31 มีนาคม 2552 17:52 น.
กวีเดินดิน
ทิวไม้ละลิ่วลม
หมู่นกชมละลิ่วไพร
แสงแดดอ่อนละไม
ฉลุใบกิ่งยอดบน
สายน้ำกระเซ็นแซ่
ดวงดอกแผ่ดูสับสน
มัจฉาว่ายเวียนวน
นกน้อยวนโฉบไปมา
สายหมอกยังเคลียกรุ่น
ทาบทิ่วพุ่มยอดใบหนา
แม้แดดส่องลงมา
ไม่อาจพาหมอกหายไป
แต่เป็นอย่างไรเล่า
อยู่ยืนยาวได้ไฉน
ถากถางกันเข้าไป
บุกรุกในป่าเขตดง
หากคิดกันสักนิด
อย่าทำผิดเป้าประสงค์
ป่าไม้คงอุดม สัตว์ป่าสมอยู่พงไพร
31 มีนาคม 2552 17:43 น.
กวีเดินดิน
เคยอยู่ป่าอยู่ดงในวงศ์สัตว์
เคยได้กัดกล้วยอ้อยบนดอยใส
เคยได้ชื่อว่าเป็นสัตว์คู่เมืองไทย
แต่เหตุใดถึงได้ออกนอกป่ามา
ใช้ให้เราเดินอยู่ตามฝั่งถนน
ใช้ให้คนเดินเข้ามาเลือกซื้อหา
ใช้ให้เขาซื้ออ้อยเพราะเมตตา
ได้เงินมาหาเลี้ยงที่ตัวคน
29 มีนาคม 2552 12:25 น.
กวีเดินดิน
เมื่อเสียงปืนดังลั่นก้องทั้งป่า
ใบยอดหญ้าพลิ้วสั่นหวั่นหวั่นไหว
ทั่งสองข้าสีขาวิ่งเข้าไป
หลบพงไพรหาที่ซ้อนป้องชีวี
ทั่งหวาดกลัวหูตาอกใจสั่น
ล่าสัตว์กันอวดกันว่าข้ามีสี
ใครจะกล้ามาหาเรื่องล้างชีวี
เงินกูมีถ้ากูให้มันก็เอา
คนทำงานกับป่าซิน่าเหนื่อย
ถึงจะเมื่อยเหนื่อยล้าขนาดไหน
ตะเวนซิเดินป่ากันเขาไป
พอจับไปไม่กี่วันมันก็มา
ไม่เห็นหรือของกลางที่จับได้
ลิง เก้ง ควาย แสนอนาถเป็นหนักหนา
ขา เขา หัวเฉือนหั่นเอากันมา
คนรักป่าเห็นแล้วอนาถใจ
28 มีนาคม 2552 23:25 น.
กวีเดินดิน
ความจริงบางครั้งเป็นสิ่งที่เจ็บปวดแต่พวกเรา
ทุกคนล้วนต้องเผชิญ
ความจริงแม้ต้องเผชิญแต่มันจะเป็นอยางไรเล่าหากเราเข้มแข็ง
หากเราเลือกแบ่งศักดิ์ศรีหรือที่ดีรวย
ความรักที่เจ็บปวดก็คงจะมีต่อไป
แต่เหตุไฉนรักนี้ยังคงอยู่คู่นิรันดร์
28 มีนาคม 2552 20:46 น.
กวีเดินดิน
* คนที่คิดว่าตัวเองฉลาด หากแต่ความจริงนั้นโง่สิ้นดี
*ชีวิตใยต้องรอให้ชะตากำหนด เมื่อคนพานพบทุกข์สุขคือเรา
*คนที่ใช้คำพูดข่มขู่ผู้อื่น อย่าหวังว่าจะได้รับความจริงใจ
*ความจริงใจต้องแลกมาด้วยความจริงใจ หาได้ใช่จากเงินตรา
*หากมีรักจงทำใจย่อมต้องเจอกับความทุกข์ หากมีสุขจงจำไว้ว่ามีทุกข์อยู่ข้างหน้า
*ศรัตรูที่เปิดเผยยังน่ากลัวเสียกว่ามิตรที่หลอกลวง
กวีเดินดิน