25 พฤษภาคม 2550 12:08 น.
กวีเงียบ
ลานกวี ย่อมมี คนเคยเศร้า
ย่อมมีเหงา เดียวดาย อยู่บ้างหนอ
บ้างมีรัก สลักใจ ไว้ถักทอ
บ้างก็ก่อ สานสัมพันธ์ ละลานตา
ลานกวี นี้ย่อมมี ความผิดพลาด
ความคำอาจ มิต้องใจ ของใครหนา
หากแม้นคำ อันย้ำ ย่ำอุรา
อย่าถือสา โกรธเคือง เรื่องผองชน
"ปลายตะวัน" เลือนแสง สิ้นแรงแล้ว
สูรย์วามแวว หลับไหล ในเวหน
คงลาลับ ดับไป จากใจชน
เป็นเพียงคน "กวีเงียบ" ผู้เยียบเย็น
25 พฤษภาคม 2550 11:22 น.
กวีเงียบ
เนื่องใน ฤทัยช้ำ
ตะละนำ มนาดูร
เพียงรัก บ่เกื้อกูล
กลพูน ทวีวาย
โอ้อก ระทกร่ำ
อุระช้ำ บ่ห่างหาย
เว้าวาร มลายคลาย
ก็บ่วาย จะวายทรวง
ร้าวใด ณ.ใครทำ
อุระร่ำ ลุลามสรวง
พร่างพราว ณ.ดาวดวง
จะถามทวง ณ.ใครกัน
ใจเรา มิใช่หรือ
ก็ริดื้อ และดึงดัน
อกจึง ระทกสั่น
ก็ใครกัน นะรั้นเอง
24 พฤษภาคม 2550 23:12 น.
กวีเงียบ
ใจงาม ความเรียบง่าย
คืองามใจ สะอาดหนอ
เพียงใจ ฤาเพียงพอ
จงสานส่อ แสดงชน
คนใด หรือใครผู้
ชนย่อมรู้ ไม่สับสน
ด้วยการ สำแดงตน
พิลาสล้น หรือหม่นมัว
แม้นใจ ใสสะอาด
ย่อมพิลาส แลเห็นทั่ว
สะอาดใจ สะอาดตัว
มิเกลือกกลั้ว มั่วปลักตรม
24 พฤษภาคม 2550 21:26 น.
กวีเงียบ
โอ้อัสสุชลริน
มนสิ้น ละซึ่งหวัง
จอมไท้ ธ.ทรงรั้ง
สติตั้ง ณ.ใจตน
เตือนคน ลุกลหมาย
หฤทัย บ่สับสน
รู้แจ้ง มโนชน
ก็จะพ้น ลุกลความ
อันเนื่องมาจากวันที่ 24 พฤษภาคม 2550
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาท
พระราชทานแก่คณะศาลปกครอง
ความตอนหนึ่ง ทรงย้ำให้
เผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายที่ถูกต้องแก่ประชาชน
เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ตลอดจนยังทรงย้ำให้
ผู้ที่เป็นผู้พิพากษาจะต้องรู้จักตัดสินความด้วยความถูกต้อง
ด้วยความสามารถสูงสุด
24 พฤษภาคม 2550 19:46 น.
กวีเงียบ
อันเนื่อง ณ.เรื่องราว
มนร้าว และสับสน
เงียบเหงา ณ.ท่ามคน
อุระท้น ฤาทนใจ
คำคน ระคนค่า
หทยา ก็หวามไหว
จึงนิ่ง ณ.ท่ามใคร
ณ.เนตรนัยน์ บ่ปรายชม