4 มีนาคม 2549 04:31 น.

หอมแก้ว

กะเรกะร่อน

ราตรีคลี่ผมห่มฟ้าขาว
น้ำตาดาวรินทางหว่างหญ้าหวาน
สิบหมื่นตาโชนไหวในชนธาร
สิบหมื่นเท้าย่างผ่านมิติภพ

ท้องถนนหนทางพรางม่านหมอก
แว่วระลอกคลื่นน้ำตาขึ้นกล้ากลบ
ภาพดอกแก้วร่วงกราวคราวโพล้พลบ
บรรลุจบรอยแจ่มแอร่มชัด

โชยกลิ่นคาวกรุ่นกล้าประสาแก้ว
กลีบแล้วกลีบเล่า...เขาคว้าตัด
ยังหายใจรอนร้าวห้าวฮึดฮัด
ก่อนจะลัดลาล่วงสู่ห้วงฟ้า

ค่ำคืนนี้แดงแก้วกรุ่นเดือนหอม
ความหลังห้อมห่มถามย้ำเตือนว่า
ร้อยหมื่นคนเคยแลกชีพด้วยวิญญาณ์
พันหมื่นเท้าเคยพลิกฟ้ากระเทือนจันทร์

ราตรีคลายคลี่ผมห่มหมอกเมฆ
หอมวิเวกแก้วเก่าในเงาฝัน
ท้องถนนบ่ายหน้าหาตะวัน
แก้วแบ่งช่วงผลิชั้นในวันนี้

ปรารถนาสันติวาดผงาดฟ้า
แก้วหอมกล้าคราวใหม่ไว้ที่นี่
หากเขาหาญตัดเจ้าผองอย่างลองดี
ให้รู้ว่าโลกนี้ไร้ค่าธรรม

เราปลูกแก้วกอใหม่ให้หอมบ้าน
อย่ารุกรานสวนใหม่ไล่ล้มคว่ำ
อย่าขย้ำกลีบใหม่ให้มอดดำ
เราจะก้าวล่วงล้ำมิติไฟ.				
3 มีนาคม 2549 03:22 น.

อากาศเอกา

กะเรกะร่อน

ห้วงอากาศเอกาเธอว้าเหว่
ลมเร่หอบฟางฝันไปฝั่งไหน
หยิ่งศรัทธายิ้มผยองสิ่งครองใจ
เธอแขวนติดยึดไว้เป็นมรรคา

เธอแย้มสิ่งมั่นผยองครรลองฝัน
ตื่นตามองดูตะวันจะดีกว่า !
เห็นไหมสาว....นั่นชีวิต...นี่น้ำตา
ในความจริงไหนละค่าอุดมการณ์

เราดื่มกินห้วงหายใจอวกาศ
ลางคราวพลาดทิ้งเมล็ดพันธุ์เคยเพาะหว่าน
ธรรมดา จริงแท้ ทุกต้องการ-
ย่อมแปรเปลี่ยนทุกทิวารที่ผ่านลา

ในห้วงอากาศเอกาอย่างว้าเหว่
เธอออกเร่เก็บฟางฝันไล่ตามหา
อย่ายึดติดวิถีมั่นบนมรรคา
ปล่อยศรัทธางอมฟ้าฝนบนโลกจริง !

๒ มีนา ๔๙				
27 กุมภาพันธ์ 2549 06:56 น.

ลางลูกลิง

กะเรกะร่อน

ลางลิงลิงลอดเลี้ยว.............ลางลิง
แลลูกลิงลงชิง...................หลักยื้อ
ลิงวอกไล่ลมพิง.................พันรอบ เพื่อนแฮ
แลฝูงลิงชิงชื่อ...................ชักเลี้ยวรวมลิง

เหล่าลิงโลดไล่ไล้.............. ลองกล
เล่นพรรคลงพวกพล.........พี่น้อง
ลมพัดหลักล้ม,ตน.............วุ่นวิ่ง หนีเฮย
หมายใหม่ลิงไล่จ้อง...........จกจ้วงรังลิง



วานรมินอนใจ
เข้าโลดไล่ยื้อหลักพัน
ลอดเลี้ยวชิงลมกัน
ชักรวมชื่อเพื่อซื้อชัย

ลางลิงลิงลอดเลี้ยว
กางเล็บเขี้ยวโรมประลัย
ย้ายพรรคเพื่อโยกภัย
จ้องจกจ้วงลวงเพื่อนหลอน

ขุนพลหล่นจากพรรค
ลูกลิงรักยักองค์อร
ปลดเกียรติเปลื้องอาวรณ์
ย้ายหลักฝัง หารังตาย.				
26 กุมภาพันธ์ 2549 02:44 น.

ลมหายใจนอกกะลา

กะเรกะร่อน

นายว่า :

หอมกะลา  มันกะโหลก
แลชะโงกเมื่อค่ำงาย
เดือนดาวก็วาวพราย
ลัคน์สว่างไสวหน

เขตแดนดุจกว้าง
อรัญหว่างกระแสชล
โน่นฟ้าครามคำรณ
ตะวันฉายชิงช่วงแสง

หอมกะลา เข้มพลัง
วิญญาณหวังทะยานแรง
ฟ้าต่ำ ดินจำแลง
ที่เหยียบย่ำ คือ โคลนเขียว

ตมปลัก ว่า สีทันดร
ครองนครอยู่ดายเดียว
อย่าหมายไล่ล้มเชียว
อำนาจข้า ข้าแหนหวง

สิบแสนนอกระบบ
ฤา จะครบประชาปวง
กฎหมู่จ้องจาบจ้วง
ละเลงป้ายภาพใส่สี

จากเขียวจะเข้มดำ
กายจะคล้ำคราวกุลี
นายกบอย่างฮานี้
ฤ จะร่วงกะกราวหรือ ?

จักรวาลอันคลุมครอบ
สิ้นเขตขอบประชาลือ
ฤทธิ์เงินที่ยึดถือ
ระเบ่งเบิกและบานสวย

กะลาหอม กะโหลกกลวง
ที่ออกรวงคือทรัพย์รวย
ผู้ใดไม่เห็นด้วย
จับใส่ลังลงถังมัด

ใครเตะกะลาโคลง
คือคนโกงตระบัดสัตย์
หมายล้มและไล่ฟัด
ด้วยวิถีอธรรมร้าย

ขี้ข้าครวญ :

เราหรือคือคนบาป
เพราะกำซาบซดกลิ่นอาย-
ลมหอม นอกปลักนาย
และ ริชื่นเสรีชม

เขากลัวกะลาคว่ำ
จึงหยุดย้ำที่พองลม
"ยุบ" ตนในท้องตม
เพื่อสุขสมหลังวรรคไฟ

กะลาจะสิ้นหอม
พุธจะอ้อมเข้าล้อมใหม่
ลัคน์มืด, กบจืดชัย
ประชาหมายเปิดกะลา

ฟ้าใหม่หลังฝนล้าง
สิโรจน์รางหรือไร้ค่า
กลกบในกะลา
จะกลับมา ฤ ลาลับ

สองมือเราเปิดฟ้า
สร้างรถาขึ้นร่วมขับ
รพีไล่พยับ
เราจะขับกบพยศ.				
24 กุมภาพันธ์ 2549 07:09 น.

กาแฟเช้า

กะเรกะร่อน

หยิบกาแฟแก้วใหม่เมื่อใกล้เช้า
กลั่นไอควบชิดเข้าเพื่อหยดขุ่น
หมอกพุ่งพวยไล่ล้อมหอมละมุน
จึงตื่นตามาอิ่มอุ่นแต่รุ่งเช้า

กระจัดกระจายลิ้นชักตักคำเขียน
จังหวะเวียน หยิบเสื้อใหม่ ใส่หมวกเก่า
กระวีกระวาดกวาดคำขยำเคล้า
ลงแสงเงา เป่าเส้น ให้เป็นเพลง

ซดกาแฟแก้วใหม่ไปพร่องฟ้า
น้ำตาลเปรอะครึ่งหน้า ---- เข้าท่า ! เจ๋ง!
ส่งวรรค รับลูกล้อ ต่อบรรเลง
ประชันเสียงประชดเพลงกระทบฟ้า

ละอองกวีหอมทะเลเห่ขุนเขา
ขับลำนำค่ำเช้า, เมาคำป่า
จิบกาแฟไล่วรรค - พักน้ำตา
แล้วจัดคำ  เข้าหน้า ทำนองนวล

เมื่อตาตื่นอิ่มคำก่อนค่ำหาย
ฟ้าแทรกพรายส้ม-ขาว, กาแฟหวน
ตวัดถ้อย ประมวลคิด ปิดกระบวน
แล้วกรองคำ ขับสำนวน เคล้าละออง-

กวี, ซากกาแฟเก่าขอดก้นแก้ว
ค่ำแล้ว คืนแล้ว  ,  ย้ำหยดหมอง
หอมกวีหวนหาย คลายคะนอง
วรรคสุดท้าย  จางทอง....ลับท้องลึก.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกะเรกะร่อน
Lovings  กะเรกะร่อน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกะเรกะร่อน
Lovings  กะเรกะร่อน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกะเรกะร่อน
Lovings  กะเรกะร่อน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกะเรกะร่อน