26 กุมภาพันธ์ 2552 16:10 น.
กวีบ้านไร่
ไออุ่นของความคิดถึง ที่ส่งให้
เป็นเส้นไย ห่มใจให้ไม่เหงา
สายรักที่ส่งมาคล้อง ใจเรา
ยังคงเฝ้าห่วงไยกันและกัน
กำลังใจที่ส่งให้ วันนี้
เป็นนทีที่เลี้ยงใจ ให้ทอฝัน
เพราะความที่ห่างจากไกลกัน
รอคืนวันที่หวังได้ชื่นชม
ลมปีนี้ มีความเยือกเย็นมาก
ใจคิดอยากมีคู่ครองสุขสม
ห่มอุ่นรัก ห่อกายสู้สายลม
ทอรักพรม ห่มใจให้อุ่นทรวง
กวีบันไร่
คองโก อัฟฟริกา
๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
24 กุมภาพันธ์ 2552 21:52 น.
กวีบ้านไร่
เหนื่อยไหมคนดี วันนี้เธอเหนื่อยไหม
หากเหนื่อยหนัก พักบ้างนะเจ้าของใจ
คนห่วงไยคอยห่วงเธอ ทุกเวลา
กลับมาคืนนี้ เหนื่อยหนักก็พักบ้าง
หลับตาเติมพลัง ฟังเสียงลมพัดมา
ฟังดีดีนะที่รัก อาจได้ยินเสียงคนทักส่งหา
คิดถึงเธอทุกเวลา อย่าลืมคิดถึงกันนะคนดี
หิวไหม วันนี้เธอหิวไหม
ข้าวผัดรัก แกงความห่วงไย ที่ส่งให้นี้
กินเยอะ เยอะนะคนดี
ฉันคนนี้ปรุงขึ้นเพื่อเธอ คนเดียว
กินอิ่มแล้วพักหลับตามให้นอนหลับ
ฉันจะจับมือเธอ ไปเดินเที่ยว
ท่องฟ้ายามนิทรา จูงก้อยเกี่ยว
เหลี่ยวมอง ไม้ริมไหล่ทาง
ความห่าง ไม่เคยมีอุปสรรค
ความรักไม่เคยที่จะร้างห่าง
ความห่างไกลใจไม่เปลี่ยนตามระยะทาง
ทุกทุกอย่าง ลงตัวเพราะความเชื่อใจกัน
วันนี้รักเธอ เฉกเช่นวันที่ผ่านมา
ยังคงเส้นคงวา ไม่แปรผัน
ไม่มากกว่าไม่น้อยกว่าทุกทุกวัน
และไม่หวั่นไหวตามเส้นทางที่ลิขิตมา
กวีบ้านไร่
คองโก อัฟฟริกา
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
20 กุมภาพันธ์ 2552 15:10 น.
กวีบ้านไร่
ขอบคุณครับ
พรวันเกิดได้รับ จากผองเพื่อน
ที่วนเวียรครบรอบ อีกครั้งหน
ประสาทพร ส่งให้สุข สุขดาลดล
จากทุกคนยังซึ้ง ตราตรึงซึ้งในใจ
ในวันเกิดปีนี้ พรได้รับ
ลูกได้จับ ร้อยเรียง กังวานใส
ส่งให้แม่ ให้พ่อ อยู่แดนไทย
ขอบคุณใน บุญคุณเลี้ยงดูมา
ค่าของพร พรที่ได้ ในวันนี้
โปรดจงมี ประสิทธิ ไปส่งหา
คลุ้มภัยพ่อ ดูแลแม่ตลอดเวลา
ภัยอย่ามาใกล้แม่พ่อ ขอวิงวอน
ขอบคุณพ่อ ขอบคุณแม่ให้ลูกเกิด
ถือกำเนิดเกิดมา พร่ำสั่งสอน
เลี้ยงดูลูก ผูกรัก ไม่แคลนคลอน
แม้ลูกจร จากไกล ใจส่งมา
ค่าคำสอนที่พร่ำสั่ง ยังคงซึ้ง
เปรียบประหนึ่งเงินทอง ของมีค่า
ทั้งโอกาส เงินทอง และวิชา
ที่มีมาเพราะแม่พ่อ คอยดูแล
วันเกิดลูกปีนี้ขอให้แม่ ให้พ่อมีสุขภาพแข็งแรง
เป็นแสง เป็นโพธิ์ ทอง คลุ้มครองผองภัยให้ลูก
รักที่ผูกพันธ์ ผูกฝัน ฝั่นเป็นสาย จากใจลูก
ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณครับแม่ที่ให้ชีวิตลูก
กวีบ้านไร่
คองโก อัฟฟริกา
๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
19 กุมภาพันธ์ 2552 21:28 น.
กวีบ้านไร่
นั่งมองฟ้า ตามองดาว ที่แพรวแสง
ระยับแจ้ง แกล้งดวงตาด้วยวับใส
หรือเห็นตัวเรา ผู้เหงาที่แดนไกล
ดาว แกล้งใจ ให้ชื่น ได้ชื่นชม
นั่งฟังลม ลมผ่านพัด พัดโชยโบก
แกล้งกันโชก โบกใจให้ขื่นขม
แกล้งให้หนาว พัดใจ ให้ระทม
แกล้งให้ลม พัดหวน คร่ำครวญใจ
จึงได้นอนเอนกาย ก่ายกองหญ้า
มองบนฟ้า เห็นดารา สวยสุกใส
จึงร้องบอกฝากฟ้าส่งความไป
สุดดวงใจ ฉันให้ แต่เธอ
กวีบ้านไร่
คองโก อัฟฟรกา
๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
19 กุมภาพันธ์ 2552 01:24 น.
กวีบ้านไร่
คำสอนของหลวงปู่ฯ ตอนที่๒
@ กลางไพรี ที่แสนไกล ไปไม่ถึง
เปรียบดังหนึ่งใกล้ใจไปไม่เห็น
ยิ่งอยู่ห่างยิ่งรู้ ดูประเด็น
เห็นไม่รู้ รู้ไม่เห็น เป็นปรัชญา
@ อย่าหลงตน หลงตัวว่าอวดอ้าง
เก่งทุกอย่าง วางตัว ใหญ่ดั่งภูผา
คนเขาเก่ง ไม่พูดอวดวาจา
อวดวิชาคือนคนโง่ โอ้อวดตน
@ อีกคำพูด ควรสงวนอย่าพูดพร่ำ
สงวนคำ อย่าฟุ้มเฟือย จะขัดสน
เพราะวาจา พาเป็นดาบ คาบฆ่าตน
มีหลายคนจนตัว เพราะวจี
@ วาจานี้ ไม่มีแขน ไม่มีขา
หลุดออกมา ยากจะคืนมาเข้าที่
ก่อนจะพูดควรคิด ดูดีดี
ว่าควรที่จะพูด หรือ หยุดฟัง
@ อีกอย่างนั้นคือ ตัวตน ทั่วตนนี้
พักดูที มองมาหวน ดูกลับหลัง
ว่ารังแก เจ้าร่างกายเกือบจะพัง
ที่เหลือยัง หยุดอย่า มารังแก
@ เมื่อตริตรองมองดู อย่างท่านว่า
หวนเวลา กลับคืนช่างจริงแท้
เพราะตัวเรา เผาตัวตน ไม่สนแคร์
มารังแก ตัวเรา ด้วยเราเอง
@ รังแกหนึ่งหรือ คือกินเหล้า
เอาของเมาเข้าตัว มาข่มเหง
เมาจนอ๊วก โอ๊กอาก ไม่ยามเกรง
เป็นนักเลง พาตัวชั่วอัปรีย์
@ รังแกสองหรือ คืออยากได้
อยากมีใช้ มีอยากมีจ่าย พากู้หนี้
หากอยากได้ก็รูดบัตร รับทันที
แต่ที่มีคือหนี้สิน บันทอนใจ
@รังแกสามหรือ คือการพนัน
สนุกมัน ไม่รู้ตัว มัวซื้อฝัน
ทั้งไฮโล ไพ่ หวย ซวยทั้งนั้น
พอรู้ทันก็หมดตัว เพราะมัวเมา