7 เมษายน 2552 00:07 น.
กันนาเทวี
เสียงขลุ่ยแผ่วแว่วหวานสะท้านทุ่ง
แดดยามรุ่งทอระยับจับหญ้าไหว
เกล็ดระยิบพริบน้ำค้างอ้างว้างใจ
คิดถึงใครคนจรเว้าวอนมา
เขียนกลอนเหงาเศร้านักรักอับเฉา
ยังซึมเซาโดดเดี่ยวเหลียวแลหา
ดอกซอมพอบานแข่งดอกคูนนา
งามระย้าสร้อยแสงแดงเหลืองพราว
ลมแล้งร้อนพัดโชยยิ่งโหยแห้ง
รักแอบแฝงอกเอ๋ยเคยเหน็บหนาว
รอรักชื่นเพียงฝนหล่นกรูกราว
เจ็บอกร้าวเหมือนตอซังยังยืนรอ
เก็บช้ำไว้ฝืนยิ้มริมบ้านเก่า
เก็บใจเราซ่อนไว้ในอกหนอ
ยามลมร้อนผ่อนพักรักแค่พอ
เอื้องชูช่อล้อลมร้อนสะท้อนทรวง
เมื่อรักคลายหน่ายคำจำนรรจ์แจ้ว
ไร้วี่แววหวานนักรักเคยหวง
ลมร้อนผ่านรักผ่านขานคำลวง
รักเลยล่วงยามคิมหันต์ฝันมลาย
คิดถึงรักรักสลายปลายทางฝัน
คิดปลอบขวัญวันเก่าให้เศร้าหาย
สงกรานต์แล้วปล่อยโศกวิโยคคลาย
ลมร้อนกรายฝนพรำฉ่ำชื่นใจ...
กันนาเทวี
ุ๖ เมษายน ๒๕๕๒...
4 เมษายน 2552 18:10 น.
กันนาเทวี
โอกาสดีดีใจได้เที่ยวท่อง
ได้เลาะล่องเพลินใจในแดนฝัน
ลาบ้านเรือนเคยอยู่มานานวัน
สู่เขตขัณฑ์ชายแดนแห่งแคว้นไทย
รถคันเก่าคนขับเก่าขอเล่าเรื่อง
จากบ้านเมืองลัดเลี่ยงทางเชียงใหม่
ดอยสะเก็ดแม่ขะจานผ่านเร็วไว
ยังแล่นได้ข้ามเขาเข้าเชียงราย
เวียงป่าเป้าไม่เหงาไม่เศร้าโศก
หวังพบโชคบุญพาศรัทธาหมาย
ฟ้าเริ่มครึ้มมืดดำคอยกล้ำกราย
ขับสบายถึงแม่สรวยแสนสวยงาม
ลมพัดตึงถึงปั๊มน้ำมันไทย
ไปไม่ได้ฝนลมเป็นขวากหนาม
จำต้องจอดพักรถชั่วโมงยาม
หยุดเพื่อความปลอดภัยไม่ร้อนรน
ฝนลูกเห็บกระหน่ำจำหยุดจอด
จนฝนมอดไปต่อสุดถนน
ย่ำค่ำที่แม่สายปลายฟ้าบน
พบเพื่อนคนร่วมฝันในบ้านกลอน
รวมน้ำใจสี่สหายที่ปลายฝัน
มาร่วมกันเติมสุขสโมสร
แด่เด็กดอยด้อยนักจักอาทร
ลบเดือดร้อนวอนด้วยมาช่วยกัน
มอบผ้าป่ากองใหญ่ไว้ช่วยหนู
ดาราชูช่วยทรัพย์รับกล่อมขวัญ
เมทนี บูรณศิริมาด้วยช่วยแบ่งปัน
กองทุนนั้นมอบให้ได้เล่าเรียน
อนาคตเด็กไทยได้เรืองรุ่ง
มีใจมุ่งฟันฝ่าพาอ่านเขียน
ให้อดทนมุ่งมั่นหมั่นพากเพียร
ดั่งวิเชียรช่วงโชติรุ่งโรจน์เอย
30 มีนาคม 2552 16:35 น.
กันนาเทวี
วันอำลาสู่โลกกว้างทางชีวิต
หนูตัวนิดลาไกลสู่วัยฝัน
ลาจากเพื่อนร่วมเล่นเรียนด้วยกัน
สถาบันที่รักจักจำลา
จากใจครูหวังดีมีต่อศิษย์
ให้ชีวิตก้าวไกลไปศึกษา
ฝึกฝนตนบนทางแห่งปัญญา
จงไขว่คว้าอนาคตที่งดงาม
เคยดุด่าตักเตือนรักเหมือนลูก
ใจหวังปลูกความรักให้ใช่หยาบหยาม
ครูชื่นชมศิษย์ได้ดีมิเสื่อมทราม
ยังติดตามถามข่าวคราวจากไกล
ให้ตั้งใจใฝ่เรียนเพียรศึกษา
หาวิชาใส่ตนจนสดใส
สู้อุตส่าห์ฝ่าฟันสมตั้งใจ
ย้อนคืนไปพัฒนาอย่ารอรี
ให้ยึดมั่นความดีที่ปลูกจิต
รู้จักคิดไตร่ตรองมองวิถี
อุปสรรคขวากหนามบรรดามี
สู้ชีวีอย่าคร้านมารผจญ
รอยยิ้มกว้างสดใสในวันนี้
ให้ได้ดีข้างหน้าอย่าสับสน
มีปัญหาคราใดให้อดทน
ที่ฝึกฝนครูพร่ำสอนแต่ก่อนมา
กันนาเทวี
๓๐ มีนาคม ๒๕๕๒
29 มีนาคม 2552 00:20 น.
กันนาเทวี
รู้ทั้งรู้แก่ใจไร้คนห่วง
เพียงแค่ลวงหลอกให้ใจมีหวัง
บอกว่ารักจริงใจใฝ่จริงจัง
คำนั้นฟังเอ่ยซ้ำย้ำหลายคน
วจีหวานหว่านไปบอกใจเหงา
ย้ำอย่างเก่าเศร้านักรักสับสน
อยากมีใครเคียงข้างกลางกมล
ถามทุกหนสาวใดนับรับดูแล
ไร้เรี่ยวแรงพลังยังอ่อนล้า
รอคนมาช่วยกลบลบรอยแผล
แต่งลำนำทำเศร้าเหงาดวงแด
รักผันแปรแชเชือนร้างเลือนลา
เป็นคนดีมีน้ำใจใครใครรัก
ต่างสมัครเป็นแฟนจนแน่นหนา
หลงคำหวานกานท์กลอนอ้อนวาจา
ซึ้งวิญญาไหวหวามตามคารม
นี่แหละหนาคำกลอนอ้อนใจรัก
หวั่นใจนักรักที่ให้ไรัสุขสม
ไร้คุณค่าความหมายให้ชื่นชม
รักลมลมคิดฝันฤๅมั่นใจ
ยอมเดียวดายกายเอกาดีกว่าแน่
รักแล้วแย่ได้แต่รอท้อหวั่นไหว
เหมือนต้นข้าวรอเคียวเหี่ยวแห้งไป
รักแล้วไยหายห่างและหมางเมิน...
กันนาเทวี
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๒
26 มีนาคม 2552 22:58 น.
กันนาเทวี
เป็นแค่คนธรรมดาชาวนาไร่
เรื่องจิตใจใสซื่อคือสิ่งหมาย
หากรักแล้วรักมั่นเพียงใจกาย
เกินบรรยายหวานนักรักเราปอง
ไม่วิเศษกว่าใครในโลกหล้า
ไร้เงินตราหนุนนำทำจองหอง
ชนรากหญ้าเขาตีตราอย่าลำพอง
เราคือกองกำลังระวังไทย
ชีวิตคนเดินดินกินเห็ดป่า
ถึงยามนาตรากตรำกรำหว่านไถ
ข้าวมีกินดินมีเดินเพลินจิตใจ
เหนืออื่นใดรู้พอไม่ฉ้อโกง
มีน้ำใจไหลล้นแม้จนยาก
ใครลำบากเจ็บป่วยหรือตายโหง
ต่างพึ่งพาอาศัยใจผูกโยง
ยามลาโรงเผาจี่ช่วยแม้ม้วยมรณ์
อยู่บ้านนอกคอกนาราคาถูก
บอกลูกลูกกลับบ้านมานะขวัญอ่อน
มาปลูกผักหักฟืนฟื้นดินดอน
มิเดือดร้อนข้าวปลาอาหารแพง
ผักข้างรั้วบัวข้างคูดูสดใส
เก็บเอาไปพิษภัยไม่แอบแฝง
ปรุงอาหารรสดีมีต้มแกง
นั่นคือแหล่งอาหารต้านโรคภัย