11 มีนาคม 2554 08:31 น.

ย้อนกลับมองใจ..

กษาปณ์ บุบผา

วัน เดือน ปี มันก็แค่สว่างกับมืด มันเข้ามาตอนนานาฬิกาปลุกดังขึ้น แล้วต้องลุกขึ้นไปต่อสู้กับความสว่าง เพื่อดำรงชีวิต ทำงานเพื่อประทังชีวิต หาอะไรใส่กะเพาะ เมื่อความมืดคลืบคลานเข้ามาก็เป็นเวลาของการพักผ่อน เพื่อเก็บเรี่ยวแรงไว้ สู้กับวันใหม่
 
มันเป็นอย่างนี้ มันเข้ามาแล้วออกไป ออกทางประตู แล้วกลับเข้า ประตู เป็นอย่างนี้ ทุกเมื่อเชื่อวัน จำเจ ซ้ำซาก รีบเร่ง ชักช้า เอื่อยๆ วันเดือนปีมันก็แค่เวลาที่รมชีวิต นับวันก็เริ่มเหี่ยวเฉา และอ่อนกำลัง
 
เรามองออกไปแต่ข้างนอก มองดูการเคลื่อนไหวของชีวิตอื่น การรีบเร่ง การพัฒนา สิ่งใหม่ๆ เทคโนโลยี ความก้าวหน้าทางวิทยาการ ข่าวสาร จนทำให้บางทีรู้สึกเบื่อ และเกิดคำถามกับตัวเองว่า เราจะตามมันไหม เราจะเคลื่อนตัวไปกับสิ่งที่พัฒนาไหม เหนื่อยกับการตามกับเทคโนโลยีที่รวดเร็วเหล่านี้ไหม ถ้าจะตามไป ก็เหมือนเป็นการอวดความโง่เขลาของตัวเอง เมื่อเอาตัวเองไปบวกกับสิ่งที่พัฒนา แต่สิ่งเหล่านั้น เหมือนเป็นของทันสมัย มองในอีกด้านหนึ่งมันเหมือนทำให้เราล้าหลัง ลงไปทุกที

ย้อนกลับมามองที่ตัวเรา มองใจของเรา สิ่งที่เราทำนี้มันคืออะไร เคลื่อนไหวในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ออกเดินย่ำหาอะไรก็ไม่รู้ ถามใจเรา ต้องการสิ่งไหน ค้นหาความสะดวกสบาย อยากได้ในสิ่งที่สงบ หาในสิ่งที่ทำให้หัวใจเราได้พักบ้าง เพราะตั่งแต่วันที่เราเกิดมา หัวใจเราไม่มีเวลาได้พักเลย ทำการอยู่ตลอด ตั่งแต่วันเกิดจนถึงวันนี้ และจะเป็นไปแบบนี้จนถึงวันตาย

ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของผู้คน สิ่งต่างรอบตัว วันเดือนปี ความก้าวหน้า มันก็เดินไปแบบไม่มีหยุดพัก หัวใจเราก็เช่นกัน ไม่เคยได้หยุดพัก

ตั้งสติ ทำสมาธิ ให้ใจได้ผ่อนคลายบ้าง หยุดทุกเรื่องที่หมุนรอบตัวเรา พักใจ				
20 กุมภาพันธ์ 2554 12:10 น.

เริ่มที่ใจ จบที่ใจ(ยอมรับความจริง)..

กษาปณ์ บุบผา

หลังจากนั้นภาพของเขาที่ได้เจอก็เริ่มก่อการร้ายในหัวใจตลอดมา จนรู้สึกร้อนรน กระวนกระวาย เป็นอยู่ไม่สุข ไม่รู้จะทำยังไง บ่มไว้นาน อาการคิดถึงก็เพิ่มมากขึ้น จนเก็บอาการไว้ไม่ไหว 

พอได้มีโอกาศใกล้เขา กลับปอดแหกซ่ะนี้ ไม่กล้าแม้แต่จะพูดคำทักทาย อายหลบเขามุมไปเลย..

ชอบเขาตรงไหนน่ะเหรอ แบบว่าชอบอ่ะ เห็นหน้าก็เป็นสุข เวลาพูด เวลายิ้ม แหมๆ โดนใจ อยากอยู่ใกล้ๆจัง
 
พอได้มีโอกาสได้คุยกัน ครั้งแรกนะ บอกตรงๆไม่กล้า น้ำท่วมปาก เอนเอียงบ่ายเบี่ยงทำเป็นคุยเรื่องอื่นไปซะงั้น ใจเอ่ยใจ พอผ่านไปกลับมารู้สึกเสียดาย ทำไม่กรูไม่บอก แถมยังโดนวิทยาทานจากเพื่อนๆ กระหน่ำซ้ำเติมอีกว่า”ทำไมไม่บอกกับเขาไปเลย เก็บไว้ทำไม” เนอะ ง่ายตายแหละ จะลองดูไหมล่ะ “ก็แค่ความรู้สึก” เออ..ใช่มันก็แค่ความรู้สึก

เอาล่ะ นับหนึ่งถึงสิบในใจ เป็นไงเป็นกันคงไม่ถึงกับตายละมั่ง ก็แค่ความรู้สึกที่อยากจะบอก แต่ถ้าไม่บอกไอ้เรานี้แหละจะตายเพราะมันจุกอก ขาดความมั่นใจ
“เราชอบเธอนะ” หนึ่งคำที่หลุดออกมา มันก็ล่องลอยไปในอากาศ ขาดการควบคุม เขารับรู้แล้ว ไม่มีสัญญานตอบรับใดๆ หรือปฎิกริยาใดๆ ความเงียบก็เข้าเกาะกุมหัวใจ อยู่นานวัน..
 
หลังจากนั้นได้คุยกันบ้าง เรียกว่าครั้งคราวไม่สม่ำเสมอ พอได้เห็นความเป็นไป ยิ่งรู้จักเขามากขึ้น เราเริ่มต่ำลงไป เริ่มไฝ่สูงขึ้นเรื่อยๆ เราต่างกันมากขนาดนี้ ทั่งฐานะ การงานหน้าที่ เขามีดีมีครบเพรียบพร้อมทุกอย่าง

หัวใจเริ่มเหี่ยวเฉาเหงาหงอยเศร้าสร้อย ละห้อยอ้อยอิ่ง นิ่งดูใจ ถามใจตัวเอง ตั่งคำถามว่าเอายังไงใจดวงนี้ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นที่ใจ ชอบเขารักเขาก็เริ่มที่ใจ ใจบอก ใจสั่งมา ใจบ่งการ ใจสู้ ใจแข็ง ใจอ่อน ใจเสีย เสียใจ ใจละเหี่ย ใจหาย ใจเดาะ..

ใจบอกให้ถอย เขาไม่ชอบเราหรอก บอกเขาไปแล้ว ได้แค่ก็นี้ดีใจแล้ว เหมือนกำลังเหงนมองบนฟ้า หวังจะคว้าดาวมาครอง เมื่อรู้คุณค่าของเขาเปรียบเทียบกับเรา นึกกลัวหวั่นๆ เราคนธรรมดา การศึกษาเขาสูง อย่างเขาคงมีคนเข้ามาจับมาจองมาจีบจนขี้เกลียดนับเลยละมั้ง แค่คิดก็ผิดตั่งแต่แรก แพ้ตั่งแต่ยังไม่ขึ้นชก
 
กลับมาตั้งการ์ดหัวใจรับความจริง ก้มหน้ามองดินต่อไป ไอ้คนกระจอก				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกษาปณ์ บุบผา
Lovings  กษาปณ์ บุบผา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกษาปณ์ บุบผา
Lovings  กษาปณ์ บุบผา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกษาปณ์ บุบผา
Lovings  กษาปณ์ บุบผา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกษาปณ์ บุบผา