8 สิงหาคม 2547 00:04 น.
กอกก
***ดอยอ่างขาง นางใจหมอง***
หนึ่งมือถือกระเป๋าเดินก้าวย่าง
นำพาร่างมาที่นี่อีกหนึ่งหน
อยู่เงียบเงียบอย่างลับลับกับใจตน
ด้วยเหตุผลชอบซ่อนตนจากโลกลวง
ยิ้มน้อยน้อยให้น้องที่ยืนจ้อง
กวาดตามองรอบด้านดั่งแดนสรวง
แจกันใหญ่วางกลางห้องใต้โคมดวง
แลละล่วงเตาผิงไร้ไฟโชน
โต๊ะเก้าอี้ตัวนั้นริมห้องหับ
ไม่เคยนับว่ามานั่งแล้วกี่หน
กาแฟร้อนกลิ่นกรุ่นในจิตดล
ใจทุกข์ล้นจนต้องพามาปะชุน
รับกุญแจจากน้องด้วยรอยยิ้ม
ทอดน่องริมทางเดินอย่างเคยคุ้น
ส่วนสวนสวยด้วยดอกไม้กลิ่นละมุน
หอมกลิ่นกรุ่นไอดินชื้นผสมกลืน
อากาศเย็นด้วยสายฝนเพิ่งลาล่วง
ตะวันช่วงใกล้ลับเขาแลแฝงฝืน
ทอดสายตาเพ่งมองกอดอกยืน
น้ำตารื้น..เหมือนเศร้าเหงาจับใจ
เขียนบันทึกจากหัวใจในห้องนี้
หนึ่งสี่สี่ที่ประจำฉันจำได้
ระเบียงห้องมองได้สุดฟ้าไกล
ภูเขาใหญ่สลับซ้อนเล็กเรียงราย
เห็นหมู่บ้านชาวเขาตั้งคละเคล้า
เป็นภาพเล่าเรื่องราวได้หลากหลาย
* โครงการหลวง* ไม้ดอกผลช่างมากมาย
* ดอยอ่างขาง* ทุกข์สลายทุกคราเยือน***
......................
***ดอยอ่างขาง....ไม่ไปไม่รู้
เป็นโครงการหลวงที่ท่องเที่ยวได้
ตลอดที้งปี สวยหลากหลายตามแต่ฤดูกาล
มีเวลาสักหน่อยขอให้ได้ไปเยือน
แล้วคุณจะไม่ลืมความประทับใจ***
5 สิงหาคม 2547 23:00 น.
กอกก
*** ทะเลสีเหงาใต้เงาฟ้า ***
หัวใจเหงาเศร้าหม่นและเหว่ว้า
จึงนำพากายาที่แฝงฝืน
เดินละเล่นกับทะเลตอนกลางคืน
ปะทะคลื่นซัดซาดหาดนงครวญ
มองทะเลสีเหงาใต้เงาฟ้า
แสงจันทราสะท้อนคลื่นพริ้วลมหวน
ทักดวงดาวบนฟากฟ้าพารัญจวน
เปลือกหอยชวนชมยอดไม้พัดโอนเอน
เปลยวนใครสั่นไกวเอนไหวโยก
ฤาลมโศกพัดพาให้ใจเข็ญ
ใจดวงน้อยคับแค้นยิ่งลำเค็ญ
จนอยากเค้นให้รินหลั่งนะน้ำตา
ลมทะเลโชยพัดพามาทดแทน
กอดตัวเองด้วยแขนที่ไร้ค่า
ก้าวย่างหย่อนนอนเปลยวนไม่นำพา
ขอหลับตา...หยุดโลกร้าง ตามลำพัง
แล้วฮึดลุก เดินเถิดเดินไปข้างหน้า
ทิ้งรอยเท้าคนไร้ค่าไว้ข้างหลัง
ตั้งใจแน่วอีกครั้งดั่งพลัง
ให้คลื่นสาดฝังความหลังไม่เหลือรอย ***
.......................
... ทะเลตอนกลางคืน..
เยือกเย็น
สวย
และ
ลึกลับ
4 สิงหาคม 2547 02:03 น.
กอกก
** แม่ **
แม่....
เมื่อครั้งให้กำเนิดลูก
แม่เจ็บปวด
ลำบากไหม
วันนี้ลูกเจ็บปวด
จนอยากคืนวิญญาณ
ให้กับแม่
....................
แม่...
แม่จ๋าแม่ลูกแย่แล้วใจร้าวเหลือ
ชีวิตลูกนี้นั้นมันน่าเบื่อ
ลูกไม่เหลือแล้วใครให้ใจปอง
ชีวิตลูกแม่ได้ให้ก่อเกิด
แม่กำเนิดลูกครบจบสามสิบสอง
แม่ฟูมฟักรักลูกผูกประคอง
เมื่อลูกร้องแม่ป้องปลอบแทบขาดใจ
หนึ่งน้อยนิดแม่ไม่คิดทำร้ายลูก
แม่พันผูกด้วยรักอันหยาดใส
แม่อบรมถนอมเอาใจใส่
ไม่เคยให้ใจระคายสลายตรม
ทั้งชีวิตแม่อุทิศเพื่อลูกรัก
แม่เจ็บนักคราลูกนั้นขื่นขม
แม่เฝ้าปลอบให้ได้เลิกช้ำตรม
แม้นจะขื่นจะขมเรื่องใดใด
มาวันนี้ที่ไร้แม่เกินคว้าไขว่
แม่อยู่ไกลสวรรค์ ณ ชั้นไหน
ชีวิตลูกเจ็บนักแทบขาดใจ
อกสั่นไหวร้าวรอนและอ่อนแอ
มาวันนี้ลูกนั้นอยากจักฝืน
ได้ขอคืน...วิญญาณให้กับแม่
ทิ้งชีวิต ...จากไปอย่างผู้แพ้
ขอโทษแม่...ลูกนี้ อกตัญญู***
..................
*** อุทิศความดีแด่ผู้เป็น..แม่
2 สิงหาคม 2547 18:41 น.
กอกก
กุหลาบแดงดอกหนึ่งยื่นมอบให้
แทนคำว่า *ขอบใจ* จากจอมขวัญ
แทนไมตรีที่ล้ำลึกซึ้งสัมพันธ์
มอบแก่กันแทนวันนี้ที่ผ่านมา
เป็นเวลามีค่ากว่าใดผอง
แนบประคองเราสองใกล้ชิดหนา
ช่วยประสานแผลเคยร้าวทรมา
เป็นเพราะเขาทำท่าว่าเข้าใจ
ยิ่งกว่าแก้วแหวนเงินทองของเคยได้
อยากได้ใจได้เวลากว่าสิ่งไหน
วันตรุษสาร์ทเทศกาลเป็นช่วงไป
ไม่อยากให้เขาทิ้งเราให้ช้ำตรม
ดีใจมากวันนี้ที่ได้พบ
ได้ซุกซบอกอุ่นไม่ขื่นขม
แตะโอบบ่ากอดเอวเดินชี้ชวนชม
เขาลูบผมเราอบอุ่นมหัศจรรย์
ตักกับข้าวยื่นกับปลาส่งมาให้
เขาใส่ใจดูแลในตัวฉัน
ขอบคุณเขาด้วยสายตาแสนตื้นตัน
เพียงเท่านั้นก็สร้างสุขได้มากมาย
เคยเจ็บปวดมากนักเพราะรักเขา
ทั้งแสนเศร้าเพราะเขามาห่างหาย
เหลือเพียงซากชีวิตที่จิตวาย
ครั้งสุดท้ายใจสลายได้จากกัน
ไม่กล้าคิดที่จะมีซึ่งวันนี้
เป็นวันที่ได้พบเขาเจ้ายอดขวัญ
คิดว่าเขาลืมคำว่า กันและกัน
ดวงชีวันฉันนั้นยอมจำนน
เป็นรางวัลแสนล้ำค่ามากมายนัก
ประสานรักหว่างเราเขาอีกหนึ่งหน
*รักเขามาก* ยังบอกได้กับใจตน
รักมากล้นเกินพร่ำคำวจี
รับกุหลาบดอกนี้นะที่รัก
ให้ประจักษ์ให้ด้วยใจอันสุขขี
หากไร้รักประสานต่อดวงฤดี
เวทีนี้คงปิดม่านฉากรักเรา***
..................