28 พฤษภาคม 2547 10:30 น.

ผิดไหม ตอนอวสาน

กวีบ้านไร่

นับจากวันนั้นเป็นต้นมาผมกับหน่อยก็แทบจะไม่ค่อยได้มองหน้ากันเท่าไหร่ วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใส อากาศอบอุ่น เหล่าแมงปอ และหมู่ผีเสื้อหลากสียังคงบินวนรอบๆ ท้องฟ้าราวกับการเต้นระบำยังไงยังงั้น แต่ภายใต้ต้นกาสะลอง(ดอกปีบ) ที่ส่งกลิ่นหอมตลอดปี ผมยังคงนั่งทบทวนความผิดของตัวเองอยู่ตลอดมา ภาพที่ผมเห็นในขณะนั้นมันเหมือนมนต์ตราที่ตราตรึงให้ผมนะจังงัง ทำอะไรไม่ถูก เพราะหน่อยได้นั่งคุยหยอกล้อกระนุ่งกระนิงกับ นิสิตทันตแพทย์รุ่นเดียวกัน จิตใจผมตอนนั้นไม่รู้เป็นไง ทำอะไรไม่ถูก เหมือนไม่พอใจภาพที่เห็นมากเลย ผมจึงเดินออกไปจากที่แห่งนั้นโดยเร็ว
         หลังจากที่เราเรียนจบแล้วต่างคนต่างไปทำงานใช้ทุนในภูมิลำเนาของตัวเอง ผมกับเธอก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย วันนี้ผมไม่รู้เป็นไงคิดถึงหน่อยตลอดมา ผมจึงหยิบจดหมายอีกหนึ่งฉบับที่เขียนไว้เพื่อขอคืนดีกับหน่อย แต่มันคงสายเกินไป เพราะผมไม่อยากทำลายหน่อยอีกครั้ง และไม่ต้องการให้ดอกรักของหน่อยและทันตแพทย์ คนนั้นต้องชอกช้ำเพราะคนเลวๆ อย่างผม อากาศวันนี้เงียบเหงามากผมค่อยๆ คลี่กระดาษความหนาเท่ากับกระดาษเอสี่ เขียนด้วยลายมือ เรียบเรียงเป็นระเบียบมาก  
*************************
ถึง  หน่อย
         จดหมายฉบับนี้ ที่ผมเขียนมาหาหน่อยนี่ใช่ว่าจะมาขอคืนดีหรือขอความเห็นใจแต่อย่างใด แต่เพียงเพื่อขออธิบายเหตุผลที่ผมได้ทำผิดกับหน่อยมาก   ผมได้ทบทวนความผิดของผม ที่ผมทำต่อหน่อยมาโดยตลอดมา หน่อยคงไม่รู้หรอก ว่าผมมีเหตุผลที่สำคัญที่จะต้องออกจากชีวิตรักของเราทั้งสองคน ทั้งที่ผมรักหน่อยมาก ผมไม่เคยรักใครมากเท่ากับหน่อยเลย หน่อยอาจจะมองว่าเป็นคำแก้ตัวยอดฮิตของผู้ชายทั่วไปก็ได้ แต่นี่คือคำสัจจริงของผม
         ผมมีเหตุผลบางอย่างที่ผมไม่ได้บอกให้หน่อยได้ล่วงรู้ในตอนนั้น ในตอนนั้นผมรู้สึกสับสน ทำอะไรไม่ถูกเลย ผมรู้สึกแย่มากเลย แต่ที่ผมทำไปทุกอย่างมีเหตุผลรองรับตลอดมา คือผมไม่อยากให้เราสองคนต้องถลำลึกไปมากกว่านี้  และผมก็รักหน่อยมากด้วย จึงยอมออกไปจากทางรักของเราสองคน ผมได้ทำผิดพลาดไว้ในอดีต เมื่อครั้งผมอยู่ ม.ปลาย ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง เราคบกันเป็นแฟนในตอนนั้น และเรื่องราวระหว่าผมกับเขาก็เกินเลยกว่าที่คิด ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างรับรู้เหตุผลซึ่งกันและกัน และได้ทำการหมั่นหมายเราสองคนไว้ว่าหากเรียนจบจะได้จัดงานแต่งงานกัน ซึ่งผมไม่ได้เต็มใจแต่อย่างไร เพียงเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า ผมคบกับเขานั้น ผมก็มีความสุขมากแต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ตั้งแต่ผมได้พบกับหน่อยและเมื่อคบกับหน่อยแล้ว ทำให้ผมไม่อยากจากหน่อยไป แต่พันธะของผมยังเป็นโซ่มาคล้องผมไว้ตลอดมา และผมจึงได้ตัดสินใจออกห่างจากหน่อยไปทั้งที่ผมไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเลย เพื่อจะได้เปิดทางให้หน่อยได้เจอคนที่ดีกว่าผม  
         หน่อยครับอย่าได้เสียใจ หรือเสียน้ำตาต่อคนเลวๆ อย่างผมเลย ผมมีค่าไม่มากพอที่จะทำให้หน่อยต้องเสียน้ำตาได้เลย 
                                                                                                        รักนะครับและจะไม่เคยลืมเลย
                                                                                                                              A
ปล.  ผมจะเก็บภาพแห่งความทรงจำเราไว้ตลอดไป
***************************************
         หลังจากผมได้เรียนจบแล้ว ผู้หญิงที่ผมหมั่นหมายไว้ เธอก็ได้พบรักใหม่ที่ดีและเขาทั้งสองคนก็มีโครงการที่จะใช้ชีตร่วมกันในไม่ช้านี้ ผมยินดีที่จะถอนหมั่นโดยไม่เรียกร้องอะไร ทำให้ผมเสียดายตลอดมาว่า หากผมคิดจะคบกับหน่อยเรื่อยมาผมคงไม่ว่าเปล่า เหมือนทุกวันนี้ และคำถามที่ผมยังถามตัวเองตลอดมาคือเราผิดด้วยหรือ กับสิ่งที่เราทำ?
         ตู๊ดดดดดดดดดดดด       ตู๊ดดดดดดดดดดดด  ผมสะดุ้งตืนจากพวังแห่งความคิด แล้วรีบรับโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงเรียกทันใด สวัสดีครับ ไม่ทราบผมกำลังคุยกับใครครับ       อ๋อคุณทิกิ  เหรอครับ				
27 พฤษภาคม 2547 10:54 น.

ผิดไหม

กวีบ้านไร่

ท่ามกลางสายลมที่ผิดแผ่วอยู่ข้างกายเลัดลอดผ่านมายังบ้านพักแพทย์ที่อยู่ไกลในชนบท ดูบรรยากาศวังเวงเงียบเหงาเพราะเงาไม้ที่ปกคลุมไปทั่ว แต่ยังมีเสียงเซ็งแซ่ ของเสียงผู้คนที่มาใช้บริการของโรงพยาบาลแห่งเดียวในเขตระแวกนั้น ยังคงชุลมุนอยู่ไม่ขาดหาย ส่วนสายฝนยังคงเรียงร้อยเป็นสายน้ำที่หยาดจากฟ้าอย่างช้าๆ เปรียบประดุจดังเป็นละอองน้ำที่พ่นไปทั่วแห่งนั้น ทำให้ผมอดใจไม่ได้ที่จะหยิบอ่านถ้อยคำในจดหมายเก่าๆ ที่ผมเก็บไว้ข้างกายเพื่อเตือนใจผมตลอดมา ภาพของผู้หญิงคนนั้นยังคงลอยวนเวียนอยู่ในใจของผมตลอดมา  แม้จะนานกี่ปีก็ตาม ผมจะไม่มีวันลืมอดีตที่ปวดร้าวสำหรับผม 
         เธอเป็นผู้หญิงร่างเล็ก ผิวสีไข่ นัยน์ตาที่น้ำตาล ไว้ผมยาวประบ่า มีลักยิ้มสองข้าง เราเป็นนิสิตแพทย์ด้วยกัน ผมรู้จักเธอตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่ง
         สวัสดีครับ  งานที่อาจารย์สั่งไว้เมื่อวานเสร็จหรือยังครับ  ผมเข้ามาทักเธอ และไม่รู้จะคิดหาคำพูดอะไรมาพูดคุยกับเธอ เพราะผมค่อนข้างเป็นเด็กเรียนคนหนึ่ง ไอ้เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร แต่ก็อดไม่ได้ที่เห็นเธอนั่งคนเดียวภายใต้ห้องสโลปที่กว้างใหญ่  อยู่คนเดียว แต่ความรู้สึกของผมตอนนั้นมันไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกสั่นไปทั่วร่างกาย แต่ผมก็พยายามข่มใจไว้  สักพักหนึ่ง เธอก็ค่อยๆ เงยหน้าหันมาทางผม แล้ว เบิกหน้าตาที่วิตกกังวนสักเรื่อง มาส่งยิ้มให้ผม
         ค่ะ เสร็จแล้วคะ แล้วคุณหล่ะค่ะ เป็นประโยคทองสำหรับผมทีเดียว หลังจากนั้นผมกับเธอก็พูดคุยกันอยู่นาน และเริ่มพูดจา พูดคุยกันมากขึ้น 
**********************************
         จนเวลาล่วงเลยไป นานถึง 2 ปี ความสัมพันธ์ที่สนิทสนม  และราวกั้นใจของผมก็เริ่มเปิดรับเธอด้วยความเข้าใจและอยากเป็นหุ้นส่วนของหัวใจเธอสักครึ่งก็ยังดี แต่ท่าทีที่เราสนิทสนมกันนี้ เป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ ในก๊วนของผมเลยทีเดียว และพวกเขาชอบแซวผมว่า เธอเป็นเงาผม มีเธอที่ไหนต้องมีผมที่นั้น 
         การคบกันในปีที่สองนี้เริ่มที่จะเปิดเผยมากขึ้น จากคำว่าเพื่อนก็พัฒนามาเป็นคนรู้ใจ ยังคงไร้อุปสรรคใดๆที่จะมากั้นขวางทางใจเราได้ หน่อยยังคงทำหน้าที่ของคำว่า แฟน ที่ดีของผมตลอดมา อย่างไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง เราคบกันด้วยความเข้าใจกัน และพูดคุยกันด้วยเหตุผล 
         ปีนี้เป็นปีที่สี่ ที่ผมกับเธอคบกันมา ผมกลับพบกับความลำบากใจอีกครั้งหนึ่งเมื่อผมตัดสินใจที่จะเลิกกับหน่อย วันนั้นผมนั่งเขียนจดหมายบอกเลิกหน่อย หลายฉบับบางฉบับเพียงแค่จดปากกาลงในกระดาษก็เขียนไม่ได้แล้ว และล้วผมก็ได้ฉบับที่ดีที่สุดส่งไปให้เธอ ถ้อยคำที่ผมจารึกลงไปในกระดาษบางๆ เพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่มันก็มากพอที่จะเป็นเชือกหรือมีดอันแหลมคมมารัดใจผมและเชือดเฉือนใจผมออกไปทีละนิดทีละนิด น้ำตาของผมก็รินไหลราวกับว่าน้ำเกลือที่หยดลงจากสาย แต่ผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีสำหรับผมตอนนี้ ผมหลบหน้าหน่อยไปหลายวัน และสังเกตเห็นท่าทีของหน่อยเริ่มที่จะวิตกกังวล นัยน์ตาเธอเศร้าผิดปกติที่ผมเคยเห็นมา ผมเดาได้เลยว่าเธอคงจะทุกข์ใจไม่น้อยกว่าผมแน่นอน แต่ภาพที่ผมเห็นนั้นมันไม่ทำให้ผมสะใจแต่อย่างไร แต่กลับทำให้ผมทรมานใจมากยิ่งขึ้น ห่วงเธอมากผมยอมรับกับใจผมในตอนนั้น
****************************
         หลังเลิกเรียนวันหนึ่ง ผมก็เร่งรีบที่จะเดินออกจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว เหมือนกับที่ผมทำอยู่ทุกวันตั้งแต่ที่ผมส่งจดหมายให้เธอ เพื่อที่จะหนีจากเธอให้เร็วที่สุด 
         เอ เอ หยุดก่อนเอ  มาคุยกันให้รู้เรื่อง      นี่นาย! หยุดก่อนได้ไหม!!!!!!!!!!!!!  เสียงนี้ก่อนนี่เห็นเย็นหวาน กลับเหมือนน้ำร้อนที่กำลังเดือดพุดๆ มารดลงแผลที่กำลังไหม้พุพอง หรือเหมือนโดนมีดที่ค่อยๆ จี้ใจผมทีละนิด และมันทรงซึ่งพลังอำนาจมากพอที่จะทำให้ผมหยุดอยู่กับที่ และค่อยๆหันไปมองต้นเสียงที่กำลังเรียกมา อ๋อ หน่อยนั้นเอง ผมคิดในใจ 
         เอ เอ เป็นอะไรไป เอทำอย่างนี้ทำไม เอบอกหน่อยได้ไหม หน่อยผิดอะไร เอจึงทำเย็นชากับหน่อยเช่นนี้ ถ้าหน่อยผิดหน่อยก็จะได้ขอโทษเอ เอรู้ไหมการที่เราไม่รู้ว่าเราทำผิดอะไรนี่มันทรมานมากแค่ไหน เอเคยคิดไหม เราไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จู่ๆ เอก็ออกมาห่างเราไปเฉยๆ อย่างนี้ แถมยังมีจดหมายบ้าๆ นี่ส่งมาให้เราด้วย ขอร้องล่ะเอ พูดอะไรหน่อยได้ไหม บอกให้หน่อยรู้ได้ไหม  หน่อยพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอ น้ำใสๆมันก็ไหลออกจากตาหน่อย ใบหน้าที่เคยสดใสของเธอกลับเป็นความทุกข์ที่แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด ผมจำได้ดีและไม่มีวันลืมไปจากใจผมเลย ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสบตาเธอที่น้ำกำลังล้นออกจากตาเธอ อยู่นาน ผมเลยหลบสายตาเธอและก้าวออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
         เอ สนุกมากไหม ที่เอทำอย่างนี้ ที่เอทำให้คนคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไรรู้สึกสับสนและพยายามทบทวนหาเหตุผลต่างๆ นานามาอธิบาย ก็ได้เราต่างคนต่างอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันจบแค่นี้ ตามความต้องการของเอ หน่อยจะไป!!!!!!!!!!!!!!!!  ประโยคนี้มันก้องในหูผมและซ้ำอย่างนี้สักร้อยครั้ง เหมือนกับมีค้อนปอนด์หรือก้อนหิน หรือมีคนผลักผมตกจากที่สูงลงมากระแทกกับพื้นที่แน่นหนา ผมเริ่มสั่นไปทั่วร่างกาย ระบบเลือดไหลไม่รู้ทิศทาง ทำให้ผมยอมเปิดปากที่จะเอ๋ยตอบโต้กลับไป
         หน่อยไม่ผิด ผมผิดเอง เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะครับ อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกันเหมือนก่อนเลยขอให้เราเป็นแค่เพื่อนกันนะครับ 
         หน่อยดีใจค่ะที่ เอไม่ได้เป็นบ้าใบ้ ที่เอพูดได้ ไม่ต้องบอกหรอกค่ะเรื่องนั้น เราต่างคนต่างอยู่ ทุกอย่างมันจบตั้งแต่วันนี้ นี่กระดาษเน่าๆ ของนาย ฉันจะถือว่าเราเป็นเพื่อนร่วมโลกกันค่ะ โชคดี!!!!!
********************!!!!!!!!!!!!!!! โปรดติดตามตอนต่อไป!!!!!!!!!!!!!*********************				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีบ้านไร่
Lovings  กวีบ้านไร่ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีบ้านไร่
Lovings  กวีบ้านไร่ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีบ้านไร่
Lovings  กวีบ้านไร่ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีบ้านไร่