปกัลล์
กาลมิหันคืนหวนหรือรวนเร
ยามมืดมนทนฝืนเช่นคืนค่ำ
ดั่งจะย้ำซ้ำซากจากหันเห
รอรุ่งรางอีกครั้งหวังคะเน
ที่จำเจซ้ำซากขอจากลา
ยามรุ่งรางขอบฟ้าพาสดใส
ขอเพียงใจเปี่ยมพลังสู้ปัญหา
ปิดฉากเศร้าเคยผ่านม่านน้ำตา
สักครั้งคราสมหวังดังตั้งใจ.....