13 ตุลาคม 2548 02:29 น.

โพ้นนิทาน

กะเรกะร่อน


หลับตาเสียก่อนจอมขวัญ
ฟ้าฟากนั้นยังพร่างพราวด้วยดาวแสน
พาเธอโบกบินผ่านล้านดินแดน
เมื่อฟ้าทองส่องฟ้าแทนจงตื่นตา

ข้ามเขาโน้นโพ้นนั้นที่ฝันถึง
ที่ซึ่งกษีรธารรินผ่านป่า
มีจุมพิตตะวันไล้ปลายเมฆา
มีทวยเทพเทวามาร่ายรำ

เธอจะเห็นเรียวหญ้าแตะฟ้าขาว
เธอจะกรุ่นกลิ่นดาวทั้งเช้าค่ำ
สดับเสียงทิพย์นารีขับลำนำ
อย่างเคยนึกลึกล้ำตามนิทาน

จะมีเพียงเรื่องราวของเราสอง
ตามทำนองนิยายเก่าเคยเล่าขาน
เมื่อฟ้าทองส่องท้องฟ้าทิวาวาร
เราจะอ่านนิทานฝันพันมายา				
12 ตุลาคม 2548 19:29 น.

ปณิธานแทบทางเท้า

กะเรกะร่อน

เปี่ยมสำนึกสร้างสังคมปรารถนา
เพาะกล้าบ่มวิญญาณขับเคลื่อนสมัย
ปณิธานแย้มกลีบกรองมาลัย
เร่แจกจ่าย...ท้นหวังแทบทางเท้า

.
.
.
(ยิ้ม...ยิ้ม...หวัง...หวัง)

เปี่ยมผู้คนสับสน...บนทางผ่าน
สายตากร้าน...เมตตา...และล้าเหงา
ต่างคนต่างคิดแปลกแตกต่างเงา
ตัวเรา - ของเรา......โปรดเข้าใจ

(ก้มหน้า - ปาดน้ำตา - หวังใหม่)

เปี่ยมไปด้วยปรารถนาอันร้าวแหลก
แปลกแยก ? หลงทาง?  เข้าข้างไหน
ไม่มีที่ศรัทธาหวังอย่างเข้าใจ
ทบหน้าทาบหัวใจไว้ทางเท้า

(เลือกคิดใหม่ ?  เลือกทำใหม่? )

กล้าเก่าเฉาช้ำแล้ว...ทั้งแปลงกล้า
ซุกหน้าซ่อนใจใต้ซากเก่า
กลบสำนึกฝังปณิธานนานเนาว์
แทบทางเท้า....เราฝัง"ให้"สิ้น..วิญญาณไท


---------------------------------------------------------



เหมือนว่าจะมองโลกในแง่ร้าย  และมืดมนในความหวัง...

ที่จริงแล้ว
หากมองไปรอบๆ....จะพบสายตาหวาดหวั่นที่ซุกซ่อนไปด้วยแรงสู้อีกหลายร้อยล้านคู่


ในสังคมที่ดูอ่อนล้าและเจ็บป่วย.....คนมากมายยังแข็งแรงและสดใส..

อาจจะรู้สึกว่ายืนอยู่ลำพัง..เพราะความเป็นจริงไม่เป็นอย่างความฝันใฝ่

ความจริงก็คือความจริง...

ความฝันจะสัมฤทธิ์ผลได้ก็ต่อเมื่อลงมือสร้างมัน				
10 ตุลาคม 2548 16:46 น.

ใต้กลุ่มควัน

กะเรกะร่อน

ทำนองว่าฝันใฝ่ไร้เดียงสา
ยึดค่าอุดมการณ์หลงสมัย
ไฟที่ก่อแค่ฟอนมอดเชื้อไฟ
ฝันจึงแค่ควันไหม้แห่งคืนเพรง

ทำนองว่าตาใสใจบิ่นบ้า
จึงหาญกล้าท้าชนคนข่มเหง
สวมวิญญาณนักรบขึ้นบรรเลง
ร้องเพลงปลุกสังคมเซื่องเซา

กลายเป็นคนหลุดขอบจากกรอบโลก
หวังบินโบก - หึ - บวมบ้า - งี่เง่า
ปัญญาชนหมายค้นหา : ปัญญาเบา !
........คลุ้งขี้เถ้าทั่วสังคมอุดมการณ์

หมดแล้ว.......หมดยุคสมัย
ลูกนกใหม่..หมายบิน บิ่นบ้ากล้าหาญ
ปีกอ่อน แหลกแล้ว แหลกลาญ
ไฟผลาญ ผลาญแล้ว  วอดวาย

กว่าจะรู้เดียงสา
ไฟป่ากระพือโหม  รุกไล่
สิบมือเขาสาว สาว สาว ยืดยาวไป


ทิ้งฉันไว้....ทิ้งไว้....
ใต้หมอกควัน				
10 ตุลาคม 2548 15:09 น.

สิ้นบุญ

กะเรกะร่อน

ร้องเพลงไว้อาลัยหัวใจขลาด
คล้องพาดด้วยกลีบไม้ช้ำก่ำ
ประทับบาทย่ำเหยียบไว้จดจำ
ตาย ! ตายเสีย จงเจ็บช้ำเถิด...เยาว์วัย 
สวดส่งท้ายทิ้งทวนความอ่อนเขลา
สะกดเงาสาปสิ้นทุกสงสัย
เผาให้โรจน์โชติฉานให้บรรลัย
ทุกฝันขลาด,จงมอดไหม้ ยับวิญญาณ

กรวดน้ำคว่ำขัน - - เถ้าธุลี
ต่อจากนี้ตายขาด บทขับขาน
สิ้นสุดทุกเวรกรรมเพลงพิการ
ตายซากแล้ว วิญญาณ....สิ้นบุญ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกะเรกะร่อน
Lovings  กะเรกะร่อน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกะเรกะร่อน
Lovings  กะเรกะร่อน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกะเรกะร่อน
Lovings  กะเรกะร่อน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกะเรกะร่อน