16 มีนาคม 2551 18:05 น.

ในสุบินกลางคิมหันต์

กวีอราสุ

ยินบรรเลงเพลงจักจั่นสนั่นดัง
แสนไพเราะประเหมาะฟังระฆังป่า
ระงมมาเคล้าระหงิ่งซ่อนกิ่งหญ้า
ลั่นหาวคราสะท้อนรับสดับคุ้น

เชื้อชวนโอบอุ่นอิ่มของคิมหันต์
ฟังผกาพร่ำจำนรรจ์กับไออุ่น
มีเมฆาเคลื่อนคล้อยลอยละมุน
ปอยปุยนุ่นล้อเล่นละหารธาร

ว่าวละลิ่วปลิวไปที่ปลายฟ้า
เด็กน้อยหัวเราะร่าคว้าสายป่าน
ข้าวนาปรังเริงรำอย่างสำราญ
อ้อยคำนับกราบกรานกับปฐพี

ในเย็นลมริมนาของหน้าร้อน
หนุ่มล้มหนุนตักนอนนวลฉวี
เหนื่อยจากท่งประจงตักวักวารี
ล้างคราบร้อนแรงรวีให้ลี้เลือน

สุริยะพระชักยานผ่านขอบหาว
ปรากฏดาวขึ้นพลันมิผันเผือน
เข้าล้อมวงลงส่องมองเสี้ยวเดือน
ณ ชานเรือนร่วมขานลำนำขับ

เมื่อม่านค่ำย่ำทุ่มมาคลุมหล้า
จักจั่นเซาเสียงซ่าคล้ายพาหลับ
กลับจิ้งหรีดมาดีดสีนดนตรีรับ
นิทรากลับสดับยินสุบินตื่น				
13 มีนาคม 2551 22:18 น.

กวีหรือที่นิรันด์

กวีอราสุ

เธอร่ำไห้เมื่อได้ฟังแว่วกวี
"ใบไม้ทั่วปฐพีวิโยคครวญ"
เธอแย้มยวนยิ้มพริ้มสรวล
กวีว่า"บุปผาชวนภมรชม"

แผ่กายใต้แสงเดือนตาวัน
หริ่งหรีดเสียงพร่ำกวีผสม
"น้ำค้างละเบงเพลงระงม
สีสันอุษาโฉมระบายหาว"

ควงแขนเดินคล้องมาลัยพจี
เพลงกวีบรรเลงแด่หนุ่มสาว
ซึ้งสีสรรค์พรรณแพรวพราว
ชีพเราประดับวิจิตรศิลปิน

"ข้ามฟ้าเพื่อมาพลัดพราก"
เธอบอกฟ้าฤาห้ามจิตถวิล
"อย่าหลงงมงายกับศิลปิน"
เจ้ายืนยันทุกทินจินต์มิราง

ถาม"รักหรือกวีที่อนันต์"?
เธอตอบ"สิ่งสรรพมิบัญญัติสร้าง
เราเลือกเดินเองทุกหนทาง
ฉันทลักษณ์มิอ้างมาตราใด"

รินน้ำตาเมื่อผ่านอักษรโศก
ล้วนวิปโยคพบสุขซ่อนสิ้นไห้
ทั่วโลกเคลื่อนไหวตามหทัย
ยามใดเรารำพันวรรณกรรม

ไม่ว่าแห่งหนใดในธาตรี
จากอวิจีถึงสุดสรวงสวรรค์
เพียงเสี้ยววินาทีถึงนิรันดร์
ฟังสิ... กวีนั้นซ่อนสายลม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีอราสุ
Lovings  กวีอราสุ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีอราสุ
Lovings  กวีอราสุ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีอราสุ
Lovings  กวีอราสุ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีอราสุ