9 ตุลาคม 2548 21:37 น.
กอกก
.
...ถอยห่าง...อีกนิด อีกนิด (นะ) ...
พ่อพวงมาลัย ถอยห่าง ไปบ้างนะ
ประเดี๋ยวจะ ไฟช๊อต ฉันมอดไหม้
ปากก็หวาน ขานชื่อ แล้วมือไว
น่าสงสัย เจอผู้หญิง เหมือนลิงเชียว
ทำหว่านล้อม ห้อมคำ ลำนำรัก
เผลอเป็นล้วง เป็นควัก น่าหวาดเสียว
เดินเฉียดกัน ริมวิถี นาทีเดียว
ทำตามเกี้ยว สัปดน จนระอา
สัญชาติชาย ทีท่า เหมือนปลาไหล
ควรต้องหลีก ให้ไกล จะดีกว่า
ถ้าอยู่ใกล้ อาจช้ำ เสียน้ำตา
อีกเวล่ำ เวลา ก็สิ้นเปลือง
เจอผู้ชาย พายเรือ เสือผู้หญิง
น่าเบื่อจริง ถ้อยคำ มาทำเขื่อง
ได้เป็นคู่ คงยุ่ง ไม่รุ่งเรือง
วุ่นแต่เรื่อง ความเจ้าชู้ ไม่รู้รอย
ขออย่าเจอ อย่าพบ ไม่คบหา
หนีดีกว่า ขอเป็นเนื้อ หลบเสือหน่อย
ไม่ต้องมา เต๊ะท่า ทำตาปรอย
ชาติหน้าค่อย ข้องเกี่ยว มาเกี้ยวกัน
.............................
แก้กับกลอนที่เคยเขียน... รักเขา..ผู้ชายเจ้าชู้ ...
คนเราล้วนมากหลากอารมณ์ ผสมจินตนาการ...
6 ตุลาคม 2548 18:33 น.
กอกก
. ...รอฮักอ้าย...
สุดสายตานาร้างนางโดดเดี่ยว
เหมือนรวงข้าวคอยเคียวคนเกี่ยวหาย
อ้ายไปอยู่เมืองกรุงจรุงกาย
ลืมเดือนหงายควายทุยเคยลุยนา
คำสัญญาจากอ้ายก็หายจ้อย
สูญตามรอยอ้ายลับไม่กลับหา
หรือมัวหลงแสงสีที่บาดตา
จนลืมค่าท้องทุ่งเข้ากรุงเลือน
กอดตัวเองด้วยสองแขนที่แสนล้า
ลมโชยมาหนาวสั่นเหมันต์หวน
สุดแสนเหงาเศร้าจริงหนาสาวนาครวญ
ลมก็ปวนอ้ายก็แปรเหลือแต่เรา
ข้างกองฟางแสงไฟเลือนคืนเดือนหงาย
น้ำตารินเป็นสายท่วมกายเหงา
คิดฮอดหลายอ้ายนั้นมิบรรเทา
เป็นคนเศร้ารออ้ายนี้คืนนา
ทุยได้แต่หลั่งน้ำตามาเป็นเพื่อน
คอยอ้ายเยือนหวนรับเสน่หา
ทุ่งรวงทองใต้แสงแห่งจันทรา
กลับคืนนาเถิดอ้ายมีควายคอย
........................