10 สิงหาคม 2548 02:16 น.
กันตะปัณณ์
ตอนที่ห้า เก็งข้อสอบที่นายรูปหล่อทำให้
โอ๊ยยยย!!!!ทำไมหนังสือเรียนมันถึงได้เยอะขนาดนี้ฟะ อ่านไม่ทันแล้วว๊อยย ฉันเกาหัวแกรกๆเพราะเตรียมตัวตัวสอบไม่ทันค่ะ ตั้งแต่มิสเตอร์แดเนียลหายไปจากชีวิตของฉัน ฉันก็ทำอะไรยุ่งเหยิงไปหมด
ก็รูหรอกนะว่าถ้าไม่เริ่มดูหนังสือตั้งแต่วันนี้มีหวังสอบตกแหงๆ เฮ้อ แต่พอจะเริ่มอ่านหน้าหล่อๆของอาจารย์ก็ลอยมาปรากฏที่หน้าหนังสือซะอีกแล้ว...ม่ายยยนะ..........เฮ้อ ปิดหนังสือแล้วนอนเอาแรงก่อนดีกว่า........อ้าว!!!!!!!!ซะงั้นน่ะหล่อน
..........แต่นึกถึงคำพูดเมื่อตอนเดินกลับบ้านกับอีตานั่นแล้ว........เคยมีแฟนแล้วเหรอ???.......จะเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันน๊า......อยากรู้จัง.....เอ๊ะจะคิดถึงตานั่นทำไมเนี่ยฉัน .....ไม่เกี่ยวกันซักกะหน่อย....นอนดีกว่าเรา...คร่อกๆๆๆฟี้ๆๆๆๆ ....ผู้หญิงบ้าไรฟะนอนกรนสนั่นบ้านสะเทือนซะ....
และแล้วเวลาก็หมุนผ่านไปเรื่อยๆจนถึงประมาณตีสองกว่าๆนางเอกของเราก็ตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉิ้งฉ่องค่ะ...หุหุ
ไม่งั้นมันไม่ยอมกระดิกตัวเป็นอันขาด อิอิ พอเปิดประตูออกไปก็ตกใจค่ะ ....ก็อีตารูปหล่อยังไม่ยอมหลับยอมนอนกลับนั่งติวหนังสือในห้องครัวท่าทางเพลิดเพลินเชียวนะยะ
โทษที เลยพลอยทำให้เธอตื่นไปด้วยเลยเขาหันมาบอกสีหน้าแช่มชื่นเหมือนคนกินยาโด๊ปเข้าไปเลยอ่ะ คนบ้าไรไม่ได้หลับทั้งคืนยังแจ่มใสอยู่ได้...น่าสงสัย...
ไม่เป็นไรอ่ะ เธอดูวิชาไรอยูเหรอปราชญ์
วิชาไรก็ช่างเหอะฉันอ่านก็แล้วกันว่าแต่เธอเหอะเอาแต่นอนเดี๋ยวก็สอบตกหรอกเฮอะ
ช่างฉันเหอะ ว่าแต่ทำไมเธอมาอ่านที่ครัวล่ะ นายนั่นมองหน้าฉันเขม็ง
ไม่รู้นางยักษ์ตนไหนกรนเสียงดังโคตรรเลยนะสิ ฉันเลยต้องย้ายมานั่งตรงนี้ เชอะ
นะ...นาย ว่าฉันงั้นเหรอตาทึ่ม เดี๋ยวปั้ด!!! นายหล่อเอี้ยวตัวหลบอย่างคล่องแคล่วก่อนหัวเราะเยาะฉันอย่างสนุก
ว่าจะช่วยติวให้หน่อยแต่ไม่ดีกว่าอ้ะนายนั่นทำงอน
ดีฉันไม่มีอารมณ์หรอก เบื่อๆๆๆๆเข้าใจมั้ย?ฉันรีบวิ่งเข้าห้องอย่างเร็วกลัวเขาชวนติววิชาภาษาอังกฤษแล้วจะเห็นหน้าอาจารย์ลอยมาอีก...พอถึงเตียงนอนก็จับวิชาคณิตศาสตร์มาดูนิดหนึ่งแต่ก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเข้าหัวเลย
.....นอนดีกว่า.....อีกละยัยนี่
.......................
เฮ้อ...สุดท้ายเมื่อคืนก็ไม่ได้ความรู้อะไรเลย...เซ็ง ....ทำมาบ่นก็หล่อนมัวแต่นอนไม่ใช่เหรอยะ....
เออ...หนูมัจลุกไม่ต้องออกไปช่วยพ่อหรอกนะวันนี้ ฉันทำหน้างงๆ
พรุ่งนี้มีสอบไม่ใช่เหรอลูก วันนี้หยุดดูหนังสือซักวันนะเอาให้เต็มที่ไปเลย ฉันมองไปที่ตารูปหล่อก่อนถามพ่อ
แล้วตาเบื้อกนั่นล่ะ พ่อ นายสุพจน์ยิ้มกว้างก่อนตอบลูกสาว
โอ๊ยไอ้หนุ่มมันหัวดี ไม่เป็นไรหรอก ฮ่าๆๆๆ คำตอบนั้นทำฉันหันขวับจ้องพ่อแบบเอาเรื่อง
อะไรนะ พ่อว่าหนูโง่เหรอ
ก็หรือไม่จริงอ้ะ พ่อทำหน้ากวนแบบสุดๆ
หึ..งั้นที่โบราณว่าไว้ว่าลูกไม้ย่อมไม่ไกลต้น หนูโง่พ่อก็โง่แหละฮึ่มๆ
ก็จริงไง อย่างหนูต้องขยันกว่าคนอื่นสองเท่า ถึงจะสู้เขาได้นะพ่อลูบหัวฉันเบาๆเพื่อปลอบใจ
แล้วนักปราชญ์ก็ยื่นอะไรบางอย่างมาให้ฉัน
อ้ะ ...เก็งข้อสอบที่จะสอบวันพรุ่งนี้ เอาไว้อ่านดูสิ หมอนั่นยิ้มระรื่นก่อนส่งมันมาให้ฉัน แต่ฉันรู้สึกเหมือนเป็นตัวตุ่นโง่ๆตัวหนึ่ง ที่อยากจะมุดรูหนีเต็มที่
ทั้งสองคนเลิกรังแกฉันซักทีได้มั้ย!!!!!!!!!!!!!!! ฉันโพล่งออกไปอย่างเหลืออด
หนูเป็นลูกพ่อนะพูดจาไว้หน้ากันบ้างเซ่
ก็เพราะเป็นลูกไง ถึงต้องพูดพ่อเอี้ยวตัวมาตอบก่อนหันไปสาละวนกับการเตรียมของขายต่อ
คนอย่างหนูน่ะถ้าลองตั้งใจทำอะไรแล้วต้องสำเร็จฉันกอดอกพูดอย่างภาคภูมิ
พูดผิดพูดใหม่ได้นะอีหนูเอ๊ย...ฮ่าๆ ....พ่อสบประมาทฉันอีกแล้ว....ฮึ้ยย!!!!!!!
ไปเลยไปออกไปได้แล้ว ไปขายของของพ่อเลยป่ะ!!!!!!!ฉันดันหลังพ่อให้ออกไปทางประตูไวไว
แต่ในใจกำลังคิดการใหญ่ที่จะทำให้ทุกคนต้องตะลึง จะทำคะแนนเต็มให้ได้คอยดู ฮึ่มๆ เอาให้ช็อคไปเลย
...................................
ที่แผงลอยขายหมูปิ้งพ่อสุพจน์ ณ เซ็นเตอร์พ้อยท์เมืองน่าอยู่ฯ
ลุงๆเมื่อกี้ไม่พูดแรงไปหน่อยเหรอครับ ยัยนั่นอาจเสียใจก็ได้นะ พ่อหันมายิ้มให้เขาทีหนึ่งก่อนหันไปกางผ้าใบกันฝน
ไอ้ลูกคนนี้มันต้องพูดแรงๆ ถึงจะกระเตื้องน่ะ....ตารูปหล่อมองพ่อแบบงงสุดๆ ก่อนนึกในใจว่า...โคตรซาดิสม์..
...............................
ในขณะที่สุวรรณมัจฉา ซึ่งอยูที่บ้านตอนนี้กำลังขะมักเขม้นกับการอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงเอาเป็นเอาตาย....
.....ตรงไหนไม่ทราบ เหอๆๆ..กำลังนั่งจ้องหนังสือสามเล่มอย่างเอาเป็นเอาตายตังหาก.....ก้ากๆๆเพราะเจ้าหล่อนคิดไม่ออกน่ะค่ะว่าจะเริ่มจากวิชาไหนก่อนดี พลางก็เหลือบไปเห็นเก็งข้อสอบที่พ่อรูปหล่อเราทำไว้ให้ก็ออกอาการหมั่นไส้ในความเก่งกาจของเขาขึ้นมาอีก....
นี่อ่ะเหรอที่อุตส่าห์ไว้ให้ เชอะๆๆๆๆ แม่จะฉีกซะ...ขณะที่กำลังจะฉีกกระดาษเจ้ากรรมอยู่ก็นึกขึ้นมาได้...
อ่านก่อนค่อยฉีกก็ดีเหมือนกัน ย่นระยะเวลาดีกว่าอ่านเนื้อหามากนัก หึหึ...เพิ่งมาฉลาดก็ตอนนี้อ่ะนะ
นึกๆแล้วเขาก็อุตส่าห์ช่วยทำซะดึกดื่นเหรอ....นายนักปราชญ์....นายก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ..........
ที่โรงเรียนภาคค่ำวันนั้น พิมพ์ชนกนั่งมองสุวรรณมัจฉาอ่านหนังสือสอบอย่างขะมักเขม้น นายนักปราชญ์ก็ทึ่งกับวิธีการของลุงสุพจน์ที่ใช่ได้ผลเกินคาด แต่เมื่อหันไปมองเพื่อนคนอื่นรอบๆก็หัวเราะออกมาพรืดใหญ่....
นี่พิมพ์ เธอดูพวกนั้นสิ เล่นเตรียมตัวทุจริตการสอบซะเป็นการเป็นงานเลยนะ ขำว่ะ แล้วงี้จะผ่านมั้ยนี่
โรงเรียนนี้เขาให้ความสำคัญกับการเข้าเรียนมากกว่าการสอบหรอกย่ะพ่อคุณ นายนักปราชญ์ตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่มันเป็น
....................
กินข้าวได้แล้วยัยทึ่ม ฉันได้ยินตาปราชญ์มาเรียกแว่วๆ
ไม่กินเฟ้ย วันนี้ขยัน ฉันตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออย่างไม่ลดละ
แต่.... ตาปราชญ์ทำสีหน้าเป็นห่วง
ช่างเขา ดูหนังสือตอนท้องหิวหัวมันคงแล่นหรอกนะ .........ตาปราชญ์มองสองพ่อลูกพลางคิดว่าสมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน....ดื้อซะเจงๆ .....
โอ๊ย....มึน..........ไม่ไหวแล้วอ่ะ .....หิวข้าว.....
ฉันเดินสะโหลสะเหลไปยังห้องครัวก็เห็นตานักปราชญ์นอนฟุบอยู่บนโต๊ะทานข้าวค่ะ
นี่ตาเบื้อกมานอนที่นี่เดี๋ยวก็หวัดกินหรอกเฮ้อ.........หักโหมเกินไปแล้วนะ........เมื่อคืนดูหนังสือทั้งคืนแถมตอนเช้ายังไปช่วยที่ร้านถึงเย็นอีก...เอ๊....ฉันเหลือไปเห็นสิ่งหนึ่งค่ะ....
วิชาที่จะสอบวันที่สองนี่นา......ทำให้ฉันอีกแล้วเหรอ...ตาบ้า....ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้นะ.....ฉันเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมผู้หญิงตาถั่วคนนั้น ถึงได้รักเธอ....ฉันยิ้มให้เขาทีหนึ่งก่อนที่ท้องจะร้องประท้วง ...
กินมาม่าแล้วกัน พอดีกับที่เหลือบไปเห็นกับข้าวที่นายนั่นเตรียมไว้ให้.........อีกแล้วเหรอ......อย่าดีกับฉันมากนักได้มั้ย?ตาทึ่ม.....
พอกินอิ่มแล้วฉันก็ลุยต่อเลยค่ะ....ฉันจะพยายามให้สมกับที่หมอนั่นเป็นแรงใจให้......สู้ตายค่า!!!!!!!
........................
พอถึงวันสอบจริง...
ฉันก็ทำสอบด้วยความมาดมั่น...พวกที่ไม่ได้เตรียมสอบแต่เตรียมลอกก็ขุดยุทธวิธีนานาประการมาใช้เพื่อความอยู่รอด ฉันเหลือบไปมองนายนักปราชญ์แวบนึง เขาเท่จัง...ทำข้อสอบด้วยความสุขุมรอบคอบ...อา..นี่ฉันเป็นไรไปนี่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป พอถึงวันประกาศผลสอบ
อาจารย์รามิลนำผลสอบของเรามาให้ที่ห้อง...ตื่นเต้นๆ....
คนแรกที่ไปรับผลคือนายพงษ์ศักดิ์ค่ะ เขาได้เต็มค่ะ...เต็มศูนย์ได้ศูนย์อ่ะค่ะ
ส่วนคนอื่นๆก็ได้ครึ่งๆซะส่วนใหญ่
ส่วนฉันอาจารย์รามิงชะมด้วยค่ะว่าเก่งมาก...อิอิ อยู่แล้นนนน....
พอเดินไปที่โต๊ะเรียน...
เป็นไงฉันเอากระดาษผลสอบบังหน้าก่อนชูสองนิ้วให้นายรูปหล่อค่ะ ตานั่นยิ้มหวานให้ฉันด้วย กรี้ดๆ
ขอบใจนะนายปราชญ์ เก็งข้อสอบของเธอช่วยฉันไว้มากทีเดียวฉันยิ้มเขินๆให้เขา
เปล่านี่ ความสามารถเธอเองตะหากเล่า มั่นใจหน่อยเซ่ อุ๊ย....เขาเขินค่า....หน้าแดงด้วย
ทำหยั่งกับไม่มีเราในโลกนี้ ฮึ้ยๆๆๆ ยัยพิมพ์จู่ๆก็โวยวายหงุดหงิดอะไรไม่รู้ค่ะ
เออ...จริงสิ วันนี้จะทำของโปรดให้ทานนะนักปราชญ์
ข้าวไข่เจียว ไข่เจียวๆๆๆ แล้วเขาก็ทำหน้าเหมือนเด็กๆที่ดีใจเลยค่ะ
อุ๊บส์...ฮาค่ะฮา แต่ก็น่าร้ากกกกกมากกกกกกเลย
ขำไรอ้ะยัยมัจ ข้าวไข่เจียวมันน่าตลกตรงไหนไม่ทราบห๊า!!!!!!......เปล่าหรอกนะไม่ได้ขำไข่เจียวแต่ขำหน้านายตังหากเล่า....
ฉันก็จะกินไข่เจียวฝีมือมัจฉาน้อยเหมือนกันอ้ะยัยพิมพ์โพล่งขึ้นมาขัดจังหวะคนคุยกันอีกละ
ฉันกับตาหล่อหันไปจ้องยัยนั่นเขม็งเครียดก่อนตอบพร้อมๆกัน
ได้เซ่... ยัยนั่นถึงกับกระโดดตัวลอย...ทีเดียว
มัจไม่โกรธเราแล้วใช่ม้า???
เรื่องไรยะ เราไม่ได้ทะเลาะกันซักหน่อยจะโกรธทำไมล่ะฉันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
ส่วนพ่อรูปหล่อซึ่งตอนนี้ทำหน้างงกับความสัมพันธ์แบบเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของพวกเรา...สุดๆ
ระหว่างทางกลับบ้าน...
เออ...ช่วงนี้ไม่เห็นเธอถอนใจแล้วนะยัยมัจ นักปราชญ์ตั้งข้อสังเกตขึ้นมา
จริงๆด้วย กลับมาเป็นมัจฉาน้อยคนเดิมแล้วนะ ดีจังเลย
เหรอ...สงสัยฉันคงตัดมิสเตอร์แดเนียลขาดแล้วจริงๆอ้ะ ฉันยิ้มกว้างๆให้ทั้งสองคน
เลิกได้เด็ดขาดก็ดีแล้ว มัวแต่กลุ้มก็ไม่มีประโยชน์หรอกเนอะ
........ที่จริงเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร.........ถึงตอนนี้เปิดตำราภาษาอังกฤษก็ไม่มีภาพอาจารย์
แดเนียลมารบกวนอีกแล้ว.....ตรงกันข้าม....กลับมีภาพคนอื่นมาอยู่ตรงหน้าแทน....!!!!
ที่บ้าน
ฉันยกข้าวไข่เจียวมาให้ทุกคนได้ชิม แต่ตาเบื้อกปราชญ์กลับมองอย่างกลัวๆ
กินได้ป่าวเนี่ย? .....ก็ไข่เจียวที่โปะลงบนข้าวมันมีน่าตาน่ารักจนกินไม่ลงนั่นเอง...หึหึ...ฉันเติมหน้าให้มันด้วยซอสมะเขือเทศ เป็นรูปหน้าอีตานั่นเองล่ะค่ะ ...เหมือนตรงไหน!!!
ว้าว..น่ากินสุดๆเลย ยัยมัจของพิมพ์ทำไรก็ดูดีมีคลาสไปหมดแหละเนอะๆพิมพ์ชนกพยายามปลอบใจฉัน
เห็นอย่างนี้หนูมัจของลุงทำข้าวไข่เจียวอร่อยที่หนึ่งเลยนะ
พอเหอะพ่อไม่ต้องมาทำเป็นพูด ถึงไงลูกพ่อทำอะไรก็ต้องพยายามมากกว่าคนอื่นสองเท่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอฉันประชดพ่อ..ซะเลย โทษฐานที่มาว่าฉันโง่...หุหุ
10 สิงหาคม 2548 02:15 น.
กันตะปัณณ์
ตอนที่สี่ ความลับของอาจารย์แดเนียล
ในขณะที่อาจารย์แดเนียลกำลังสอนเรื่องวรรณกรรมภาษาอังกฤษอยู่นั้น ....ฉันก็นั่งเท้าคางมองอาจารย์อย่างใจลอย.....พลางคิดเล่นๆว่า...ถ้าครูแดเนียลไม่เกิดมาเป็นครูของฉันก็ดีสินะ....ทำไมคุณต้องเกิดมาเป็นครูของฉันด้วยนะ.....เฮ้อ!!!........เหลือเวลาอีกห้านาทีสินะที่ความสุขทางใจของฉันจะหมดลงแล้วสำหรับวันนี้.....
ส่วนอีตานักปราชญ์ก็คอยเหล่มาทางฉันบ่อยๆเหมือนจะรู้ความในใจ ยัยพิพ์ชนกก็อีกคนที่รู้แก่ใจว่าฉันแอบรักครูแดเนียล ก็แกล้งร้องขัดคอขึ้นมาซะงั้น..
ไม่รู้ฝรั่งผมทองขี้นกอย่างนั้นมันมีดีตรงไหน สู้มารักคนไทยอย่างฉันดีกว่าน่ายัยมัจ ว่าแล้วก็ยกแขนที่เป็นมัดกล้ามหน่อยๆนั่นขึ้นมาพาดไหล่ฉัน...ฮึ้ย..หนักนะยะ
เอาล่ะอาจารย์ลดหนังสือลงแล้วปิดดังพึ่บ ก่อนทำหน้าอาลัยอาวรณ์แล้วมองไปรอบๆห้องเรียนของเรา
วันนี้เป็นคาบเรียนสุดท้ายที่เราจะได้เจอกันแล้วนะ โชคดีนะทุกคน ลาก่อนนักเรียนของครู ฉันหูผึ่งทันทีก่อนโวยวายทั้งน้ำตา
อะไรนะคะครู.......!!!!!!!!!!ครูจะทิ้งพวกเราไปทั้งๆที่พวกเรายังไปไม่ถึงฝั่งฝันอย่างนี้น่ะเหรอคะ???หนูไม่ยอมๆ
จู่ๆฉันก็หัวหมุนติ้วไปหมด
ครูต้องไปจริงๆ ต้องกลับไปวิทยาลัยในอังกฤษภายในอาทิตย์หน้า ดังนั้นวันนี้ครูจึงมาบอกพวกเราไว้ก่อนสิ้นคำหัวใจฉันก็ขาดรอน....และสลบเหมือดเหมือนโดนใครชกจนคว่ำ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนอยู่ห้องพยาบาลนั่นล่ะ
พอฟื้นขึ้นมาฉันก็เริ่มทำใจไม่ได้อีก ในหัวฉันมีแต่ภาพอาจารย์แดเนียลเต็มไปหมด...ฉันร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะให้ไหลอยู่แล้ว ...จนยัยพิมพ์ต้องปลอบใจกันยกใหญ่ ส่วนอีตารูปหล่อนั่นก็ยืนมองตะลึงงันเพราะไม่เคยเห็นฉันร้องไห้มาก่อน..แต่ก็คงรู้สึกเห็นใจที่สภาพฉันตอนนี้เหมือนตัวเองตอนรู้ความลับของพิมพ์ชนกไม่มีผิดคืออาการของคนที่รับความจริงไม่ได้นั่นเอง
ไม่มีประโยชน์หรอกมัจ ถึงเธอจะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดอาจารย์เขาต้องกลับอยู่ดี เธอจะรั้งความสำเร็จของอาจารย์ให้จมปลักอยู่ที่นี่น่ะเหรอ เธอทำได้ลงคอเชียวเหรอยัยบ้า.......จริงสินะถ้าฉันไปยื้ออาจารย์ไว้ก็เหมือนเป็นตัวถ่วงเขาชัดๆ.......
อาจารย์ขา....อาจารย์แดเนียล......จะไม่อยู่อีกแล้วหรือนี่.....ฮือๆๆๆ ฉันะสะอึกสะอื้นพลางคิดถึงวันเวลาเก่าๆที่ฉันได้รับความอ่อนโยนและเทคนิคในการสอนแบบสุภาพไม่เหมือนใครของอาจารย์....ฉันอ่อนภาษาอังกฤษมากๆตอนอยู่ม.ต้นขนาดผสมคำยังไม่เป็นเลย...แต่อาจารย์ก็พยายามสอน..จนฉันสอบวัดระดับได้เกรดสามเพราะอาจารย์นี่ล่ะที่เป็นกำลังใจสำคัญ แล้วจูๆวันนึงอาจารย์มาบอกว่าจะจากไป.......มันทำใจลำบากเฟ้ย!!!
เอางี้มะ ยัยมัจไหนๆเราก็ถ่วงความเจริญของอาจารย์ไม่ได้เราก็ไปซื้อของที่ระลึกให้แกแล้วไปส่งที่สนามบินกันไง คำของยัยพิมพ์ทำให้ฉันจุดประกายความคิดมานิดหนึ่ง จริงสิ ของที่แทนตัวฉันในวันลา ให้อาจารย์เก็บไว้จะได้ไม่ลืมเลือนกัน ดีเหมือนกันๆ
อืมๆพรุ่งนี้เราไปกันนะ ฉันจะไม่ร้องไห้อีกแล้วเดี๋ยวครูจะกังวลใจ
.................
วันรุ่งขึ้นยัยพิมพ์ชนกกลับทำเซอร์ไพรส์ฉันด้วยการแต่งหญิงซะเต็มยศ ตั้งแต่ผมที่ดัดเป็นลอนเก๋ไก๋น่ารัก
ชุดลูกไม้ฟูฟ่องลายกุหลาบ รองเท้าส้นสูงปรี้ด แม่คุณช่างงามเกินคนซะจริงๆ
ทำไมต้องแต่งตัวซะน่ารักขนาดนี้ยะ ฉันโวยวายอย่างเหลืออด
แหม..มัจก็น่ารักไม่ใช่ย่อยนี่ดูสิใส่หมวกแก๊ปเข้ากับชุดเสื้อกางเกงลายทหารออก
ไม่ใช่ว๊อย...ถ้าไปด้วยกันแล้วฉันก็กลายเป็นสตรีที่โลกลืมไปเลยอ่ะเด๊
โลกลืม???
ไม่ไปแล้ว..ฮึ่ม!!ฉันสะบัดหน้าหนีความน่ารักและหวานหยดย้อยนั้นของยัยพิมพ์จนมันเองหน้าจ๋อยไปเลย
บอกมาสิว่าจะให้ฉันทำยังไงเธอถึงยอมไป ท่าทางมาดมั่นเอาจริงทำให้ฉันเริ่มกลัว
ก็ไปแต่งตัวให้สมชายชาตรีหน่อยเซ่..
ตกลง ฉันจะเป็นผู้ชายให้ดู ยัยพิมพ์ประกาศก้อง
นายปราชญ์ขอยืมเสื้อผ้านายหน่อยดิ
เอ่อ..แล้วยัยพิมพ์ก็ไปออเซาะตาเบื้อกด้วยการซบอกค่ะ จนตานักปราชญ์หน้าแดงใจเต้น
ได้โปรดนะนะนะยัยบ้าพิมพ์ยังไม่เลิกเล่นพิเรนทร์และออเซาะต่อ กลิ่นหอมอ่อนๆของยัยนั่นโชยเข้าจมูกเขาจนนายนั่นเริ่มใจอ่อน และ..............ถอดเสื้อของตัวเองออกมา..............
บ้าเหรอยะ...เหม็นเหงื่อนายจะตายชัก ใครจะไปใส่ลง เอาเสื้อใหม่ที่ซักแล้วน่ะมีมั้ย???หลังจากเขกกะโหลกนายเบื้อกเรียบร้อยยัยพิมพ์ก็หันมาบอกฉัน
รอแป๊บนะเธอจะได้เห็นฉันในมาดแมน คอยดู เมื่อยัยนั่นกับตารูปหล่อเข้าไปเสียงโวยวายก็เริ่มดังขึ้น
อะไรวะ เนี่ยเหรอสกปรกจะตายชัก
ก็มีแต่แบบนี้อ่ะ จะใส่ของลุงแทนก็ได้นะ เอามั้ยล่ะ เดี๋ยวหยิบให้
ไม่เอาว๊อย..เหม็น
ไม่เหม็น ซักแล้วยัยบ้า .........จะสำเร็จไหมนี่?...........
โอเคเลยเสร็จแล้ว เปิดได้
ไม่นะ อย่าเพิ่ง...ว๊ายตาเถร
เป็นไงแปลงโฉมซะหล่อสุดๆไปเลยใช่มั้ยล่ะ ฉันเห็นยัยพิมพ์หน้าแดงเถือกเลยค่า..อุ๊ย..น่ารักจังเลย
ตานั่นก็เทสต์ดีเหมือนกันนะ จับยัยพิมพ์แปลงโฉมเป็นหนุ่มน้อย ใส่หมวกไหมพรม เสื้อแบบมีฮู้ดสวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีชมพูสดใส โห...สุดยอดไปเลย
ว้าวเพิ่งเคยเห็นพิมพ์ใส่กางเกงเป็นครั้งแรก น่ารักสุดๆเลย แต่ยัยนั่นกลับร้องไห้โฮ
มาจับเค้าแต่งตัวกะโปโลได้ไงยะ ไม่ยอมๆแล้วพิมพ์ชนกก็กระชากคอเสื้อตาหล่อขึ้นมากรรโชกค่ะ
ไม่มีชุดน่ารักๆกว่านี้เหรอ แบบมีโบว์มีลูกไม้อ่ะมีป่าว???
บ้าเรอะ ชุดแมนๆนะเฟ้ยไม่ใช่แต๋วแตก บ้าป่าวฟะแก
ไปกันเหอะยัยพิมพ์ เอ๊ย ไม่ได้สิ วันนี้เป็นผู้ชายต้องเรียกนายพิมพ์ ดีมั้ยจ้ะ?ฉันเข้าไปควงแขนพิมพ์ชนกจนมันหน้าแดงดีใจและโผเข้ากอดฉันแทน
ดีใจที่สุดเลย มัจเธอกอดตอบฉันสิจ้ะ ฉันดึงหูมันจนร้องจ๊าก
ฉันไปคนเดียวก็ได้ ไม่ง้อพวกชีกอหรอกนะ ว่าแล้วก็เดินหนีซะเลย
รอด้วยสิมัจฉาน้อยของพิมพ์..........อ้วกค่ะอ้วก..........
................
เอ๊..ทำไมคนมองพวกเรากันใหญ่เลยล่ะ
ก็วันนี้เธอเท่มากกกกกกกกกกก นี่นา ไม่แปลกสักนิด
มันทำหน้างอก่อนร้องเสียงดังว่า...
เค้าอยากถูกชมว่าน่ารักต่างหากเล่า แงๆๆ ไม่เอา ไม่อยากเท่ ทันใดนั้นยัยนั่นก็เหลือบไปเห็นชุดที่ติดลูกไม้สีหวานที่ร้านๆหนึ่ง เราสองคนเกาะกระจกมองมัน ก่อนที่ฉันจะนึกได้ และลากตัวพิมพ์ออกมาจากตรงนั้น
อยากได้อ้ะๆ
จะไปอยากทำไมของแบบนั้น แล้วฉันก็นึกได้ว่าตอนเด็กๆที่เราเล่นพ่อแม่ลูกกันฉันได้ทำผิดมหันต์
ฉันผิดเอง ขอโทษที่เวลาเราเล่นพ่อแม่ลูกฉันให้เธอรับบทแม่ตลอด เธอเลยกลายเป็นแบบนี้
บ้าเหรอไม่ใช่ความผิดของเธอซักหน่อย ฉันรับบทแม่เพราะชอบเองตังหากเล่า คิดมากน่า
อ้อ อีกอย่างแม่ฉันก็ชอบเลี้ยงฉันแบบลูกสาวมากกว่า ช่างเหอะ ยังไงวันนี้ผมก็จะเป็นผู้ชายเพื่อมัจนะก่อนที่พิมพ์จะได้ทำซึ้งก็มีคุณลุงคนนึงมาแจกนามบัตร
น้องชายหน้าตาดีนะ สนใจถ่ายแบบไหมล่ะ .....แต่....ยัยนั่นกลับ...
ไม่หรอก แค่นี้ก็แฟนเยอะแล้วย่ะ เสียงดัดจริตหวานๆนั่นมันแล่บออกมาอีกแล้ว จนคุณลุงแกกระเจิงไปเลย
แต่ตอนที่เราไปพักกินข้าวกันสองคนดันมีพวกปากดี มาบอกว่าฉันกับพิมพ์เป็นผู้ชายที่ดูน่ารักค่ะ...ฮึ้ยๆ...
มาว่าคนหน้าหวานอย่างฉันว่าเหมือนผู้ชายได้ไง รู้สึกมีปมด้อยอีกแล้วที่สวยสู้กะเทยไม่ได้....แงๆๆๆๆ
.....................
เป็นไรไปน่ะยัยมัจ เห็นซึมๆตั้งแต่อยู่ในร้านแล้ว ไม่สบายหรือเปล่า?พิมพ์ชนกถามฉันโดยไม่รู้สักนิดว่าฉันกำลังอิจฉาเธออยู่ในใจ
เราน่าจะเปลี่ยนตัวกันเนอะ น่าเสียดายที่มันเป็นไปไม่ได้ ยังไงๆพิมพ์ก็ต้องสวยกว่าเราวันยังค่ำ
เอ่อ...มัจ เธอน้อยใจเหรอที่เดินกับฉันแล้วผู้ชายไม่เหลียวน่ะ
ทำยังไงฉันถึงจะดูเป็นผู้หญิงกะเค้าบ้างนะ ไม่ว่าจะติดกิ๊บให้น่ารักหรือใส่ชุดราตรีมีระบายผูกโบว์ก็ไม่ช่วยให้ฉันเป็นผู้หญิงที่น่ารักขึ้นมาเลย พระเจ้าช่างโหดร้าย ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ฮือๆๆฉันซบไหล่ยัยมัจพลางก่นด่าสวรรค์ที่ปั้นฉันมาให้สวยสู้ยัยพิมพ์ไม่ได้
ทำไมนะเธอถึงได้ฝังใจกับเรื่องพรรค์นี้อยู่ได้ยัยมัจ เธอเป็นเธอน่ะดีอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องสวยเริ่ดเลย เพราะยังไงฉันก็รักเธอที่เป็นเธอนะยัยบ๊องส์ เขา...เฮ้..ฉันเรียกยัยนั่นว่าเขาหรือนี่...เขารักฉันเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่อ้ะ
สารภาพไปเลยสิ อาจารย์แดเนียลคงไม่หลงรักใครที่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียวหรอก ผมรู้ เพราะผมเป็นผู้ชายคนนึงเหมือนกัน.. ....เขารู้ว่าฉันน้อยใจที่ไม่สามารถสารภาพรักกับอาจารย์ได้เพราะฉันขี้เหร่...โอว..ยัยพิมพ์เธอช่างรู้ใจฉันจริงๆ
อย่าไปแคร์คนอื่นแคร์ความรู้สึกเราก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ถึงคนอื่นมองว่าเราเป็นไงก็ช่างแต่สำหรับคนที่เรารักเราจะแสดงความเป็นผู้หญิงออกมาให้เขาเห็นเองนะเชื่อผมสิ อย่ามัวแต่คิดให้พูดออกไปเลยดังๆว่ารัก...เท่านี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ อ้อ อีกอย่างถึงไม่มีอาจารย์แดเนียลเป็นกำลังใจให้ แต่ผมก็พร้อมจะปกป้องมัจนะ.....กรี้ดๆๆ
เท่จังเลยพิมพ์จ๋า.....เราเชื่อนายนะ....แต่เอ๊ะเมื่อกี้พิมพ์แทนตัวเองว่าผมเหรอ ...เฮ้ย...ก้มหน้าลงมาทำไมอ้ะ ว้ากกกก....มันจะจูจุ๊บฉันค่ะท่านผู้อ่าน....ทำไงดีๆ นี่แน่ะดึงหมวกออกซะเลย ฮ่าๆๆเท่านี้ผมหล่อนก็สยายกลายเป็นหญิงไปแล้วววว....ยัยนั่นเอ๋อสักแป๊ปก็ร้องโวยวายใหญ่
ทำไมเธอถึงต้องแกล้งฉันด้วยนะยัยบ้ามัจ กรี้ดๆ หมดมู้ดพอดีกัน...ฮี่ๆเกือบไปแล้วไหมล่ะคะ เกือบโดนกะเทยจูบ อึ๋ย ไม่เอาหรอก รสชาติคงแย่น่าดูชม เหอๆ ...แต่ยังไงก็ขอบใจเธอมากๆเลยนะยัยพิมพ์ที่ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
.....................
ที่สนามบิน
ฉันกับเพื่อนๆที่เรียนภาคค่ำ ในห้องเดียวกันพร้อมทั้งอาจารย์รามิลเดินทางมาส่งอาจารย์แดเนียลอย่างอบอุ่น
อาจารย์รามิลได้มอบช่อลิลลี่ช่อโตให้อาจารย์แดเนียลพร้อมเอ่ยให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ส่วนฉันได้ใช้ความพยายามอย่างสุดฤทธิ์ยื่นสายสิญจน์ปลุกเสกจากเกจิชื่อดังให้อาจารย์เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งอวยพรให้อาจารย์และ
ครอบครัวมีความสุข สุขภาพดีถ้วนหน้า วงเล็บไว้ด้วยว่าขอให้กลับมาเมืองไทยและได้เจอกันอีก
ขอบใจนะหนูมัจเด็กดีอาจารย์เอื้อมมือมาขยี้หัวฉันเบาๆเหมือนเด็กๆ แต่ฉันไม่อยากให้อาจารย์คิดว่าฉันเป็นเด็ก!!!
อาจารย์คะ!!!ฉันตะโกนเสียงดัง หนูชอบอาจารย์ค่ะ!!!!!!!ชอบมาตลอด....พูดไปแล้ววว...ดีจัง...
THANK YOU แล้วอาจารย์ก็คว้าตัวฉันมาจุ๊บเบาๆตรงหน้าผาก ส่งผลให้ยัยพิมพ์กรี้ดดังสนั่น
ทำอะไรมัจฉาน้อยของฉันยะตาแดเนียล กลับประเทศไปเลยป่ะคนลามกยัยพิมพ์ลากตัวฉันออกห่างอาจารย์ก่อนที่ยัยนั่นจะพล่ามต่อเป็นวรรคเป็นเวร
แล้วกลับมาคราวหน้าก็หัดอ่านภาษาไทยให้คล่องๆซะด้วยล่ะเข้าใจมั้ย?ก่อนที่จะได้พูดมากกว่านี้ยัยนั่นก็ถูกอาจารย์แดเนียลคว้าตัวไปจูบแบบดูดดื่ม....แว้กกกก...ได้ไงอ้ะ...กับฉันแค่จุ๊บเอง ไม่ยอมๆ
มิสพิมพ์ชนก I LOVE YOU ไปอังกฤษกับครูเถอะนะที่รัก...ยัยพิมพ์ถึงกับทำท่ารังเกียจอย่างออกนอกหน้าค่ะแถมชี้หน้าว่าอย่างอาจารย์ไม่มีวันได้แอ้มหล่อนหรอก ฮ่าๆๆ...เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ายัยพิมพ์ก็รักนวลสงวนตัวเหมือนกัน
โอว..มิส ครูชอบเธอจริงๆ นะ ครูเสียใจเหลือเกิน แต่ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ละก็ บินไปหาครูได้ทุกเมื่อนะ
รอไปไปเหอะ ไอ้ลักเพศ .....อ้าว...ด่าตัวเองทำไมฟะ ฮึ้ย!!!!
ลาก่อนนะทุกๆคน ฉันหันไปมองเพื่อนๆทุกคนที่ตอนนี้อ้าปากค้าง รอให้ครูแดเนียลมาจุ๊บ เฮ้ย..ไม่ใช่...ตกตะลึงตะหากเล่า ก็ใครจะไปคิดว่าสุดหล่อผมทองของเราเป็นเกย์เล่าคะ? ขนาดฉันยังรับไม่ได้เลย
ยัยมัจดูปากให้ฉันหน่อยซิ มีรอยมลทินติดตรงไหนบ้าง???....ยัยบ้าทำไมเธอต้องทำให้ทุกคนติดใจด้วยนะ บ้าๆๆๆๆ
ฉันเกลียดทุกคน ฮือๆๆๆ
........................
ตั้งแต่วันนั้นฉันก็เอาแต่เศร้า....
เฮ้อ...
เฮ้อ...
ฉันถอนใจไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ แต่รู้ว่าทุกๆคนกำลังรำคาญฉัน โดยเฉพาะตาปราชญ์ที่กำลังตะโกนใส่หน้าฉันตอนนี้
ฉันรู้หรอกนะว่าเธออกหักแต่หยุดถอนหายใจสักทีได้มั้ย??? วันมะรืนจะมีสอบกลางภาคแล้ว ดูสิคนอื่นเขาตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือกัน อีตาเบื้อกชี้ไปหลังห้องก็เห็นค่ะ...เห็นว่าเพื่อนๆกำลังหัวเราะต่อกระซิกสนุกสนาน คุยกันขโมงโฉงเฉง ไม่มีใครอ่านหนังสือสักหน่อย จะมาโวยทำไมเนี่ย?
ที่จริงยังเหลือเวลาตั้งสองวันนะ แหะๆ ค่อยดูๆไปก็ได้เนอะ...แหม..ทีงี้ละมาแก้ตัวเชียวนะ
เฮ้อ................
อีกละ นี่ฟังนะทุกครั้งที่เราถอนหายใจความสุขจะค่อยๆหายไป
พูดอะไรน่ะ เพ้อเจ้อฉันสะบัดหน้าไปทางอื่นก่อนพูดในสิ่งที่อัดอั้น
เธอไม่เข้าใจฉันหรอกถ้าอกหักธรรมดาก็แล้วไป แต่นี่คนที่ฉันชอบกลับไปชอบกะเทยแบบเพื่อนรักของฉันนี่ มันเจ็บปวดหัวใจมากๆเธอรู้กันบ้างไหมห๊า!!!!!!!แล้วฉันก็ฟุบหน้าร้องไห้โฮบนโต๊ะนั่นแหละ
ไม่ใช่ความผิดฉันนะ เขามาชอบฉันเองนี่ไม่ได้ไปยั่วยวนให้มาหลงซักหน่อยยัยบ้าเอ๊ย......ตาหล่อเห็นฉันแย่เลยเสนอแนะวิธีโดยให้ยัยพิมพ์แต่งเป็นผู้ชายอีกครั้ง
ไม่มีประโยชน์หรอกย่ะ ตอนนี้ยัยนั่นมันเห็นฉันเป็นปีศาจไปแล้วล่ะ
.........................
ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะมัจ ก็เหมือนกับฉันที่ชอบคนที่กลายเป็นผู้ชายอย่างยัยพิมพ์น่ะแหละ
นั่นเขาไม่ได้เรียกว่ารักหรอกแค่ความหลงตังหากเล่า
อ้าวแล้วเธอไม่ได้ชอบที่เขาหล่อหรอกเหรอ
ไม่ใช่ ถึงเขาจะหล่อลากขนาดนั้นแต่มันไม่ใช่แค่นั้นนะ!!!
แกชอบไม้ป่าเดียวกันไม่ใช่เหรอ???
อย่าพูดเรื่องนั้นอีกได้มั้ยคนบ้า ฉันทนฟังไม่ได้!!!!
ในที่สุดก็ต้องมานั่งคร่ำครวญคนเดียว....เชอะ...ทำมาเป็นพูดดี
นายเคยมีความรักบ้างหรือเปล่าล่ะ
เคย เกิดมาตั้งสิบเจ็ดปีก็ต้องมีกันบ้างสิ
ที่โรงเรียนเก่าเหรอฉันสาบานได้ค่ะว่าเห็นตานั่นหน้าแดง
ที่ไหนก็ช่างเหอะน่า อย่าสนใจเลย
ไม่น่าเชื่อ ในโลกนี้ยังมีผู้หญิงตาถั่วมาชอบนายด้วยแฮะ
พูดเกินไปแล้วนะยัยบ้า
นี่เขาเป็นคนยังไงอ้ะ บอกกันมั่งเด๊
ไม่ขอออกความเห็นเฟ้ย!!!ไปดีก่าแล้วตาเบื้อกก็วิ่งเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว ไวอย่างกะลิงแน่ะ
10 สิงหาคม 2548 02:12 น.
กันตะปัณณ์
ตอนที่สามข้อคิดจากนายโหด
ตั้งแต่วันนั้นที่ฉันโพล่งคำว่าชอบอาจารย์แดเนียลออกไปฉันก็ได้แต่ซึม.ซึมแล้วก็ซึม ส่วนยัยพิมพ์ชนก
น่ะเหรอไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆทั้งสิ้นแถมยังมาเกาะฉันแจมากกว่าเดิมอีก
นี่ๆยัยมัจ เธอมีฉันอยูแล้วทั้งคนยังจะมานั่งซึมอยู่อีกเหรอ แจ่มใสหน่อยเด๊ยัยนั่นเข้ามากอดเอวฉันซะแน่นจนหายใจไม่ออก ไม่รู้มันคิดลึกอะไรรึเปล่า? ฮึ้ย!!!น่ารำคาญจริงวุ้ย!!! ไม่พูดพล่ามทำเพลงฉันเลยดีดยัยนั่นกระเด็นไปอีกทางหึหึคิดจะมาลวนลามฉันเหรอ..ยากส์
ยัยพิมพ์บ้า อย่าคิดจะมาแอ้มฉันนะยะ ฉันเอาจริงขึ้นมาเธอเจ็บตัวแน่ ฮึ่ม!!ฉันประกาศก้องทั่วห้องเรียนก่อนวิ่งออกไปที่ดาดฟ้าของตึกเรียนอย่างรวดเร็ว โดยมีอาจารย์แดเนียลวิ่งตามมาติดๆ
ฉันเป็นผู้หญิงนะยะยัยบ้า..กรี้ดๆๆๆๆๆมาว่าฉันบ้าได้ไงตัวเองทุเรศที่สุดเลย ยัยพิมพ์มันโวยค่ะมันว่ามันเป็นสตรีเพศไม่ควรไปหยาบคายกับมัน.นี่มันยังไม่รู้อีกเหรอว่าตัวเองอยากเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่..
นี่ๆๆนายนักปราชญ์เข้าไปจิ้มๆตัวยัยนั่นพร้อมกับเตือนสติ นายเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ อย่าบิดเบือนสิ โฮะๆๆ
ตาบ้ามันเริ่มทำใจยอมรับความจริงได้แล้วล่ะค่ะ ว่ายัยพิมพ์เป็นผู้ชายและมันรักกันไม่ได้.หุหุ
ทางด้านฉันกับอาจารย์แดเนียลบนดาดฟ้า.
อาจารย์รู้แล้วนี่คะรู้ความรู้สึกของหนูหมดแล้ว ได้ยินหมดแล้วใช่มั้ยล่ะคะ?ฉันหน้าแดงวูบวาบเมื่อพูดถึงเรื่องนี้..โอ๊ย..เขินชะมัด
ความรู้สึกอะไร???อาจารย์ทำหน้างงๆ ฉันเลยเริ่มยิ้มออกมาได้
อ้าว!!!! ตกลงอาจารย์ไม่ได้ยินใช่มั้ยคะ? ดีจังเลย หลงคิดไปเองอยู่ได้ไม่น่ากังวลเลยเราหุหุ
ขอโทษนะคะที่ทำให้เป็นห่วง ไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะครูฉันยิ้มหน้าบานให้เขาเห็นว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ
ค่อยยังชั่วหน่อยที่หนูมัจไม่เป็นไรและกลับมาเป็นคนเดิมอย่างนี้ ครูก็โล่งอกแล้วล่ะ ลมโบกโบยพัดผมสีบรอนซ์อ่อนๆของครูปลิวสยายพลิ้วพราย มันทำให้ครูดูดีขึ้นมากๆเลยค่ะ ก่อนไปครูแดเนียลยังกำชับอย่างห่วงๆว่า.
ถ้ามีอะไรกลุ้มใจก็มาปรึกษาครูได้ตลอดเวลานะ ไม่เฉพาะแต่เรื่องภาษาอังกฤษนะ เรื่องอื่นครูก็ช่วยเธอได้
ครูแดเนียลเดินจากไปแล้วแต่ฉันยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูที่ครูใช้ มันช่างอ่อนโยนเหมือนตัวครูจังเลยกรี้ดๆๆๆ หนูรักครูจังเลยค่า.อ้ะ จากชอบกลายเป็นรักแล้วเรอะ..แหม..เราเนี่ยไวไฟซะจริงเลยก็ครูน่ารักนี่นา..จริงมั้ยคะคนอ่านอิอิ
..
กลับมาแล้วค่า.กลับมาแล้วครับ ฉันกับนักปราชญ์กลับมาถึงบ้าน พ่อก็รีบเข้ามาต้อนรับนักเรียนใหม่อย่างดี
เอ้าเป็นไงนักเรียนใหม่ สนุกสุดยอดเลยใช่ม้าเรียนวันแรก..จริงอย่างที่หนูมัจโม้ใช่ม้า..อ้าว.. อีตาปราชญ์เหมือนวิญญาณออกจากร่างเลยค่ะตอนนี้ มันซึมเหมือนหมาโดนยาเบื่อไม่มีผิด..แถมโผเข้าหาพ่อร้องไห้โฮไม่มีมาดพระเอกเหลือแม้แต่นิดเดียว..อะไรจะขนาดนั้น
ขอบคุณครับที่ให้โอกาสผมได้เรียน ฮึกๆๆฮือๆๆ มันพยายามจะบอกอะไรพ่อค่ะ
ไม่เป็นไรๆเอ็งเรียนให้เก่งๆแล้วกันนะ ไม่ต้องซาบซึ้งมากขนาดนั้นก็ได้ โอ๋ๆๆๆๆ ไม่ต้องร้องข้ารู้ว่ามันสนุกสุดเหวี่ยงเลยจริงๆ ระงับอารมณ์มั่งนะไอ้หนุ่ม เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้ไปเรียนอีกนะ ไม่ต้องร้องๆ พ่อคงเข้าใจว่ามันเสียดายและผูกพันกับโรงเรียนจนไม่อยากกลับบ้าน ที่ไหนได้ล่ะคะมันกำลังเสียใจที่รู้ความจริงเรื่องยัยพิมพ์ตังหากเล่าฮ่าๆๆ
ส่วนฉันก็คิดถึงแต่อาจารย์แดเนียลสุดที่รัก~~ตลอดเวลาสิคะ ถามได้ เหอๆๆๆ
ทางด้านครูแดเนียลกับอาจารย์รามิลในห้องพักครู
จารย์รามิลครับ ไอ้คำว่าชอบในภาษาไทยนี่มันมีความหมายลึกซึ้งขนาดไหนครับ ครูรามิลได้ยินถึงกับสะอึกทีเดียว
ทำไมครับครูโดนเด็กนักเรียนสารภาพรักมาหรือครับ อย่านะครับครูอย่าคิดจะพรากผู้เยาว์เชียวนาครูรามิลย้อนครูแดเนียลจนหน้าซีด
ลึกซึ้งขนาดนั้นเลยหรือครับ เออผมไม่คิดถึงขนาดนั้นซะด้วยสิ ครูรามิลเห็นครูแดเนียลหน้าซีดก็เฉลยความจริง
ผมล้อเล่นน่ะครับครู อย่าคิดมากเลย เด็กพวกนี้มันก็เพ้อฝันไปเรื่อยแหละครับ ไม่มีอะไรจริงจังหรอก
ครูแดเนียลพยักหน้าหงึกๆก่อนเก็บของกลับบ้านพร้อมกับครูรามิล.
..
วันต่อมาฉันก็ไปเรียนอย่างปกติแต่ที่ไม่ปกติคือขาดอีตาปราชญ์ไปด้วยนี่สิ มันโหวงเหวงพิกล
วันนี้นักปราชญ์ไม่มาเหรอ ยัยแสบถามทั้งที่รู้แก่ใจ
ไม่มาหรอกไข้ขึ้น มาไม่ได้ ฉันโกหกเพื่อไม่ให้ยัยนั่นสะเทือนใจ แต่ยัยพิมพ์กลับสันนิษฐานอาการของโรคได้อย่างแม่นยำจนฉันสะอึก
ป่วยการเมืองอ่ะดิ๊ฮ่าๆๆ รู้ความลับของพิมพ์ชนกซะขนาดนี้ ไม่สะเทือนใจจนหยอดน้ำข้าวต้มไปแล้วเรอะ แหมดูมันตอบแต่ละคำสิคะ ไม่มีการอายฟ้าดินกับการกระทำโป๊งชึ่งของมันที่ไปเปิดกระโปรงต่อหน้าผู้คนเมื่อวานนี้เลย อาการนี้คงแก้ไม่หายจริงๆ
ก็เพราะเธอแหละยัยพิมพ์ชนกจอมลามกถ้าเธอไม่ทำเขาช็อควันนั้น วันนี้เขาคงมาเรียนตามปกติไปแล้ว
ฉันเหล่มองยัยนั่นนิดหนึ่งแต่ไม่มีแม้แววตาแห่งความสำนึกผิดแถมยังเฉไฉไปเรื่องอื่นอีก อยากจะบ้าตาย
นี่ถ้าฉันเป็นผู้หญิงขึ้นมจริงๆ มัจจะแต่งงานกับเราอ้ะเปล่าอ่าาา..ยัยบ้านี่สงสัยสติแตกไปแล้วแน่ๆ
ใครจะไปแต่ง ขืนแต่งฟ้าได้ผ่ากลางหัวอ่ะดิ
..
กลับมาแล้วค่า~~
กลับมาแล้วเหรอคุณปลาน้อย ฉันเหลือบไปเห็นในมือเขาค่ะ กะหล่ำปลีลูกโตเลย จะทำไรน่ะ
ไอ้หนุ่มี่มีฝีมือใช่ย่อยเลยนะลูกมัจ ไม่เลวๆ .เอ่อ.แต่นายเป็นไข้ไม่ใช่เหรอ ตาบ้า
ไหนว่าไข้ขึ้นไง กะแล้วเชียวต้องแกล้งอำกันแหงๆ
แล้วไงเล่า ไม่สนอ่ะ เตรียมของไว้พรุ่งนี้ดีกว่าคุณลุงจะได้ไม่ต้องยุ่ง เฮอะ..ท่าทางมีความสุขกว่าไปโรงเรียนอีกแฮะ
เออ..ท่าทางมันคล่องกว่ามัจอีกนะเนี่ย ฉันเริ่มหน้าบูดค่ะ พ่อชมตาหล่ออีกแล้ว
งั้นก็ให้อีตาบ้าเนี่ยเป็นมือขวาแทนหนูไปเลยละกัน เชอะงอนย่ะ
ผมก็กะจะเอาดีทางนี้เหมือนกันฮะคุณมัจ หมอนั่นหันมายิ้มแห้งๆให้ฉัน
แล้วเรื่องเรียนล่ะ!!!~
อย่างว่าแหละครับผมคงไม่ถูกโฉลกกับโรงเรียนจริงๆ ผมจะลาออกครับ เขาหันมายิ้มให้แบบโล่งอก
กับโรงเรียนใหม่ยังไม่ผูกพันด้วยคงไม่เป็นไรแล้วครับ
แค่วันเดียวเนี่ยนะ จะลาออกแล้วเหรอ สาเหตุหลักของนายที่ไปเรียนเพราะติดใจยัยพิมพ์ชัดๆ แต่พอรู้ความจริงเข้าว่าเธอเป็นผู้ชายก็คิดชิ่งทันทีงั้นใช่มั้ยคนผี!!!!!ฮึ่มคนสิ้นคิดเอ๊ย..ไม่รู้จักแสวงหาโอกาสเล๊ย
ฉันหันไปแยกเขี้ยวใส่เขาจนเขาสะดุ้งโหยง
อยากออกก็ออกไปเซ่~~!!!! ไม่อยากไปก็ไม่จำป็นต้องฝืนใจไปฉันเตรียมจะกลับห้องส่วนตัวด้วยความโมโหสุดขีดแต่ตานั่นรั้งไว้
เดี๋ยวสิครับ
อ้อฉันไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียนเก่านาย แต่จะมาโมเมว่าโรงเรียนฉันจะเป็นเหมือนกันได้มั้ย?
พอไม่ถูกใจก็ลาออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างนี้ชีวิตจะก้าวหน้าได้ไงเล่าเขาตะลึงกับคำพูดของฉันและยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นสักพัก พ่อก็เอ่ยขึ้นมาบ้าง
ความจริงที่หนูมัจพูดมันก็ถูกนะ ลูกผู้ชายลองตัดสินใจทำอะไรไปแล้วน่าจะจะทำให้สำเร็จ จะเรียนไม่เรียนลุงไม่บังคับหรอก แลองคิดให้ดีแล้วกัน.เฮ้ยไปเอากะหล่ำปลีมาสิบหัวซิ
เอ่อ..ครับๆ.ทำไมผมจะไม่รู้..แต่ผมในขณะที่ตาเบื้อกมันเหม่อลอยอยู่นั้นมันก็เดินมาเปิดประตูห้องส่วนตัวของฉันค่ะ คนผีทะเล.กรี้ดๆๆๆๆ
ครืด..
จังหวะเดียวกับที่เขาจ้องมาในห้อง ฉันกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ค่ะ แล้วชุดที่ฉันทรงอยู่ก็เป็นแบบทูพีช จ้ากกกกกกก
พ่อจ๋าช่วยหนูด้วยตาปราชญ์โรคจิต..มันจะปล้ำหนูแว้วววววว
พ่อคงจะได้ยินเสียงฉันก็รีบวิ่งมาดูเหตุการณ์ทันที
เกิดอะไรขึ้น แกบังอาจทำอะไหนูมัจของฉันห๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!~แล้วพ่อก็.ยังไม่ทันลงมือ ตานั่นก็เผ่นแน่บไปไหนแล้วก็ไม่รู้.
แฮ่กๆจะไปหลบที่ไหนดีล่ะ ค่ำมืดป่านี้แล้วด้วย ก็มีแต่ที่นี่ที่เดียวละนะ.โรงเรียน.
ว่าแล้วนายนักปราชญ์ก็ปีนหน้าต่างเข้าไปในห้องเรียนอย่างชำนาญ โหอย่างกับตีนแมวเลยเนอะ..คริๆ
ขอหลบที่นี่ซักพักละกัน ทำไงได้ให้แกสงบลงก่อนแล้วค่อยว่ากันเฮ้อ ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเรางี้นะ เขามองไปรอบๆห้องเรียนที่มืดและเงียบงัน
ไมมันวังเวงงี้ฟะ คืนนี้จะได้หลับได้นอนกะเค้ามั้ยเนี่ย เอ๊ะเงาดำๆนั่น ใครอ่ะ ผะผีหรือว่าลุงฟะ
ทันใดนั้น!!!!!!!!!!!!!~!!~จ๊ากกกกกกกก.
เอ่อคนเหรอ.อ้าวนายเองเหรอ เขาคือนายพงษ์ศักดิ์นั่นเอง
นายล่ะมาทำไรค่ำมืดๆนายโหดถามตาหล่อพลางค้นอะไรใต้โต๊ะขยุกขยิก
นายล่ะ???
มาเอาของเด๊.ว่าแต่นายอ่ะมาทำไร ถามเจงๆ นายพงษ์โหดมองพระเอกของเราอย่างกวนสุดๆ มันนึกว่ามันเป็นเจ้าของโรงเรียนรึไงฟะ ใครๆถึงมาไม่ได้
เออ..ก็มีเรื่องกับลุงแกนิดหน่อยน่ะนายโหดสวนกลับมาอย่างรู้แกว
ถูกไล่ออกจากบ้านมาล่ะเซ่ฮ่ะๆ ฉันก็นึกอยู่แล้วจะไปทนอยู่กับสองพ่อลูกนั่นได้ยังไงเฮ้อ~!!!
พระเอกของเราถึงกับตาเหลือกเมื่อได้ยิน
โหดขนาดนั้นเลยเรอะเขาถามปากคอสั่น
แถวนี้สองพ่อลูกนั่นคุมหมดอ่ะ
หา!!!!นักปราชญ์เอามือกุมขมับ จนนายพงษ์ศักดิ์ส่ายหน้า
เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก เพียงแต่ใครร้ายมาก็ร้ายตอบเท่านั้นเอง..นายนักปราชญ์มองตาโหดอย่างไม่เชื่อสายตา
นายก็ดูรักเรียนดีนะ ไม่เห็นเป็นอย่างบุคคลิกภายนอกเลยแฮะ เขาชมตาโหดแบบทึ่งจัด
ฉันเนี่ยนะรักเรียน โฮะๆๆๆ แค่ไม่อยากซื้อหนังสือใหม่เท่านั้นแหละ ที่นี่เรียนทั้งกลางวันกลางคืน ขืนทิ้งหนังสือไว้ ได้เขียนเล่นกันสนุกมือแหงๆ
เพราะเหตุผลเท่านี้น่ะเหรอที่ทำให้นายวกกลับมาเอาสมุดโน้ตที่นี่น่ะ
ก็ใช่อ่ะดิ๊.ใครมันจะขยันปานนั้นเล่า โธ่!!!รักเรียนเหรอไม่มีทางหรอก ฉันละเกลียดโรงเรียนที่สุดเลยเชอะนายโหดทำท่าโอ่ๆว่าตนเองแน่ในเรื่องเกลียดการเรียน.เหอๆเรื่องแบบนี้เขาโม้กันได้ด้วยเหรอฟะ.
นี่นายไม่รู้จริงๆเหรอเจ้าเบื้อก ดูโรงเรียนอื่นเขาเถอะไอ้นี่ก็ไม่ได้ไอ้นั่นก็ไม่ดีไอ้นี่ก็ไม่ให้ทำ ต้องเป็นเหมือนหุ่นยนต์ทำตามที่เบื้องบนกำหนด ผิดกับที่นี่จะแต่งตัวยังไง จะไว้ผมทรงไหน ขี้เหล้าเสเพลยังไงเขาก็รับ เออ..ว่าแต่ที่โรงเรียนเก่านายมันเลวร้ายมากเหรอหรือเกิดเรื่องไรอ่ะถึงได้ลาออกมาน่ะ นายโหดซักไซ้
เปล่าหรอก ฉันลาออกมาเองน่ะ นายโหดเหม่อมองนอกหน้าต่างห้องก่อนเอ่ยเบาๆ
ของฉันถูกให้ออกน่ะ แต่ไม่รู้เพราะอะไรกันแน่ ประมาณว่าอยู่ไปคนแบบฉันคงไม่สร้างชื่อเสียงให้หรอกมั้ง
นายว่ายุติธรรมมั้ยล่ะ จะว่าไปสังคมสมัยนี้เขาคงไม่ชอบคนหัวแข็งอย่างเราหรอก รู้ทั้งรู้แต่มันก็อดทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้ แต่ละคนที่นี่ล้วนมีปัญหากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางบ้าน โดนไล่ออกกลางคัน หรือตกซ้ำชั้น
มันเลยเป็นอะไรที่เราเข้ากันได้ดีละมั้งเนอะ~!!นายโหดพูดจนนายปราชญ์อึ้งในความมีหัวคิดที่ผิดกับรูปลักษณ์ของพงษศักดิ์อย่างมาก จนพ่อรูปหล่อของเราฮึดสู้จนได้
นายพูดถูกนะ!!!! ..จ๊อกกกกกเสียงท้องนายนักปราชญ์ร้องค่ะ
นายหิวข้าวเหรอ แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก เอ้อไปเดี๋ยวจะพาไปที่ๆนึง
ที่ไหนอ่ะ?
แหล่งซ่องสุมของพวกฉันเองแหละ.กึ๋ยส์.นายนักปราชญ์นึกภาพว่าจะต้องเป็นเหมือนแหล่งมาเฟียแหงๆน่ากลัวจัง..
แล้วนายพงษ์โหด ก็พามายังร้านซูปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง
เชิญครับ อ้าวไอ้พงษ์เหรอ ชายหนุ่มในชุดฟอร์มประจำร้านทักนายโหดอย่างสนิทชิดเชื้อ
เฮ้ยไอ้เกียรติเอ็งเล่นโดดเป็นกิจวัตรงี้ได้ไงอ้ะนายโหดเรียกเขาว่าเกียรติค่ะ หรือชื่อเต็มๆว่า สุรเกียรติ
เอ๊ะ หมอนี่ ชื่อไรอ่ะเรา
นักปราชญ์ครับพี่ พอสุรเกียรติได้ยินชื่อเท่านั้นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที
แกนะแก ทำไมถึงไม่ไปโรงเรียน ห๊า!!!!นายเกียรติกระชากคอเสื้อย้วยๆของปราชญ์ขึ้นมา
วันอื่นมีไม่ขาดมาขาดวันที่มีชั่วโมงพละได้ไงฟะ!!!!!แล้วนายโหดก็อธิบายให้กระจ่างใจ
ห้องเรามีผู้ชายสิบคน มีนายเพิ่มมาอีกคนก็เล่นฟุตบอลได้ครบพอดี ดันมาขาดซะได้ หึหึ
เออ. หาไรให้หมอนี่กินหน่อยสิมันถูกบ้านยัยปลาทองไล่ตะเพิดออกมายังไม่ได้กินไรเลยอ้ะ
ต้องมีเรื่องมาทุกครั้งสิน่าไอ้พงษ์ แกหัดจ่ายซะบ้างนะเฟ้ย..กินฟรีอยู่ได้ ว่าแต่ไปทำไรเข้าให้ล่ะ
ถ้าไม่เล่าไม่ให้กินนะเฟ้ย!!!!
และในขณะที่พวกผู้ชายยืนเฮฮาอยู่ในซูปเปอร์ฯ อยู่นั้น ฉันก็เดินมาพบพวกเขาพอดีค่ะ
มัวมาโม้อะไรอยู่แถวนี้ยะตาเบื้อกพอได้ยินเสียงฉันเขาก็รีบไปหลบหลังนายโหดทันที
ทำให้ฉันต้องรีบออกตัวเสียงดังกลบความอาย
ฉันไม่โกรธแล้วย่ะตาบ้า..กลับบ้านได้แล้ว
จริงเหรอ ไม่โกรธจริงๆนะ
อุบัติเหตุย่ะ หรือว่านายตั้งใจบอกมานะคนผี
ก็ไม่เชิงอ่ะตอบแบบนี้เหรอฉันเลยตุ๊ยท้องอีตาลามกนั่นไปสามทีโทษฐานปากมาก
ผมขอโทษ เอแล้วทำไมต้องหน้าแดงพร้อมๆกันด้วยเล่าเอ๊อ
พอได้แล้วกลับๆๆ มัวยืนเซ่ออยู่ได้ รีบเข้าเซ่ พวกนายก็อย่าอู้ล่ะทำงานเข้า ฉันรีบเดินฉับๆๆๆเพื่อให้ถึงบ้านโดยเร็วที่สุด แต่ก่อนหน้านั้นก็อุตส่าห์ได้ยินตาลามกนัดแนะนายสุรเกียรติเรื่องไปโรงเรียนเอ๊ะยังไงล่ะเนี่ย
.
กลับมาแล้วเหรอลูกมัจ..พ่อทักเสียงดังลั่นเลย
ลุงครับนายนั่นเข้าไปกราบเท้าพ่อทำไมอ่ะ
โทษทีเว้ยข้าเข้าใจเอ็งผิดไปจริงๆ ไม่ต้องกราบๆลุกขึ้นๆ พ่อประคองตัวเขาขึ้นมาแต่เขากลับคุกเข่าอยู่อย่างนั้น
ลุงครับผมขอไปโรงเรียนเหมือนเดิมเถอะนะครับ ผมขอร้อง!!!!
อะไรกันจู่ๆ
ผมจะลองแก้ตัวนับหนึ่งใหม่ที่โรงเรียนนี้ ผมจะไม่พูดว่าลาออกอีกแล้ว ขอผมเรียนเถอะนะครับ ฉันรู้สึกทึ่งในตัวผู้ชายคนนี้จังค่ะ ไม่ว่าอะไรที่ทำให้เขาคิดได้ฉันก็ขอขอบคุณที่ช่วยส่งเสริมเขาทางอ้อม..
เป็นผู้ชายอย่าไปยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆเข้าใจมั้ย รีบกลับไปนอนซะ ขืนไปสัปหงกที่โรงเรียนคนเขาจะมาว่าข้าได้ ไปไป๊
ลุง ขอบคุณมากครับ
แต่บอกไว้ก่อนนะทีหน้าทีหลังอย่าแอบดูหนูมัจอีกไม่งั้นข้าไม่เอาไว้แน่
ก็บอกแล้วว่าไม่ได้แอบดู ลุงก็ ..ฮ่าๆๆๆ..จบลงด้วยดีนะวันนี้
.
วันรุ่งขึ้นที่โรงเรียน บนกระดานดำมีคนวาดรูปอนาจารไว้ค่ะ แถมยังระบุชื่อฉันไว้อีก
กางเกงในของปลาทองน้อยเป็นรูปเท็ดดี้แบร์ด้วย ลงชื่อ นักปราชญ์
ฮึ่ม!!!!แค้นนี้ต้องชำระ..ฉันหันไปมองทางตัวต้นเหตุอย่างอาฆาตแค้น
ไม่ใช่นะไม่ใช่ผมจริงๆ ผมโดนแกล้ง
คนอื่นใครจะเห็นเล่านอกจากเธอเมื่อคืนนี้อ้ะ ตาบ้าฉันตวาดใส่เขาเสียงดังจนพิมพ์ชนกได้ยิน
อะไรนะนายเบื้อกนายเห็นกกน.ของยัยมัจแล้วเหรอ ไม่ยอมๆๆๆๆ
ไม่ใช่ครับ เข้าใจผิด.โอ๊ย ฉันเลยตบหน้าเขาแบบระรัวไฟแล่บเลยค่ะแถมด้วยการตุ๊ยท้องแบบไม่ยั้งอีกจนเขาน่วมไปเลย ทำให้ชั่วโมงพละวันนี้ขาดคนเล่นอีกแล้ว
10 สิงหาคม 2548 02:11 น.
กันตะปัณณ์
ตอนที่สองสาวสวยประจำโรงเรียน
ต๊ายยยยนี่มันใกล้เวลาเรียนของเราแล้วนี่นา อีตานักปราชญ์นั่นยังไม่ตื่นเลย ให้ตายสิ จะนอนไปถึงไหนนะ!!!
ผ่างๆๆๆๆๆ เสียงฝาหม้อบ้านฉันเองล่ะค่ะ แหะๆ ต้องใช้วิธีนี้ปลุกใช่มะอีตาขี้เซา ผ่างๆๆๆๆๆๆ
โอ๊ย!!!!!แสบแก้วหูเฟ้ย คนจะนอนมาปลุกทำไมอ่ะ นายรูปหล่องัวเงียเต็มที่ก่อนแหงนหน้ามองฉันที่เตรียมจะตีฝาหม้อเป็นรอบที่สามให้เขาหูหนวกไปเลยฮี่ๆๆๆ..แต่เขาเหมือนจะรู้ตัวเลยยกมือห้ามทัพเสียก่อน
ตื่นครับตื่น..แหม..ซือเจ๊ไม่น่ารุนแรงเลยอ้ะ สะกิดกันดีๆผมก็ตื่นแล้วล่ะ ยังมีหน้ามาบ่นอีกคนผี ฉันจะไปเรียนไม่ทันก็เพราะนายน่ะแหละ วันนี้มีวิชาสำคัญซะด้วย
สะกิดดีๆ เชอะ!!!~สะกิดกับเท้านายังไม่รู้สึกด้วยซ้ำ!! จะให้สะกิดเหรอ คงต้องใช้เท้าช้างมาสะกิดอ่ะดินายถึงตื่นได้อ่ะ คนบ้าไรฟะนอนตั้งแต่เช้ายันค่ำ ไม่อายฟ้าดินเอาซะเลยฉันกอดอกยืนรอเขาเอาหวีห้าซี่หวีผมปะหลกๆอย่างรวดเร็วก่อนจะเอ่ยถ้อยคำบาดหูฉันขึ้นมาอีก
ไอ้ที่ว่าเท้าช้างนี่ เท้าคุณหรือครับซือเจ๊ ถึงว่าเหมือนมีอะไรหนักๆมาเขี่ยผมตอนนอน น่ารำคาญชะมัดเลยอ่ะ
นาย..อีตาปราชญ์นายกล้าว่าขาเรียวงามของฉันว่าขาช้างเหรอตาบ้า ฝากไว้ก่อนเหอะ วันนี้ฉันรีบ เร็วๆเข้าเด๊
ว่าแล้วฉันก็เร่งฝีเท้าสุดชีวิตเพื่อให้ไปทันคาบเรียนแรกของค่ำวันนี้ให้ได้ นายนักปราชญ์รีบวิ่งตามจนหอบแฮ่กๆ
เฮ้ย!!!!เดี๋ยวก่อนลืมสมุดโน้ตภาษาอังกฤษสุดเลิฟป่าวหว่า?ฉันรีบค้นของในกระเป๋านักเรียนจนกระจุยเพื่อหา
สมุดเล่มเดียวที่สำคัญมากกกก..โอวววเจอแล้ววววว
เจอแล้วๆๆๆๆเยสๆๆๆหมอนั่นเหล่มองฉันด้วยสายตาเหยียดหยาม
แค่สมุดเล่มเดียวเนี่ยนะทำเอาคนอื่นตกอกตกใจกันทั้งเมืองยัยเว่อร์เอ๊ย!!!!
ถ้าไม่มีเล่มนี้นะก็เหมือนกับไม่ได้เริ่มวันใหม่เลยล่ะ ไปนะ แล้วมารับตอนสามทุ่มล่ะอย่าลืม บายนายรูปหล่อจุ๊บๆ คุณเธอเป็นอะไรไปนี่.งงว่ะ จะอารมณ์ไหนก็เอาให้แน่ๆหน่อยเฮ้อ
เอ่อ..ตั้งใจเรียนแล้วกันนะไปล่ะซือเจ๊ นักปราชญ์เตรียมตัวเดินกลับแต่มองเห็นปิ่นโตในมือที่เจ้าของดันดีใจอะไรก็ไม่รู้จนลืมเอาติดไปด้วย ทำไงดีล่ะทีนี้ ตะโกนเรียกจะทันมั้ยเนี่ย
มัจฉา วู้~~~ลืมข้าวกล่องครับ โอ๊ะ นักปราชญ์รีบวิ่งกลับมาไม่ทันมองทางเลยชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างแรง เมื่อเขาเห็นหน้าเธอชัดก็ถึงกับตกตะลึงในความงามแบบไทยแท้ ปากนิดจมูกหน่อย ผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นลอนที่มัดไว้รวบๆนั้นชวนให้น่าหลงใหลยิ่งเมื่ออยู่ใกล้ๆ
ขะ..ขอโทษจริงๆค่ะฉันรีบมากไปหน่อยเลยทำให้คุณเจ็บตัวไปด้วย นักปราชญ์มัวแต่อึ้ง ทึ่ง ในความงามจนเธอคนนั้นมองเห็นปิ่นโตที่ตกอยู่ก็จำได้
นี่ปิ่นโตของยัยมัจนี่นา. อ้าว..เป็นเพื่อนยัยมัจฉาน้อยหรอกเหรอนี่ บังเอิญดีจัง..
ครับยัยนั่นโก๊ะจะตายไป ไม่รู้ตื่นเต้นดีใจอะไรนักหนาจนลืมปิ่นโตอ่ะครับ
เอ่อ..คุณเป็นเพื่อนยัยมัจเหรอคะ ไม่เห็นเคยเห็นเลยหรือว่าเป็น
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับผมแค่มีหน้าที่รับส่งยัยนั่นตามคำสั่งพ่อเขาเท่านั้น ผมชื่อนักปราชญ์ครับ นายรูปหล่อทำตาเยิ้มแถมกุมมือสาวสวยกลางที่รโหฐานอีก แน่ะ!!!!
แหม..ชื่อเท่จัง ฉันชื่อพิมพ์ชนกค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เธอยิ้มแหยๆก่อนบอกนักปราชญ์เบาๆว่า
กรุณา.ปล่อยมือฉันเถอะค่ะ ใครเห็นเข้ามันจะไม่ดี นายนั่นหน้าสลดหดมือบอนๆของเขาทันทีที่รู้สึกตัว
จากนั้นเขาก็ฝากคุณพิมพ์ชนกผู้น่ารักให้ช่วยนำปิ่นโตไปให้ยัยมัจฉาที่โรงเรียน เป็นอันว่าจบหน้าที่ไปอีกหนึ่งวัน
วู้~~~~~~~~ตื่นๆๆๆๆๆๆอีตาขี้เซาตื่นซะทีเซ่.. ผ่างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มามุขเดิมอีกแล้วครับท่าน
อ้าวเฮ้ย!!!ไหงเป็นงี้ล่ะนะ..นายใส่ชุดนักเรียนทำไมอ้ะ ไปส่งฉันแค่นี้ไม่ต้องใส่เครื่องแบบหรอกน่าที่ไหนได้อีตาปราชญ์ทำสีหน้ารื่นเริงผิดปกติ มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย
ไปกันเถอะมัจฉาน้อยคอยรัก ~~~~ลั๊ลลาๆ~~~~~ นายนักปราชญ์ในคราบชุดนักเรียนพร้อมอาวุธครบมือ เอ๊ยอุปกรณ์การเรียนครบมือ นี่มะ หมายความว่านายนั่นจะไปเรียนกับฉันงั้นเหรอ???
คิดไงอ้ะถึงแต่งตัวแบบนี้แล้วนายแน่ใจเหรอว่าอยากเรียนแน่อ้ะ ไหนว่าเกลียดโรงเรียนไงเล่า?
ฉันมานั่งคิดดูแล้วนะก็จริงอย่างที่คุณลุงพูดแหละไหนๆต้องไปรับส่งเธอแล้วก็ควรตัดสินใจเรียนมันด้วยซะเลยหมอนั่นยิ้มแบบมีเลศนัย ยิ่งทำให้ฉันไม่เชื่อว่ามันจะไปเรียนจริงๆ มันต้องแอบแฝงจุดประสงค์อะไรแน่ๆ
มะ..ไม่จริงอ้ะ คนอย่างนายอ่ะเหรอจะเป็นไปได้ยังไง ก็เมื่อวานซืนยังประกาศปาวๆอยู่เลยว่าเกลียดโรงเรียน แล้วทำไม?ฉันเห็นพ่อลูบหลังลูบไหล่เขาใหญ่ คงพอใจสินะที่เด็กมันเชื่อฟังพ่อขนาดนี้
ดีแล้วล่ะไอ้หนุ่ม มีใจใฝ่ดีอย่างนี้ ลุงสนับสนุนเต็มที่นะพ่อตบไล่เขาสองสามทีก่อนไปเตรียมของขายคืนนี้
ตั้งแต่วันนี้ผมจะตั้งใจเรียนแล้วจะทำหน้าที่ไม่ให้บกพร่องแม้แต่นิดเดียวครับลุงเขาประกาศอย่างเชื่อมั่น
นายรูปหล่อตัดสินใจเข้าเรียนที่เดียวกับฉันโดยมีสาเหตุจูงใจบางประการ..แต่มันคืออะไร..เราคงต้องรอดูต่อไป
ทุกวันหลังห้าโมงเย็นเป็นต้นไป.นักเรียนภาคค่ำจะเข้าไปสลับสับเปลี่ยนกับนักเรียนมัธยมปลายสายสามัญปกติซึ่งเป็นภาคกลางวัน แต่ดูนายนั่นสิ เหมือนจะอยากมาเรียนทั้งวันทั้งคืนซะด้วยซ้ำ ตื่นเต้นอะไรกันนักกันหนาฟะ..
โรงเรียนภาคค่ำแบบเราๆจะเรียกได้ว่าเป็นแหล่งซ่องสุมผู้คนประหลาดหลากหลายประเภทก็ว่าได้
กริ๊ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!เอาล่ะเริ่มเรียนแล้ว..แต่ครูยังไม่มาเลยอ่ะ
สวัสดีมัจฉาคุณลุงประสิทธิ์ที่มาเรียนไม่เคยขาดทักทายฉันแต่อีตานั่นกลับ.
อาจารย์ใช่มั้ยครับเนี่ยผมชื่อนักปราชญ์นะครับ ฝากตัวด้วยครับเขาไหว้ลุงประสิทธิ์อย่างนอบน้อมเพราะคิดว่าเป็นอาจารย์ ฮ่าๆๆๆๆ
เอ่อ..ผมเป็นนักเรียนครับไม่ใช่อาจารย์ แป่วววววววววว สมน้ำหน้าตาเบื้อกเอ๊ยยย!!!
อ้าวเหรอครับหน้าแตกเยย เหอๆ เขาหัวเราะแก้เก้อก่อนไปหาที่นั่งของตัวเองทันที
ฉันได้โอากาสเลยเรียกเพื่อนๆในห้องแนะนำตัวกับนายนักปราชญ์ก่อที่ครูจะเข้าสอน
ลุงชื่อประสิทธิ์นะ อาชีพช่างไม้ประจำหมู่บ้านนี้ล่ะ
ฉันชื่อรัศมี ว่างๆก็แวะไปที่ร้านบ้างสิ แม่คนนี้ทำงานบาร์ค่ะ สายตายั่วยวนเชียว กึ๋ยๆ
ผมชื่อวุฒิ เป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนภาคเช้าครับ แต่ที่เห็นมาเรียนเนี่ยเพื่อทบทวนความรู้เฉยๆแหละว่าแล้วหมอนั่นก็ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืองุดๆเลย ไม่พักหายใจมั่งหรือไงนะ .
มองไรวะ..หน้าตาแบบนี้ไม่คุ้นเคยเลยว่ะ ตูชื่อพงษ์ศักดิ์ที่บ้านขายปลาเฟ้ย ไม่ไรมะ??? แบบโหดๆแบบนี้ก็มีค่ะ น่ากลัวสุดๆเลย โดยเฉพาะคนนี้และลูกน้องที่กวนประสาทสุดๆ
ชื่อโชติ เป็นผู้ชายอยู่ร้านขายดอกไม้มันผิดตรงไหนฟะ!!!นี่แหละลูกน้องคนโปรดของอีตาโหดกวนประสาทซะไม่มีเลยล่ะท่านผู้ชมขา~~ส่วนอีตามุมห้องนั่นน่ากลัวยิ่งกว่าค่ะเพราะทำเสมือนตัวเองเป็นบุคคลลึกลับตลอดเวลา ไม่ยอมตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น
ส่วนฉันสุวรรณมัจฉา หรือปลาทองน้อย เจ้าของแผงลอยหมูปิ้งข้าวเหนียวประจำถิ่นจ้าสิ้นคำแนะนำตัวของฉันอีตาหล่อถึงกับเหงื่อตก ตะลึงกับความหลากหลายของเผ่าพันธุ์ในโรงเรียนภาคค่ำจนเผลอครางออกมาทีเดียว
โอช่างเป็นโรงเรียนที่มีหลากหลายประเภทจริงๆ อะเมซซิ่ง~~สุดๆเลย หมอนั่นตาค้างเหมือนกับเจอรังมดขนาดใหญ่เข้าให้ยังไงยังงั้น เหอๆ
หมอนั่นเหล่มองพวกนายพงษ์ศักดิ์กับนายโชติที่ทำท่ากระหยิ่มยิ้มย่องแปลกๆก็กลัวจนตัวสั่นขึ้นมาอีก..แถมยังมาเกาะหลังฉันเหมือนเด็กๆขอร้องให้ช่วยอีกตะหาก หลุดมาดพระเอกไปเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ
กลัวไรยะพ่อคุณ ที่นี่แต่คนทั้งนั้นนะยะไม่มีผีหรอก ทำกลัวไปได้ไม่แมนเอาซะเลย ฉันตวาดมันจนรู้สึกตัวจนได้
ปละ..เปล่านี่ ไม่ได้กลัวซักหน่อย อ้าเจอแล้ว คนแบบนี้แหละที่ฉันตามหาอยู่นี่เอง อยู่ๆนายหล่อก็ปราดไปที่ผู้ชายคนนึงในชุดวอร์มที่อยู่หน้ากระดานดำ
คนแบบนายนี่แหละที่ฉันอยากคบค้าสมาคมด้วย ดีจังที่มีนายอยู่ด้วยค่อยใจชื้นหน่อย เฮ้อ~!! นายนักปราชญ์เข้าไปกอดไหล่เขาอย่างหนิดหนมจนเขาต้องบอกออกมาว่า..
ผมเป็นอาจารย์ประจำชั้นนี้ครับชื่อรามิล ไม่ใช่นักเรียนหรอก แป่วววว.เป็นไงล่ะ หน้าแตกยับเลย บ้าจริง!!คนหล่อนี่มักชอบหาที่พึ่งทางใจกันแบบนี้อ่ะเหรอไม่เกี่ยวหรอกมั้ง..มันอยู่ที่ความมั่นคงของจิตใตต่างหากล่ะ
เอาล่ะครับวันนี้เรามีเพื่อนใหม่นะ ชื่ออะไรแนะนำตัวด้วยครับ อาจารย์รามิลกล่าวเนิบๆช้าๆตามแบบฉบับ
ผมนายนักปราชญ์ แสงธนานุภาพ มีอะไรก็ช่วยแนะนำด้วยนะครับทุกๆคน ทันใดนั้นลูกพี่ลูกน้องตะกูลโหด
ก็ตะโกนแซวมาไม่ได้หยุดหย่อน
วี้ดวิ้ว~~!! มีอะไรก็ปรึกษากันได้นะน้องชายรูปหล่อ ฮ่าๆๆๆ ..ใครจะอยากเป็นเพื่อนกับพวกแกกันฟะ!!!..พวกหน้าโหดไร้มนุษยสัมพันธ์เอ๊ย!!!เสียงในใจนายนักปราชญ์อีกแล้วค่ะ
อ้าววันนี้มีคนขาดคนนึงเหรอ แต่รู้สึกว่าวันนี้จะมาเยอะกว่าทุกวันนะอาจารย์รามิลพูดแล้วยิ้มให้นักเรียนทุกคนในชั้นเรียน แต่นักปราชญ์กลับสงสัยอะไรขึ้นมาอีก
แค่นี้น่ะเหรอเยอะแล้วอ่ะยัยมัจ เขาเท้าคางกับโต๊ะเรียนแล้วมองไปรอบๆห้องที่โล่งๆ
ตอนมอสี่อ่ะนะมีตั้งสามสิบคนตอนนี้เหลือแค่สิบเจ็ดคนเองล่ะ นายหล่อทำตาโต
อะไรนะ ยิ่งเรียนสูงขึ้นนักเรียนก็ยิ่งหดหายงั้นเหรอ???? แต่.นี่ยัยมัจฉา คนที่ขาดเรียนวันนี้เป็นผู้หญิงใช่ป่าวอ่ะ?? ฉันหันขวับไปหาเขา
ใครบอก!!!! พอฉันพูดแบบนี้ตานั่นถึงกับซึมกะทือฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียนทันที
ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันจนได้ ฮือๆๆๆ อะไรของมันฟะ.งงเฟ้ย!!!!!
จบคาบแรกพวกนักเรียนก็ต่างกรูกันออกจากจากห้องแบบรวดเร็วชนิดสายฟ้าแล่บ หนึ่งในนั้นก็มีฉันด้วยค่ะที่เตรียมวิ่งแบบสุดใจขาดดิ้น แต่อีตานั่นสิคะนั่งบื้ออยู่ด้าย..ไม่รู้อะไรซะเลย!!!
นี่นายปราชญ์ไม่ใช่เวลามามัวลอกเลคเชอร์อยู่นะ รีบเข้าดิ๊ เดี๋ยวไม่ทันกินหรอกพ่อคู๊ณ!!!!ฉันไล่กวดเขายิกๆๆก่อนพวกเราจะวิ่งหน้าตั้งไปทางโรงอาหารแบบจรวดยังเรียกพี่.
ว้าวววว!!!!!! ดีจังเลย ไม่ยักรู้นะว่าโรงเรียนภาคค่ำมีบริการอาหารฟรีให้กินด้วยแฮะ สุดยอดไปเล้ย~!!!!~ตาหล่อปราชญ์มัวแต่ชื่นชมอาหารตรงหน้า ในขณะที่ฉันทานอาหารเหล่านั้นเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนลิงไปแล้วค่ะ
เฮ้ย!!!กินเสร็จไวจัง นี่เธอเฮ้ยไปไหนอ่ะมันมัวแต่ครวญครางไม่เป็นภาษาคนในความไวของคนที่นี่ค่ะเพราะแต่ละคนที่ทานเสร็จก็รีบแยกย้ายออกไปอย่างรวดเร็วจนเหลือแค่..ตานั่นคนเดียว.
ว้ากกก.คนไรกินเร็วชะมัดเลย รอด้วยๆว่าแล้วก็โกยสิคะ ตานั่นรีบยัดเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตายไม่สนใจรสชาติด้วยซ้ำ
กินเร็วๆล่ะเหลือเวลาแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้นนะ รีบๆกลืนเข้าไปเลย เขาเริ่มเรียนชั่วโมงสองกันแล้วตาทึ่ม!!ฉันดึงคอเสื้อเขาแล้วลากๆๆไปจนถึงห้องเรียนจนได้ ในปากเขายังเต็มไปด้วยข้าวอยู่เลย เวร!!!คนอะไร้กินข้าวช้ายิ่งกว่าคุณชายอีกแน่ะ
ชั่วโมงเรียนที่สองวิชาภาษาอังกฤษ
อาจารย์แดเนียลเป็นคนสอนค่า..กรี้ดดดดๆๆๆ
ดูผมยาวสยายสีบรอนซ์นั่นสิ ดวงตาสีฟ้าบาดใจทรงเสน่ห์มันทำให้ฉันหลอมละลายเวลาอาจารย์มองมา..รู้บ้างไหมค๊าา.เคลิ้ม.
เอาล่ะ คำตรงกันข้ามของคำว่า wife คือคำว่าอะไรครับ? อาจารย์แดเนียลถามขึ้นมาจากเนื้อหาที่เรียนเมื่อกี้
ตาพงษ์ศักดิ์กับตาโชติเถียงกันไม่ลดละว่าคำตอบคือคำว่า darling งี่เง่าสิ้นดี!!!
ครูขามาเฟียพงษ์กับมาเฟียโชติเขาบอกว่า darlingค่ะครู ถูกมั้ยค๊ายัยรัศมีชิงคำตอบมาตอบเฉยเลย
เอางี้..ให้นักเรียนใหม่ตอบก็แล้วกันนะ นายชื่ออะไรนะ? อาจารย์แดเนียลพยายามสะกดชื่อนายหล่อออกมาทีละตัวแต่ไม่เป็นผล นายนั่นเลยตะโกนชือตัวเองออกไปดังๆให้ครูได้ยิน
นักปราชญ์ครับครู เรียกปราชญ์เฉยๆก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจแหะๆ ฉันมองหน้านายปราชญ์แบบเอาเรื่องแวบนึงก่อนสั่งสอนเขาให้รู้จักมารยาทกับผู้ใหญ่ซะบ้าง
ตาบ้า นายพูดงี้ได้ไงห๊าครูเขาเป็นผู้อาวุโสกว่าเรานะ นายสิต้องเกรงใจเขา อย่าเห็นว่าเขาเป็นฝรั่งแล้วจะไปล้อเขาได้นะไม่มีมารยาทเลยนายนี่ ฉันสะบัดหน้าพรืดก่อนมองไปทางอาจารย์แดเนียลแบบฝันๆ
โอเคๆมิสเตอร์นักปราชญ์ ตอบครูหน่อยครับ อาจารย์เรียกชื่อเขาแบบไม่ชัดเท่าไหร่นัก
ดะ..แดดดี้ ครับครู คำตอบคือ แดดดี้ ครับนักปราชญ์ตอบแบบฉาดฉานก่อนครูแดเนียลตวาดกลับเสียงดังว่า
NO!!!!!!
อาจารย์ครับผมเผลอไปอ่ะ ขออีกทีนะตาเบื้อกนั่นอ้อนวอน
ไม่ต้องแล้วไหนมิสสุวรรณมัจฉาตอบหน่อยซิ
HUSBAND ค่ะครู ฉันตอบอย่างภาคภูมิเต็มที่ จนครูแดเนียลอมยิ้ม พร้อมกับขยี้หัวฉันเบาๆอย่างเอ็นดู ส่วนฉันน่ะเหรอคะก็เขินหน้าแดงเป็นตำลึงสุกไปเลยหมอนั่นจ้องมองฉันอย่างพินิจพิจารณา
อืมๆ ยัยมัจเธอนี่ก็ใช่ย่อยเลยน้านึกว่าจะท่าดีทีเหลวซะแล้ว หุหุ เก่งเหมือนกันนะเรา อะไรอ่ะอยู่ดีๆกชมเฉยเลย คนยิ่งเขินๆอยู่ สักพักยัยพิมพ์ หรือพิมพ์ชนกก็วิ่งกระหืดกระหอบมาที่ประตูห้องเรียนพร้อมเอ่ยปากขอโทษอาจารย์ที่มาสาย แต่นายนักปราชญ์กลับเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้พร้อมตะโกนเรียกชื่อยัยพิมพ์ซะลั่นห้อง.มันบ้าไปแล้วค่ะ!!
พิมพ์ครับจำผมได้รึเปล่า??ที่เราชนกันวันนั้นไง ผมปราชญ์ไงครับ ยัยพิมพ์มองๆแล้วก็ผงกหัวว่าจำได้ มันทำให้ตานั่นอมยิ้มค้างและดูเหมือนมันจะแนะนำตัวเองผิดเวลา ยัยพิมไม่ได้สนใจมันเลย หึหึ..
มิสพิมพ์ชนก หมู่นี้คุณมาสายเป็นประจำเลยนะ คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกล่ะ ครูแดเนียลตักเตือนยัยพิมพ์เสียงเครียด ส่วนยัยพิมพ์น่ะเหรอ ไม่มีการสำนึกซะล่ะ ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้สบายใจอยู่ได้
นี่พิมพ์เธอขืนมาสายบ่อยๆระวังโดนซ้ำชั้นอีกนะยะ ขอบอกฉันเตืนเจ้าหล่อนด้วยความหวังดีแต่ยัยนั่นกลับบอกว่ามีเหตุผล
ก็นาฬิกามันไม่ยอมปลุกอ้ะ ฉันอยากสายซะที่ไหนเล่า โห..เหตุผลข้างๆคูๆเนี่ยนะที่ทำให้เธอมาสายประจำ
ช่างเป็นกุลสตรีที่น่าชมเชยเจงๆ
ถ้างั้นผมรับอาสาปลุกให้เอามั้ยครับ นักปราชญ์ทำท่ากระตือรือร้นสุดฤทธิ์ จนฉันหมั่นไส้
เหอะทำมาเป็นพูดดี ตัวเองก็ยังจะเอาตัวไม่รอดเลย แล้วที่ตื่นทุกวันเนี่ยใครปลุกห๊า!!!! ว่าแล้วก็เหยียบเท้าพ่อคุณแบบเน้นๆจะได้สร่างเมาความงามซะที แหมเล่นหูเล่นตาให้ผู้หญิงสวยข้ามหัวฉันเลยนะ!!! หุหุ พอดีฉันนั่งตรงกลางระหว่างพิมพ์กับตานั่นน่ะค่ะ
อ้าวคุณ..นั่นเอง พิมพ์ชนกทักนักปราชญ์จนฉันงง
รู้จักกันด้วยเหรอสองคนนี้
เมื่อวานเธอลืมปิ่นโตใช่มั้ยยัยมัจ
เออ..ใช่ก็เธอเอามาให้ฉันนี่นาเกี่ยวไรกับตานี่ด้วยล่ะ
อ๋อ..หรือว่า..นายนี่ฝากพิมพ์มาให้ .อ๋อเริ่มเข้าใจแล้วล่ะที่ตานี่มาเรียนต้องเป็นเพราะยัยพิมพ์แน่ๆเลย
หึหึแผนสูงนักนะ
นี่พวกเธอ!!!!ครูแดเนียลเรียกสติพวกเราคืนมาก่อนบรรจงหวดไม้เรียวบนหน้าผากเราสามคนอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เวลาเรียนนะ ไม่ใช่เวลาคุยเล่น ตั้งใจได้แล้ว อย่าพูดมาก อีตาหล่อได้ทีโวยใส่ฉันอีกแล้วค่ะ น่าเบื่อจริง
เพราะเธอแหละฉันเลยโดนดุไปด้วยเลย โอยเจ็บวุ้ย!!!เขาเอามือคลำหน้าผากตัวเองไปมา
วะมาโทษฉันคนเดียวได้ไง ดีล่ะสมน้ำหน้า สงสัยครูแดเนียลจะไม่ชอบนายนะถึงลงแรงไม้หนักไปทางนายน่ะ เชอะ!!! คนบ้าไรไม่รู้ชอบโทษผู้หญิง น่าเกลียดซะไม่มี
เอาละวันนี้พอแค่นี้แหละ..เลิกเรียนได้
ครูแดเนียลคะฉันยกมือเรียกเพราะคาใจบทเรียนบางข้อ หนูมีคำถามอยากถามค่ะ กริยาตัวนี้..เอ่อ
และทุกอย่างระหว่างที่ฉันอยู่กับอาจารย์นั้นก็อยู่ในสายตายัยพิมพ์ตลอด
เอ่อ..เธอชื่อพิมพ์ชนกที่แปลว่า ดวงใจของพ่อเหรอ?นายหล่อมาก่อร้อก้อติกกับยัยพิมพ์อีกแล้วสงสัยๆมันต้องคิดจีบยัยนี่แน่ๆ
เปล่าหรอกจะชมว่าเพราะดีน่ะ บังเอิญจังน้าเราได้อยู่ห้องเดียวกันด้วย เออ..แล้วตอนกลางวันพิมพ์ทำงานอะไรล่ะถามหน่อยดิ พิมพ์ชนกหันมายิ้มหวานบาดใจก่อนตอบเป็นบุญหูนายตัวดี
ฉันทำงานตอนกลางคืนน่ะ ที่เดียวกับพี่รัศมีแหละ ว่างๆก็ไปเที่ยวมั่งสิ ระยะนี้แขกเพียบเลยล่ะ
โอ้ววไม่นะ สาวสวยน่ารักอย่างคุณพิมพ์ทำไมถึงเอ่อ..คือ แน่นอนครับ ผมไปแน่แล้วหมอนั่นก็ซึมไปเลยค่ะท่านผู้ชม
นี่ยัยมัจพอได้แล้วน่า รบกวนครูเค้าอยู่ได้ อย่าขี้สงสัยปหน่อยเลย ไปเหอะไปห้องน้ำกันดีกว่านะ พิมพ์ชนกมาลากฉันไปจากครูแดเนียลสุดเลิฟซะดื้อๆ ครูขา..พรุ่งนี้เจอกันนะ
ถ้ามีอะไรสงสัยไม่เข้าใจก็ถามได้ตลอดนะครูแดเนียลพูดก่อนหันหลังจากไปจากห้องเรียน
นายนักปราชญ์จ้องมองฉันกับยัยพิมพ์ก่อนเดินตามมาเงียบๆ..พวกผู้หญิงนี่แปลกชอบชวนกันไปห้องน้ำ..ไปมั่ดีก่าเรา ในขณะที่ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงเรียบร้อยพลางเอาผ้าเช็ดมือให้แห้ง นายปราชญ์ก็มาทัก
เอ๋.เสร็จแล้วเหรอ เร็วจัง
แค่ล้างมือย่ะ ทำไมต้องนานเป็นวันๆด้วยเล่า
แล้วพิมพ์ล่ะ ทำไมไม่ออกมาด้วยกัน
อยู่ข้างในแน่ะ ตามสบายนะ ฉันเริ่มเซ็งกับท่าทีของหมอนั่นที่มีต่อยัยพิมพ์ค่ะ
เหรอ ฉันเข้าไปฉี่ก่อนนะ สักพักก็ได้ยินเสียงมันร้องจ๊ากกกกเหมือนเจออะไรที่น่ากลัว
อะไรกันเนี่ย.ม่ายยยยจริงงงงงง..พิมพ์ยืนฉี่ที่โถได้ไงอ้ะ.ว้ากกกกกก..
มีไรเหรอตะโกนซะดังเชียว ยัยพิมพ์ชนกน่ะเหรอคะ ก็เหมือนเดิมหน้าตาย ไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอกค่ะยัยนี่ แต่ตารูปหล่อนั่นตอนนี้มันตัวแข็งเป็นก้อนหินไปเรียบร้อยแล้ว..
ในห้องเรียนก็ต่างวิพากษ์วิจารณ์อาการหมอนั่นกันไปร้อยแปด แต่ที่โดนใจฉันคือเสียงของสองจอมโหด เขาวิเคราะห์ข่าวค่ะว่า สงสัยอีตาเบื้อกปราชญ์คงเจอของดีอะไรในห้องน้ำเข้า เลยกลายเป็นแบบนี้ ฮ่าๆๆๆๆ
ถุ..ถุ..ถูกต้องนะค๊าาา..
..
นี่พิมพ์ ฉันว่าเธอเลิกแต่งตัวเป็นผู้หญิงเหอะ ฉันลองขอร้องดูเผื่อยัยนี่จะมีสำนึกบ้างไม่งั้นคงเกิดเหตุแบบเมื่อวานอีกแน่ๆ
เอ๊ะ..ทำไมล่ะ คนที่ตัดสินคนอื่นจากภายนอกเท่านั้นสิถึงผิด พิมพ์ชนกเชิดหน้าสวยของหล่อนลอยไปลอยมา มันช่างเป็นภาพที่บาดใจชายหนุ่มอย่างนักปราชญ์นักเพราะเขารู้แล้วว่าความสวยนี้ที่แท้จริงมันก็ไม่จีรัง!!!!!
ไม่จริงใช่มั้ยบอกฉันสิว่ามันเป็นแค่ฝันร้ายยยยยยย..ย้ากกกกส์ๆๆเสียงตัดพ้อแเถื่อนๆของเขาดังไปทั่วห้อง ช่างเป็นการเรียกร้องความสนใจจากสาวสวยอย่างพิมพ์ชนกได้แย่มาก ฉันเห็นเขาหน้าซีดลงเรื่อยๆจึงถามอาการเสียหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าไม่เห็นใจกันอีก
เป็นไรมากหรือเปล่า?? หน้าซีดๆ เขาเหม่อมองหน้าฉันก่อนเรียกชื่อฉันเบาๆ
ที่นี่ที่ไหน ฉันมาทำอะไรที่นี่อ้ะ เขาเหลือบไปเห็นยัยพิมพ์แล้วค่ะ ถึงกับกระโจนเข้าใส่ทีเดียว เฮ้อกลุ้ม เมื่อไหร่นายจะทำใจได้ซักทีฟะ
พิมพ์คร้าบบบบ..พิมพ์ของผม อีตาหล่อยังไม่เลิกหลงงมงายในความงามแบบลวงๆค่ะ ยังคงเดินหน้าต่อด้วยการคุกเข่ากอดแข้งกอดขายัยพิมพ์อย่างไม่อายเพื่อนๆในห้องที่มองมันเป็นตาเดียว
ผมฝันร้ายยยย..จริงๆใช่มั้ยครับคุณพิมพ์ คุณจะเป็ผู้ชายได้ไงอ้ะ ม่ายยยยยจริงงงงงงง.
หมอนั่นสงสัยจะทำใจลำบากว่ะ สองโหดเอ่ยขึ้นมาลอยๆ ก่อนที่พิมพ์ชนกจะเหลืออดขึ้นมาจนถีบนายหล่อกระเด็นไปทางหลังห้องด้วยพลังอันมหาศาลสม!!!
พึ่บบบ!!!!
ก่อนที่ทุกคนจะตั้งตัวได้ทันยัยพิมพ์ก็เกิดลูกบ้าเที่ยวล่าสุด เปิดกระโปรงที่สั้นกุดจุ๊ด^_^ของตัวเองขึ้นมาดโชว์ตานักปราชญ์ซะเลย ฮ่าๆๆๆเป็นไงล่ะเพื่อนฉันเจ๋งมะ
ดูซะให้เต็มตา ฉันเป็นผู้ชายของแท้และแน่นอน เพราะฉะนั้นย่อมแต่งงานกับมัจฉาน้อยคนนี้ได้ จริงมั้ยจ้ะที่รัก..
ยัยพิมพ์โอบไหล่ฉันไว้หลวมๆก่อนถามคำถามน่าขนลุกนั่นพร้อมกับทำตาหวานเยิ้มอีก
เอ่อ..พิมพ์เธอคง..ไม่. ไม่ทันขาดคำฉันก็ได้ยินเสียงอ้วกของสองโหดแว่วมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงเรียกแบบแสบแก้วหูมากๆของยัยพิมพ์ตัวแสบ
เรียกทำไมยะ?ฉันเหล่มองเจ้าหล่อนพล่ามนิดหนึ่ง
ฉันไม่อยากทนสภาพแบบนี้อีกแล้วล่ะ ยัยมัจ ก่อนที่จะตั้งตัวทันยัยนั่นก็จับข้อมือฉันแล้วกดลงไปบนโต๊ะ..กรี้ดๆๆจะทำอะไรฉันน่ะยัยบ้า อย่านะอย่าช้าเฮ้ย..ไม่ใช่
จะบ้าเหรอยัยพิมพ์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันอายคน!!!ปล่อยเซ่
ขอร้องล่ะเป็นของกันและกันซะตอนนี้เลยนะมัจฉาน้อยของพิมพ์
ม่ายยยยยยย ฉันไม่ได้ชอบนายนะยะยัยพิมพ์บ้าาาา ปล่อยเซ่
ก็เราเคยสัญญากันไม่ใช่เหรอมัจ เธอยินดีจะรับฉันเป็นเจ้าสาวแล้วนี่นา
นั่นมันเรื่องสมัยเด็ก ใครเค้าจะเอามาเป็นเรื่องจริงเล่า!!!
ไม่สิ สัญญาต้องเป็นสัญญา เสียงสองโหดมันเชียร์อีกแล้วว่าให้ยัยพิมพ์..เอาเลยๆๆทุเรศที่สุด
ม่ายยยยยนะ ฉันไม่ชอบลักเพศ ฉันเหลือบไปเห็นตารูปหล่อนั่งอ้าปากค้างอยู่ใกล้ๆ เฮ้อ..มันหลงรักคนผิดแท้ๆ
ไม่มีทางหรอก!!!!!ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว!!!!!คำพูดนี้ต่างทำให้ทุกคนตะลึงงัน โดยเฉพาะยัยพิมพ์ชนก
เอ่อ..ใครมันเป็นใครกานนนนพิมพ์ชนกตะโกนลั่นที่มีคนตัดหน้ามาชิงหัวใจฉันไปก่อน
อาจารย์ฉันชอบอาจารย์แดเนียลลลลล ได้ยินมั้ย???? เอ่ออาจารย์เดินมาเมื่อไหร่เนี่ย?
.. ได้ยินหรือเปล่านะ.หน้าฉันซีดและหดไม่ถึงสองนิ้ว เมื่อเห็นเขาเข้ามาในห้องเรียนด้วยสีหน้าเฉยเมยสุดๆ
10 สิงหาคม 2548 02:09 น.
กันตะปัณณ์
ตอนที่หนึ่งเขาเป็นใครกันนะ
แหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องนภาสิดวงดาวยามราตรี ส่องแสงระยิบระยับเต็มฟ้ากว้าง
เปล่งประกายแห่งความสุข ความสมหวัง เพียงจับมือฉันไว้ แล้วไล่ตามความฝันให้ทัน
เพียงแค่เรามีเรา ความโศกเศร้าก็มิอาจมาเยี่ยมเยือน
..เพลงนี้เป็นเพลงที่พ่อของฉันร้องให้ฟังเสมอ..
ณ สยามเซ็นเตอร์พ้อยท์แห่งเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก
ข้าพเจ้ามีนามว่านางสาวสุวรรณมัจฉา เกียรติสุกรณ์ =.=
ไอ้ชื่อนี่ไม่เท่าไหร่ แต่นามสกุลนี่ดิ สะเทือนใจมากๆ เพราะพ่อสุดที่ร้ากกกของฉันขายสุกรปิ้ง
ว่าง่ายๆก็คือหมูปิ้งอ่ะแหละค่ะ นามสกุลฉันเลยต้องมีอันพัวพันกับเจ้าหมูอ้วนๆเนี่ยทั้งชาติ
อ้ะ ลูกค้ามาละ เชิญชิมหมูปิ้งร้อนๆอร่อยๆของร้านเราเลยค่าข้าวเหนียวร้อนๆก็มีนะค๊า
ขยันจังนะหนูมัจ คุณลุงข้างบ้านนั่นเอง แวะมาอุดหนุนทุกวัน ดีจัง
เชิญค่า รับกี่ไม้ดีคะลุงพรต เอาข้าวเหนียวด้วยนะ หนูแถมให้พิเศษเลยเอ้า
เฮ้ย..ของซื้อของขาย ลุงพรตเอ่ยแบบเกรงใจสุดฤทธิ์แต่พ่อกลับคะยั้นคะยอให้รับให้ได้
จนลุงแกก็อ่อนใจรับไปจนได้
หนูมัจขยันดีนะ น่าชมเชยจริงๆ เป็นเด็กสมัยใหม่ที่ไม่ใส่ใจยาเสพติด เอ้อดีๆ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับยาเสพติดกันละลุงเฮ้อ!!
เออ..อากาศวันนีมันดีจริงแฮะ หนูมัจไม่ไปเดินเล่นชมวิวกับแฟนบ้างเหรอ จะได้เปิดหูเปิดตาไง
ปัง!!!!!!!!!เสียงตบแผงหมูปิ้งดังสนั่นสั่นสะท้านถึงจิตใจ ว๋ายแทงใจดำพ่อเราแหงมๆ
เอ่อ..อ่า ลุงพรตละก็ล้อเล่นเรื่อยเลยอ่ะ ฮึ้ยบรรยากาศชักวังเวงแอบแว๊บไปดีก่าเรา
จะไปไหนแม่มัจฉาน้อยของพ่อ คิดจะชิ่งอีกเรอะเรา ตอบพ่อมาซะดีๆว่าหนูแอบไปมีฟงมีแฟนตั้งกะเมื่อไหร่ห๊า!
เอาแล้วไหมล่ะพ่อชั้นได้ยินคำว่แฟนทีไรเป็นหูผึ่งทุกที อย่างงี้ใครจะมากล้าขอหนูแต่งงานล่ะเนี่ย ฮือๆๆๆ
เปล่านะพ่อ ไม่มีซักกะหน่อยอ้ะ ลุงเค้าล้อเล่นตะหากเล่า เอ้อ.. พ่อมองดวงตาอันใสซื่อบริสุทธิ์ของฉันก็ยอมเชื่อโดยดีว่าไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ เลยไล่ฉันไปทิ้งขยะก่อนที่เทศบาลจะมาเก็บ แต่ก่อนไปฉันได้ยินอะไรแว่วๆ
ประมาณว่า
ถ้าใครเข้าใกล้ฉันเกินสามเมตรพ่อจะตะบันหน้ามันคนนั้นให้แหลกคมือเลยทีเดียว กึ๋ยส์ยิ่งคิดยิ่งเห็นไม้คานลอยมาแต่ไกล สงสัยงานนี้เราคงอยู่เป็นโสดไปจนตายแน่ๆ โฮ.ม่ายยยยยยยนะ ฉันไม่อยากเป็นโสดดดดด
ฮึ่มๆๆๆ ฉันเดินแบกขยะถุงเบ้อเริ่มพลางก็คิดว่าถ้าพ่อยังโหดอยู่อย่างนี้ จ้างให้หนุ่มหน้าไหนก็ไม่กล้าเข้าใกล้ฉันหรอก แถมวันนี้อากาศก็ดีอย่างที่ลุงพรตว่าจริงๆซะด้วย เฮ้อ..ถ้ามีแฟนนะ ป่านนี้เราคงได้เที่ยวสนุกไปแล้วไม่ต้องมาแกร่วอยู่กับการขายของให้มอมแมมอย่างนี้หรอก โว้ยย!!!!!!!
ไม่มีผู้ชายดีดี ตกหล่นอยู่แถวนี้บ้างหรือไงฟะ!!! ฉันตะโกนอย่างเหลืออด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนร้อง..แว่วๆ
โอ๊ย!!!เจ็บบบบ ต๊าย.ผู้ชายตกอยู่จริงๆด้วย โอสวรรค์ส่งเขามาให้เราแล้ว
ขะ ขอโทษ ไม่คิดว่าจะมีคนนอนอยู่ข้างกองขยะแบบนี้ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ? โอ้..หน้าตาดีซะด้วยแฮะ
แต่ทำไมไม่ขยับตัวเลยล่ะ เฮ้..
คุณๆๆเป็นอะไรเหรอ นี่..อย่าเพิ่งตายนะ ทำใจดีๆไว้ก่อนนะ ฉันเห็นเขาขยับปากแล้วค่ะ แล้วพูดว่า.
หะหิวข้าวววว
อ้าว!?! เป็นงงเลยค่ะทีนี้ คนบ้าอะไรฟะหิวข้าวจนล้มตึงข้างกองขยะแบบนี้ หน้าตาก็ดีหรอกแต่ทำไม ฮึ้ย..ช่างเหอะๆ อภัยให้ๆนี่ถ้าไม่หล่อจะไม่สนเลยล่ะ หุหุ ชั่วร้ายจริงๆ เป็นนางเอกนะยะต้องมีเมตตาดิ้ เออ..ช่วยก็ช่วยวะ
อ่ะ ลุกสิ จะพาไปหาของอร่อยที่สุดในเมืองนี้เลยนะ อยากกินอ้ะเปล่า? เจ้าหนุ่มนั่นผงกหัวขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ดู๊ดูท่าทางจะหิวจัดสิยะ มามะจะพาไปเชือด เฮ้ยไม่ใช่ ไปกิน แล้วฉันก็พยุงเขามาถึงหน้าสถานีรถไฟตรงหน้าร้านของพ่อไม่พูดพล่ามทำเพลงใดๆ เขาจัดการกับหมูปิ้งร้อนๆบนเตาย่างจนเรียบวุธภายในเวลาห้านาทีเท่านั้น
โอ้ว..อะไรจะขนาดนั้น แถมข้าวเหนียวในถังหมดไปครึ่งถังเห็นจะได้ น่าจะพาหมอนี่ไปลงแข่งกินจุมาราธอนที่รายการทีวีแชมเปี้ยนให้รู้แล้วรู้แรดไปเลยนะเนี่ย กินแบบยัดทะนานจริงๆ ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน หุหุ
จะว่าไปเมืองเราก็อุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าวไม่น่าจะมีคนอดโซจนพับไปแบบนายเลยนะ เวรกรรมจริงจริ๊ง พ่อพูดพลางยื่นข้าวเหนียวให้เขาอีกจานพร้อมหมูปิ้งอีกสี่ห้าไม้ ฉันไดีทีเลยแกล้งถามเขา
อร่อยป่าว? เขาเงยหน้าตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส
อร่อย เวลาหิวกินไรก็อร่อยทั้งนั้นแหละครับ มันเป็นคำตอบที่ทำให้ฉันหน้าบูดเลยทีเดียว ฉันเลยชักจานในมือเขามาเสียเลย เขายิ้มประจบก่อนตอบว่า
แต่หมูปิ้งเจ้านี้อร่อยเด็ดกว่าที่ไหนในโลกเลยครับ ข้าวเหนียวก็นุ๊มนุ่มหอมอร่อย ฉันยิ้มพึงใจก่อนส่งจานให้นายรูปหล่อนั่นกินทันที
งั้นก็กินเข้าไปเยอะๆล่ะ ยังมีอีกเพียบ ภายในเวลาครึ่งชัวโมงนายรูปหล่อซัดข้าวเหนียวหมูปิ้งเกลี้ยงแผง
ช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างแรง สมควรเอาไปลงกินเนสท์บุ๊คเวิรลด์ออฟเร็คคอร์ดจริงๆ
กินเข้าไปได้ไงอ่ะคนเดียวฉันบ่นพึมพัมพร้อมถือเครื่องคิดเลขมาจิ้มราคาของที่นายตัวดีกินเข้าไปทั้งหมด
อือทั้งหมดห้าสิบไม้ ไม้ละห้าบาท รวมเป็นสองร้อยห้าสิบบาท ข้าวเหนียวถุงละห้าบาทนายกินไปซะครึ่งถัง
ก็คงราวๆสามสิบถุงละเนอะ ก็รวมเป็นสี่ร้อยพอดิบพอดี อ้อ..ค่าน้ำเปล่าด้วยบาทนึง เอามาฉันแบบมือไปรับตังค์ที่คาดว่าจะได้รับแต่นายรูปหล่อกลับยื่นมืออันนุ่มนิ่มมาโปะลงบนมือฉันแทนและในมือนั้นมีเพียงความว่างเปล่า ไม่มีตังค์แม้แต่บาทเดียว
มือไม่เอาย่ะ จะเอาเงินเฟ้ย เอามา!!! เขาส่ายหน้าเป็นสัญญาณว่าสิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ หนทางที่เหลือคือล้างจานใช้หนี้ เฮ้ย..ร้านนี้ไม่ใช้จานจะมีจานให้ล้างได้ไง ไม่มีก็ทำงานอื่นเด๊สรุปนายนั่นต้องทำงานใช้หนี้ที่กินไว้เพียบ ด้วยการ เรียกลูกค้าให้ร้านเราและทำทุกอย่างที่พ่อสั่ง
เชิญเลยคร้าบบบหมูปิ้งร้อนๆ ข้าวเหนียวนุ่มลิ้น กินแล้วจะติดใจคร้าบบบบบ อร่อยที่สุดในภาคใต้เลยนะครับ อื้ม อร๊อย อร่อย ดูผมกินสิครับ อร่อยอย่าบอกใครเชียว นายรูปหล่อพยายามเรียกความสนใจจากบรรดาคนเดินจับจ่ายทั้งหลาย แล้วมันก็ได้ผล โดยเฉพาะผู้หญิงที่กรูกันมาซื้อเพราะความหน้าตาดีของหมอนั่น
ฉันเอาสามไม้ข้าวเหนียวสามห่อนะ ว๊ายอย่าเบียดสิเธอ ชั้นมาก่อนนะยะ ลูกค้าสาวๆทั้งหลายต่างพากันมาชมโฉมอีตาเบื้อกนั่นเต็มไปหมดจนตาลาย เป็นอันว่าวันนี้หมอนั่นได้ความดีความชอบไปเต็มๆเลย เชอะ..อิจฉาเล็กๆ จนฉันต้องเมินหน้าหนีไปทางอื่น
หนูมัจไปเตรียมตัวได้แล้วลูก เดี๋ยวไม่ทันนะ ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีเรียนภาคค่ำ แว้ก..ไม่ทันแล้วววว
ส่วนอีตาหล่อนั่นยืนเรียกลูกค้าเหย็งๆไม่ยอมหยุดเลย ขยันจริงนะยะ
ลูกพี่ไม่แวะหน่อยหรือครับเจ้าหนุ่มเชื้อเชิญพลางยิ้มกว้าง พ่อเลยเขกกบาลเขาดังโป๊ก
โอ๊ย..ทำผมทำไมครับ ว่าแล้วก็คลำหัวตัวเองป้อยๆ
ก็เอ็งไปเรียกลูกค้าแบบนั้นใช้ได้ที่ไหน ร้านข้าไม่ใช่อะโกโก้นะเฟ้ยลูกพี่ๆ เชอะ!!! พ่อค้อนตานั่นก่อนลงมือเก็บแผงขายของพลางๆ
มองอะไรวะไอ้หนุ่ม
เปล่าครับคือดูท่าลุงชำนาญจัง ตอนเล็กๆผมก็ฝันอยากขายข้าวเหนียวหมูปิ้งเหมือนกันน้า พ่อมองหน้าเขาก่อนหัวเราะก๊าก
เด็กบ้าอะไรฟะจะฝันพิลึกๆอย่างเอ็ง บ้าว่ะ พ่อยังขำน้ำหูน้ำตาไหลก่อนนึกได้ว่าฟอร์มหลุด ก็หันมาเก๊กเสียงเข้มแทน
ไม่ต้องมาพูดเฉไฉไร้สาระเลยนะ ถ้าเอ็งขายไม่ได้ในส่วนที่กินเข้าไป อย่าหวังว่าจะได้กลับบ้านเลย ฮึ่มๆ
เจ้าหนุ่มนั่นหันมามองพ่ออย่างดีใจออกนอกหน้า
ก็ดีน่ะสิครับ ผมก็ไม่อยากกลับอยู่แล้ว อิอิ หมอนั่นมองหน้าพ่อแวบนึงก่อนพรั่งพรูความในใจออกมาอย่างหมดเปลือก
คือ..ที่จริงผม ผมทำงานเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์มาก่อนครับแต่ตื่นสายประจำก็เลยโดนไล่ออกจากงานมาอ่ะครับลุง เขาพูดอย่างเขินๆก่อนเอามือจับหัวตัวเองแก้เก้อ น่ารักดีจังแฮะ
งั้นก็กลับบ้านไปซะสิ พ่อแม่ก็มีไม่ใช่เหรอ พ่อพูดแทงใจดำเขาดังจึ้ก ก่อนที่หมอนั่นทำหน้าสลดแล้วตอบว่า
พ่อแม่ผมตายตั้งแต่ผมยังเด็กมาก เพราะประสบอุบัติเหตุผมจึงต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอด แต่ก็ยังดีครับที่ญาติๆยังไม่ทิ้งผมซะทีเดียว จกนั้นผมก็วนไปอยู่กับญาติบ้างตามประสาคนพเนจร.เอ่อ..ลุง
พ่อทำหน้าแหยก่อนน้ำตาจะซึมออกมาและไหลพราก
พอๆพอแล้วฉันไม่อยากฟังเรื่องรันทดแบบนี้มันแซดหัวจายย ฮึกๆฮือๆ.ฟืด เจ้ารูปหล่อเห็นพ่อมีปฏิกิริยากับเรื่องที่ตัวเองเล่าก็ไถ่ถามว่าเป็นอะไรมากไหมแต่พ่อรึจะยอมรับโดยดีได้แต่ไล่ให้เจ้าหนุ่มไปเก็บร้านรวงเสียให้เสร็จ ก็พอดีกับที่ฉันแต่งตัวเสร็จจากบ้านมาถึงแผงอีกครั้งหนึ่งด้วยความมึนงงที่เห็นพ่อร้องไห้กระซิกๆ
พ่อเป็นไรไปอ่ะน้ำตาคลอเบ้าซะขนาดเลยอ่ะ
เปล่าเว้ย..ไม่มีไรซักหน่อย นี่เจ้ารูปหล่อไปทำหน้าที่รับส่งยัยหนูมัจฉาน้อยของลุงให้หน่อยสิ พ่อเอามือปาดน้ำตาแรงๆสองสามทีก่อนยิ้มแต้
หา..!!!! อะไรนะพ่อ อีตานี่น่ะเหรอ เพิ่งเจอกันวันเดียวไปไว้ใจมันได้ไงอ่ะโด่เกิดมันทำไรหนูกลางทางจะว่าไงเล่า..พ่อคิดเซ่คิด ฉันหน้าเบ้ก่อนหันไปมองอีตานั่นที่เก็บของไม่รู้ไม่ชี้อยู่ได้ น่าหมั่นไส้ที่สุด
ไม่เคยรู้นิสัยใจคอจะไว้ใจได้ไงเล่าพ่อ!!!! พ่ออ้ะ หน้าฉันบูดมากขึ้นเรื่อยๆก่อนที่พ่อจะเอามือแข็งแรงมาตบไหล่ฉันอย่างไว้วางใจสุดขีด
เอาน่าหน้าอย่างลูกพ่อไม่มีใครกล้าทำอะไรได้ลงอยู่แล้วละน่า ฮ่าๆๆๆๆ
กรี้ดดดดดดพ่อ ทำไมถึงพูดดูถูกลูกตัวเองต่อหน้าชายหนุ่มเยี่ยงนี้ รับไม่ด้ายยยย
ไปเหอะน่าวันนี้พ่อมีธุระที่สมาคมหมูปิ้งแห่งประเทศไทยสาขาภาคใต้
สมาคมหมูปิ้งหรือสมาคมคมวงไพ่กันแน่ห๊า..คุณพ่อจอมยุ่ง เฮ้อ..งี้ทุกทีเลยอ่ะ
รีบไปเถอะเดี๋ยวไปเรียนไม่ทันนะอีหนูเอ๋ย..
จ้าพ่อ ไปละนะ สวัสดีค่าขอตังค์กินหนมด้วย ฉันรับตังค์เสร็จก็รีบมุ่งหน้าไปทางโรงเรียนศฏษโซฏฆศษซฏฆโซศฏโฆซฏฆ็
ภาคค่ำสุดที่รักทันที อีตารูปหล่อก็รีบกวดฝีเท้าตามจนเหนื่อยอ่อนก่อนที่ฉันจะนึกอะไรบางอย่างออก จึงลดฝีเท้าลงเพื่อคุยกับเขา
ไม่รู้ว่าพ่อเป็นอัลไซเมอร์รึเปล่า? ก็ไหนเมื่อกี้เพิ่งโวยวายว่าใครเข้าใกล้ฉันเกินสามเมตรพ่อจะตะบันหน้ามันคนนั้นให้แหลกคมือเลยทีเดียวยังไงเล่า โธ่..ที่แท้ก็ไม่หวงลูกสาวคนนี้เลยซักนิด น้อยใจๆ
บ่นอะไรคนเดียวอ่ะคุณมัจฉาน้อย เออ..คุณชื่อสุวรรณมัจฉาจริงๆเหรอ ที่แปลว่าปลาทองอ่ะนะ โฮะๆแปลกดีจังเลย พ่อรูปหล่อกลั้นหัวเราะสุดฤทธิ์ก่อนที่ฉันจะเหยียบหัวแม่เท้าเขาเต็มเหนี่ยว
โอ๊ยเจ็บนะครับ แค่นี้ก็โกรธด้วย กำลังจะชมว่าน่ารักดีแท้ๆคุณนี่เจ้าอารมณ์จังแฮะ
เปล่าโกรธหรอกแต่มันหมั่นไส้ที่นายเข้ากับพ่อฉันได้เร็วขนาดนี้ เรื่องชื่ออ่ะเหรอทำไมคุณจะบอกว่าชื่อฉันแปลกอ่ะดิ๊ใช่ม้า ฉันเหล่มาทางเขานิดหนึ่งตอนเขาตอบว่าใช่ มันรู้สึกทะแม่งๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ เวรกรรมจริงๆ
ใครจะว่ายังไงฉันไม่สนหรอก ฉันพอใจชื่อนี้ ฉันชอบชื่อนี้ก็แล้วกันน่า ถึงจะแปลกอยูซักหน่อย แต่พอได้ยินเข้าครั้งนึง ก็จะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต จริงมะ ฉันหันมาขยิบตาแบบเก๋สุดๆให้เขา จนเขายิ้มออกมาได้นั่นล่ะถึงได้โอกาสถามชื่อเขาบ้าง
นายล่ะชื่ออะไร คุยกันมาป่านนี้แล้วยังไม่รู้ชื่อเลยอ่ะ
ผมชื่อนายนักปราชญ์ ขอรับคุณปลาทอง อิอิ แหม..มันแซวๆ
ชื่อนักปราชญ์ที่หมายถึงผู้มีความรู้งี้เหรอ เหอะ ..แต่ดูนายหน้าโง่ๆนะ กัดมั่งดิ๊ เหอๆ
แต่ปลาทองมันมีความจำแค่สามวิเท่านั้นนะครับ เพราะฉะนั้นคุณโง่กว่าผมล่ะ ฮ่าๆๆๆ ดูมัน..ฮึ่มๆฝากไว้ก่อนเหอะนายรูปหล่อ
ว่าแต่คุณเก่งนะทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำเลยแถมยังขยันเรียนอีกด้วย แหม..น่าชมเชยอ่ะ
นายชมคนอื่นเป็นเหมือนกันเหรอ เชอะ!!นึกว่ากัดเป็นอย่างเดียวเสียอีก ฉันสะบัดหน้าไปทางอื่นก่อนได้ยินเสียงหล่อนั้นชมชุดฉันแว่วๆ
น่ารักดีนะครับชุดนักเรียนภาคค่ำเหรอ ไม่เคยเห็นร้านไหนเขาแต่งแบบนี้เลยอ่ะ ส่วนใหญ่ก็พวกชุดชะเวิ้บชะว้าบกันทั้งนั้น แต่ก็ดีนะครับพวกตาเฒ่ามันชอบเด็กเอ๊าะๆฮ่าๆๆ
นี่นาย ฉันเหลือบตามองเขา เขากลับยื่นหน้ายื่นตามาใกล้ๆอีก
เรียกปราชญ์สิครับ ใจฉันเต้นตึ้กตั้กทำไมเนี่ย? ไม่ได้ต้องฟอร์มต้องฟอร์มแถมมันมาด่าฉันเสียหายว่าฉันเป็น.
เด็กสาวไร้เดียงสาแถมอายุเพิ่งจะสิบหกย่างสิบเจ็ดไม่เคยต้องมือชายมาก่อนด้วยซ้ำ จะมาว่าฉันไปทำงานบาร์บ้าบออะไรกันยะตาทึ่ม!!!!! ฉันแต่งชุดนี้เพื่อไปเรียนหนังสือย่ะจำไว้ด้วย!!!! เขาพิศมองชุดนักเรียนภาคค่ำของฉันอย่างละเอียด ก่อนวิจารณ์ว่ามันเหมือนเซเลอร์มูนไป ไม่เหมือนนักเรียนเอาซะเลย บ้าการ์ตูนมากไปรึเปล่าเนี่ยตาบ้าเอ๊ยชุดกะลาสีเรือธรรมดา ผูกผ้าลายจุดสีแดงเป็นโบว์แบบยุวกาชาด กะโปรงสีแดงจีบรอบ เพราะโรงเรียนของฉันเป็นโรงเรียนเอกชนแห่งเดียวในเมืองนี้เขาเลยออกแบบชุดตามกระแสแฟชั่นหน่อยๆแต่นายนั่นกลับบอกว่าเหมือน.เซเลอร์มูน เหอๆ ช่างมันเหอะ ว่าแต่
นายก็ยังเรียนม.ปลายไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่รู้ว่าโรงเรียนในเมืองนี้เขามีภาคค่ำกันตั้งนานแล้วแถมชุดยังน่ารักบาดใจสาวม.ปลายอย่างฉันอีกด้วย อิอิ
อ้อที่มาเรียนเพราะชุดอย่างเดียวเลยใช่มะ ไม่ใช่เพื่อความรู้ อืมๆเพิ่งรู้ว่าพวกปลาทองเนี่ยคิดกันแบบนี้เองจบคำฉันเลยซัดผั๊วะเข้ากลางหลังพ่อคุณป๊าบใหญ่จนเขาสะอึก ฮ่าๆๆสะใจ
แล้วนายล่ะโรงเรียนนายใส่ชุดเครื่องแบบแบบไหน คงเท่น่าดูเลยเนอะ
เปล่าหรอกฉันเลิกเรียนมาตั้งนานแล้ว ลาออกกลางคันน่ะ แหะๆเขาหัวเราะแห้งๆหน้าจ๋อยๆเมื่อพูดเรื่องเรียนหนังสือ
เหรอๆ ทำไมล่ะ?นี่รูรึเปล่าเพื่อนที่ห้องฉันก็มีแบบเธอเยอะเลยล่ะ แล้วไม่คิดจะไปเรียนอีกครั้งเหรอฉันเดินตามเขาที่เดินลิ่วๆไปข้างหน้า
ไม่ล่ะ ขอผ่านดีกว่านะ นายนักปราชญ์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
นี่ๆถ้าเรียนดีๆมีสิทธิ์สอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยนะ ถึงต้องใช้เวลาเรียนสี่ปีถึงจะจบแต่ก็เรียนสนุกไม่มีเบื่อเลยล่ะ
จะชวนไปเรียนด้วยล่ะสิเนี่ย
ก็ที่พูดๆนี่ไม่เรียกชวนแล้วจะให้เรียกว่าอะไรเล่า..เหอะน่า ไปเรียนด้วยกันนะสนุ้กสนุกแหละปราชญ์
เห็นจะไม่ล่ะ ขอบคุณที่ชวนนะ แต่ป่านนี้แล้ว..ผมไม่ชอบเรียนซะด้วย ผมเกลียดโรงเรียนเขาทำหน้าเศร้าอีกแล้ว ฉันเลยได้แต่พูดคำว่า ตามใจละกัน
จะบอกให้ว่าที่โรงเรียนฉันมีแต่คนอยากเรียนหนังสือจริงๆทั้งนั้นเลยนะขณะที่ฉันโอ่ถึงโรงเรียนด้วยความภาคภูมิ ตานักปราชญ์ก็โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
แล้วโรงเรียนเธอไม่มีผู้ชายดีๆบ้างเลยเหรอ???
ทำไมเหรอ???
เฮ้อ..ไม่มีผู้ชายดีดีตกหล่นอยู่แถวนี้บ้างเหรอไงน้า!!!! กึ๋ยตาบ้ากล้าล้อเลียนฉันเหรอ
ฉันเลยเหวี่ยงกระเป๋านักเรียนใส่หลังเขาไม่ยั้ง กรี้ดๆๆ
นาย..ดะ..ได้ยินด้วยเหรอ ตาบ้า!! เขาทำท่าครุ่นคิดก่อนหันมามองฉัน
อ้าว..เธอพูดแบบนี้จริงๆอ่ะเหรอ อุ๊บส์!!!ไม่น่าเลยเรา ตกหลุมพรางจนได้
ระวังเห๊อะ โบราณเขาว่าไว้เลือกนักมักได้แร่ แบร่ๆ โอ๊ย..คนผีทะเลยังมาล้อเค้าอีก ทนไม่ไหวแล้วเฟ้ย!!!
จะไปไหนก็รีบๆไสหัวไปเลยป่ะ ไม่อยากเสวนาด้วยแล้วคนบ้า!!!!ว่าพลางก็จ้ำพรวดไปโรงเรียนแบบไม่คิดชีวิตแต่อีตารูปหล่อก็ยังตื้อไม่เลิก จะตามมาทำไมฟะ!
อ่ะ..อย่าเพิ่งโกรธดิ ไม่ได้ตั้งใจยั่วโมโหเลยนะ แค่พลั้งปากไปนิดส์นึงเอง นะ..เดี๋ยวผมเดินไปส่งดีๆ จะไม่พูดจาไม่ดีอีกแล้ว ฉันหันขวับไปตวาดใส่หน้าเขาอย่างแรง
บอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้องสิ นักปราชญ์ชะงักกึกก่อนตื้อต่อ
แต่พ่อคุณ..สั่ง เสียงเขาเริ่มแผ่วปลาย
ฉันอยู่ม.ปลายแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ ดูแลตัวเองได้ ก่อนเลี้ยวเข้าห้องเรียน ฉันแว๊บมาตะโกนใส่เขาอีกที
กลับเองก็ได้ย่ะ ไม่ต้องมีใครมารับ แล้วฉันก็ผลุบหายไปในห้องเรียน เหลือก็แต่เจ้ารูปหล่อยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น ก่อนเหม่อมองอาคารเรียนหลังใหญ่อย่างเศร้าสร้อยแล้วเดินจากไปฉันลอบมองเขาทางหน้าต่างห้องเรียนแล้วรู้สึกแปลกๆในหัวใจแต่ไม่สามารถบอกใครได้
เฮ้อ..เราไม่น่าไปพูดแบบนั้นเลยอ่ะ ถ้าเรากลับบ้านเองมีหวังหมอนั่นโดนพ่อยำเละแหงมๆแน่..แต่ นึกถึงคำพูดเขาเมื่อกี้แล้ว..มันน่านัก..ฮึ่มดีสมน้ำหน้า อยากซ่าส์ดีนัก
และแล้วเวลาก็ผ่านไปจนหมดคาบเรียนของวันนี้เพื่อนต่างบอกลา ราตรีสวัสดิ์กันเรียบร้อยก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนฉันน่ะเหรอ แว๊บๆ แอบมองดิ๊ว่าอีตานั่นมันจะมารับอ้ะเปล่า..ฮี่ๆๆไม่มาจริงๆด้วยแฮะ
คอยดูซิว่าหมอนั่นจะทำหน้ายังไงเวลาโดนพ่อดุ ก้ากๆๆ
ระหว่างทางเดินกลับบ้าน ฉันได้แต่นึกในใจว่ากลับคนเดียวมันก็สบายดีหรอก แต่ว่า..ใครอ่ะ..ใครตามมาข้างหลัง กึ๋ยส์ น่ากลัวแฮะรู้งี้ไม่น่าไปไล่เขาเลยเรา แงๆ ทำไงดีล่ะนี่ ฉันก้าวฝีเท้าให้เร็วขึ้นรัวขึ้น ใจก็เต้นถี่ขึ้นแรงขึ้นจนหอบแฮ่กๆ โอ๊ย..คิดไปเองหรือเปล่าฟะเนี่ย เขาคงกลับทางเดียวกะเราหรอกน่า ไม่มีอะไรๆ ตึกตึกตึกตึกตึก
วิ่งดีกว่าโว๊ยยหลวงพ่อโกยช่วยลูกด้วย ฮือๆมันตามหลังมาแล้วววว ทำไงดีๆ ตายแล้วพวกบ้ากามชัวร์ๆเลยอ้ะ
หนีๆๆๆๆวิ่งๆๆๆๆๆๆ
หมับ!!!!!และแล้วมันก็ตามจับตัวฉันจนได้ อ๊ากส์!!!!ทนไม่ไม่ไหวแล้วเฟ้ย อย่างนี้ต้องเจอหมัดเส้าหลินสิบแปดอรหันต์ซะแล้ว พลั่ก!!!!!!!! เอ่อนี่เราชกเจ้าบ้ากามกระเด็นเลยเรอะเนี่ย? ง่ารอดแล้ว เย้ๆๆๆๆๆ
อ้าว..ไหงไอ้บ้ากามหน้าตาคุ้นๆเหมือนตาปราชญ์เลย เฮ้ย!!!!ตาปราชญ์นี่ เวรกรรม แอบตามมาก็ไม่บอกนะ
อูยยยย.
โทษทีนะ ก็เล่นพิเรนทร์ตามมาเหมือนพวกบ้ากามแบบนี้ ฉันก็เข้าใจผิดน่ะสิ เขาไม่ว่าอะไรแถมหันมายิ้มแต้อีก
ทีนี้รู้แล้วใช่ม้า..ว่ากลางค่ำกลางคืนน่ะ ผู้หญิงไม่ควรเดินคนเดียวมันอันตราย
อืม รู้แล้วเจ้าค่ะ เสียงในใจนักปราชญ์แต่ยัยคนนี้คงเอาตัวรอดได้สบายๆเหอะนี่ฉันรู้นะยะตัวคิดอะไรอยู่แอบกัดฉันอีกล่ะสิ ฮึ่ม..แล้วฉันก็บิดเขาเนื้อเขียวโดยไม่มีเหตุผลมารองรับค่ะ
ระหว่างทางที่ฉันเดินกลับบ้าน นายนักปราชญ์เขาชวนดูดาวบนท้องฟ้าด้วยล่ะ แหม..โรแมนติกจริงๆ
อย่างกับเพดานดาวเลยเนอะ สวยมากกกกกกกก แต่ดันเหลือบไปเห็นแววตาเศร้าสร้อยของเขาอีกแล้ว
เพิ่งเคยกินหมูปิ้งข้าวเหนียวอร่อยๆอย่างนี้เป็นครั้งแรก มัจเคยทำหรือเปล่าล่ะ คราวหน้าทำให้ผมชิมหน่อยนะจะเตรียมยาแก้ปวดท้อง ท้องเสียไว้ล่วงหน้า ฮ่าๆๆ
คนผีหลอกกัดกันอีกแล้วนะ ฉันสะบัดหน้าพรืดก่อนวิ่งตื๋อเข้าบ้านที่มีพ่อนั่งดวดเหล้ารอเราอยู่แล้ว
เอาไอ้หนุ่มมาๆๆเพื่อมิตรภาพที่ยาวนานของบ้านเรา เชียส!!! แหม..พ่อนี่ก็เวลาเมาเป็นฝรั่งขึ้นมาเชียะ
อีตาหล่อก็บ้าจี้ดื่มเข้าไปได้ไงหมดแก้ว เฮ้อ..พอกัน
เอ้อ..พ่อหนุ่มคอทองแดงเหมือนกันนี่ ดีๆๆ ไม่มาวไม่เลิกลา ฉลองๆๆ
เอ่อ..ลุงครับความจริงผมยังไม่บบรลุนิติภาวะ
เฮ้ยอย่าคิดมากน่าลุงดื่มตั้งแต่อายุสามขวบไม่เห็นมีใครว่าไรเลย
ปัดโธ่เว้ยย!!เงียบซะทีได้ไหม ทำการบ้านไม่รู้เรื่องเลยพ่ออ่ะฉันถือสมุดการบ้านมือสั่นด้วยความโกรธปนรำคาญอย่างมากถึงมากที่สุดที่บ้านมีแต่เสียงเอะอะ
การบ้านเอาไว้ทำพรุ่งนี้ก็ได้นี่หว่าทำไมต้องตอนนนี้เล่าอีหนู สิ้นคำฉันก็สะกิดถามพ่อด้วยเสียงเบาว่าทำไมตานั่นถึงไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องเสียที พ่อเลยกระซิบว่าเรื่องมันยาวก่อน้ำตาปริ่ม
เรื่องมันเศร้านะลูกมัจ หมอนี่มันตัวคนเดียวพ่อแม่ตายหมด เฮ้อพ่อมักใจอ่อนกับเรื่องแบบนี้ซะด้วยสิ
..อยู่คนเดียวเหรอ..ไม่น่าเชื่อเลย ดูไม่เห็นเหมือนคนตกยาก.
พ่อหนูหนวกหูเบาๆหน่อยได้ป่ะ โธ่เว้ยยไม่เข้าใจกันพอดี ตานั่นมองโจทย์คณิตศาสตร์ในมือฉันแล้วพูดในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด
นี่ไงไม่เห็นยาก ก็ใช้ทฤษฎีนี้สิ อะไรนะ นายพูดว่าข้อนี้ไม่ยากเหรอบ้า
ฉันทำมาตั้งชั่วโมงแล้วยังแก้โจทย์ไม่ออกเลย อยู่ๆนายมาบอกว่า ง่ายงั้นเหรอ หยามกันเกินไปแล้ว..อย่างงั้นไหนนายทำให้หมดเลยซิ ง่ายนักไม่ใช่เหรอ เขาส่ายหน้าก่อนหันมาพูดอย่างใจเย็น
มาเดี๋ยวผมสอนให้นะ พ่อมองเขาอย่างทึ่งๆในความสามารถด้านคำนวณของเขา
ไอ้หนุ่มนี่ฉลาดเว้ย เอางี้สิ ไปเข้าโรงเรียนเดียวกับหนูมัจเขา หัวดีๆอย่างงี้น่าเสียดายออก
แต่.ผม
นักปราชญ์เขาเกลียดโรงเรียนค่ะพ่อ เขาบอกหนูเอง
งี่เง่า!!!!!พ่อตวาดเขาพร้อมกระชากคอเสื้อขึ้นมา
ผะ..ผมขอโทษ
เออ..โทษทีฉันรุนแรงไปหน่อย
อ้าว!!!
แต่ถ้าเรื่องเงินละก็ไม่ต้องห่วงคนอย่างพ่อสุพจน์หมูปิ้งคนนี้ส่งเสียได้สบายอยู่แล้ว จิ๊บจ๊อยมากๆ ดีซะอีกจะได้เป็นเพื่อนไปกลับกับหนูมัจ ฉันจะได้ไม่ต้องห่วงมาก คิดให้ดีๆนะไอ้หนุ่ม พ่อตบบ่าเขาเบาๆ เขาออกอาการเกรงใจพ่อตะหงิดๆแต่.
อย่าเลยครับคุณลุงนักปราชญ์ไหว้ที่พ่อมีเมตตากับเขาแต่เขารับไม่ได้จริงๆ
ปัดโธ่ว๊อยยไอ้บ้านี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงฟะ บอกให้ไปก็ไปเด๊
พ่อใจเย็นพ่อ ค่อยพูดค่อยจากันดีกว่านะคะ
ผมขอโทษจริงๆครับ อภัยให้ผมด้วย ผมขอบคุณในความหวังดีของคุณลุงมากๆแต่ผมเกลียดโรงเรียนจริงๆแม้แต่ชื่อยังไม่อยากได้ยินเลย เห็นใจผมเถิดครับ นักปราชญ์ก้มกราบพ่อสุพจน์ด้วยน้ำตานองหน้าเขาคงเกลียดโรงเรียนจริงๆ
เข้าใจล่ะ งั้นฉันจะไม่บังคับนายหรอกนะ
แต่ผมขอทำงานกับลุงแทนนะครับ พ่อกับฉันจ้องหน้าเขาแบบงงๆ
ก็เอาสิ ขอให้คิดว่าที่นี่เป็นบ้านนายแล้วกันนะ
พ่อ!!!ฉันส่งเสียงประท้วง..ก็จะให้ผู้ชายอื่นเข้ามาอยู่บ้านเราได้ไงล่ะอันตรายจะตายไป
ขอบคุณครับ นักปราชญ์ยิ้มหน้าแป้นแล้น
แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะว่าห้ามล่วงเกินมัจฉาน้อยของลุงเป็นอันขาด ไม่งั้นจะเพ่นกบาลแยกจริงๆด้วย
ครับต่อให้มีมัจฉาน้อยเหลือแค่คนเดียว อารมณ์ที่ว่านั้นก็จะไม่เกิดขึ้นกับผมแน่นอนครับฮ่าๆๆพ่อได้ยินเขาพูดแบบนั้นถึงกับเคืองค่ะ
อะไรนะหญิงงามขนาดนี้ถ้าลองได้สัมผัสแต่ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยก็ทึ่มแล้ว อีตารูปหล่อถึงกับเหงื่อตก..อะไรกันฟะพ่อลูกเจ้าปัญหาเนี่ย