28 มกราคม 2553 09:05 น.
กวีบ้านไร่
เสียงโทรศัพท์ จากคุณหญิงป้า
กล่าววาจา เสียงตื่น แถลงไข
ว่าเพื่อนรัก ของผมเขาจากไป
มัจจุราชไซร์ มาพรากจากโลกคน
ขอให้เจ้า ไปเถิดเพื่อนแก้ว
ชีพแตกแล้ว เพือนพ้อง ต่างสับสน
ว่าทำไม เจ้าด่วนจากเมืองคน
สารวน วุ่นวาย ไร้ทิศทาง
ตั้งสติ อีกครั้ง ครั้งรดน้ำศพ
ขอเจ้าพบ ภพภูมิ แดนฟ้าสาง
หมดสิ้นกรรม ที่เมืองคน เดินสุดทาง
ขอเจ้าวางปล่อยห่วง อย่าห่วงไย
ในชาตินี้ ดีใจที่เป็นเพื่อน
บางครั้งเตือน บางครั้งสุข ชื่นดวงไข
เพราะมีเพื่อน อย่างเจ้า คอยห่วงไย
ต่อนี้ไป ไร้กายเพื่อน มิไร้ใจ
ความคงอยู่ คือเพื่อน ตราตรึงจิต
ยามนิ่งคิด ถึงเธอ เสมอสมัย
จะตราตรึง ความรักของเพื่อนไว้
จงก้าวไป สู่สรวง ห้วงวิญญาณ
มอบแด่เพื่อนกวีบ้านไร่ ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
"น้องบอล"
27 มกราคม 2553 09:18 น.
กวีบ้านไร่
เมื่อสายฟ้าผ่าเสียดดวงใจเพื่อน
บอกคำเตือนเรื่องหัวใจให้คิดหา
หนทางเดิน ที่พลาดพลั้ง เกิดขึ้นมา
ก็เพราะว่าดวงใจไม่รักดี
ก็งี้แหละเพื่อนรัก
เธอจักได้รู้รสชาด หอมหวานนี้
หลงเสพย์พิษรักปักษ์ฤดี
เกินกว่าที่จะถอนใจ ให้หายพลัน
เธอเอาชีวิตเธอแขวนไว้ใต้เท้าเขา
พอไร้เงา ก็ระทม ตรมใจนั้น
หากเธอคิด ว่าสิ่งที่สุมกัลย์
คือคืนวันที่หลอมหล่อให้เติบโต
เข้มแข็งเพื่อน จงเข้มแข็ง
หอบเอาแรงเฮือกชีวิต มาเสโส
ลุกขึ้นเพื่อน ลุกขึ้น มาคุยโว
แล้วอวดโอ้ ความเป็นคน ปลุกขึ้นมา
น้ำตาเพื่อนไหลไปให้สุดสิ้น
ฝังลงดิน อย่าได้หมอง ให้หรรษา
จงยิ้มสู้ กับแผลใจที่ได้มา
อย่าต่อว่าตนเองให้ช้ำใจ
หลายคนคอยห่วงเธอ และคอยรัก
เพียงเอียงพักตร์ก็เจอ มิตรที่ห่วงไข
มีพ่อแม่ พี่น้องและพงษ์ไพร
คอยห่วงไย ในตัวเธอ เสมอมา
สู้ ครับ สู้ ต่อสู้นะเพื่อนรัก
พักครับเพื่อนพักใจ เพื่อรักษา
สู้ครับเพื่อน เธอจงสู้กับเวลา
ลุกขึ้นมา เพื่อนเอ๋ย จงก้าวเดิน
กวีบ้านไร่ ตั้งใจแต่งเพื่อปลอบใจเพื่อนรักที่กำลังถูกหักอก ครับ
16 มกราคม 2553 11:53 น.
กวีบ้านไร่
จะหยิบยกบทเพลง ขึ้นกล่าวขาน
ถึงตำนาน คุณครู ผู้สั่งสอน
หยิบเริ่งร่าย ก่ายกาพย์เป็นบทกลอน
ในทุกตอน เพราะสำนึกพระคุณครู
เพลงวงค์จันทร์ ไพโรจน์เคยขับร้อง
ให้ทำนองเพลงครูให้รับรู้
ถึงชีวิต อันอดทนของคุณครู
ส่งให้รู้ พระคุณที่คงประเทือง
แสงเรืองเรืองที่ส่องประเทืองอยู่ทั่วเมืองไทย
คือแม่พิมพ์อันน้อยใหญ่
โอ้ครูไทยในแดนแหลมทอง
เหนื่อยยากอย่างไรไม่เคยบ่นไปให้ใครเขามอง
ครูนั้นยังลำพองในเกียรติของตนเสมอมา
ที่ทำงานช่างสุดกันดารในป่าดงไพร
ถึงจะไกลก็เหมือนใกล้ เร่งรุดไปให้ทันเวลา
กลับบ้านไม่ทันบางวันต้องไปอาศัยหลวงตา
ครอบครัวคอยท่าไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน
ถึงโรงเรียนก็เจียนจะสายจวนได้เวลา
เห็นศิษย์รออยู่พร้อมหน้า ต้องรีบมาทำการสอน
ไม่มีเวลาที่จะได้มาหยุดพอพักผ่อน
โรงเรียนในดงป่าดอนให้โหยอ่อนสะท้อนอุรา
ชื่อของครูฟังดูก็หรูชวนชื่นใจ
งานที่ทำก็ยิ่งใหญ่ สร้างชาติไทยให้วัฒนา
ฐานะของครูใครๆก็รู้ว่าด้อยหนักหนา
ยังสู้ทนอุตส่าห์สั่งสอนศิษย์มาเป็นหลายปี
นี่แหละครูที่ให้ความรู้อยู่รอบเมืองไทย
หวังสิ่งเดียวคือขอให้ เด็กของไทยในผืนธานี
ได้มีความรู้เพื่อช่วยเชิดชูไทยให้ผ่องศรี
ครูก็ภูมิใจที่สมความเหนื่อยยากตรากตรำมา
จะกี่คนที่รับรู้ถึงครูท่าน
จากวันนั้นถึงวันนี้ เคยเอ่ยหา
ถึงพระคุณ คุณครูบูรพา
ศิษย์กล่าวมาด้วยสำนึกถึงพระคุณครู
ชีวิตหดหู่ ครูประชาบาล เปรียบเรือโดยสาร
เหมือนสะพาน หนอชีวิตครู สอนเด็กให้เรียนดี
พากเพียรให้มีความรู้ ใครบ้างที่เห็นใจครู
มาดู.ครูประชาบาล บางครั้งครูว่า ก็หาว่าร้าย
ถูกสั่งให้ย้าย ย้ายไปในกันดาร ลำบากเพียงใด
ใกล้ไกล.แสนทรมาน ตั้งใจต้องไปเพื่องาน
ต้องการสอนเด็กให้ดี
นี่แหละหนา เกิดมาเป็นครูสอนคน
แต่บ้างคน ข้ามตนเป็นครูเสียนี่
ไม่บูชาแล้ว ยังกลับมาย่ำยี
ถึงศิษย์จะไม่ปราณี แต่ครูนี้ยัง มีเมตตา
ถึงใครลบหลู่ โถครูอย่างเรา
ตื่นนอนตอนเช้า ก็เฝ้าแต่สอนวิชา
เหน็ดเหนื่อยเพียงใด ใกล้ไกลครูไม่เคยว่า
ขอเพียงให้มีวิชา
คือปรารถนา.ของครู
กวีบ้านไร่ขอหยิบเอาเนื้อหาเพลง ครูมาเศียรวาท ด้วยนำนึกพระคุณครูครับ
14 มกราคม 2553 12:47 น.
กวีบ้านไร่
แสงรัศมีแห่งศัทธาที่มาถึง
เป็นดังหนึ่งแสงทองส่องไสว
บัณฑิตรั้วเขียวทองผ่องอำไพ
สุโขทัย เพาะกล้าวิชาการ
นานหลายรุ่น เพาะบ่มมวลไม้ดอก
ที่นำออกอวดสังคม ชมขับขาน
ถึงความสวย รวยชาติพฤกษากาล
ที่ยิ่งบ่มนานยิ่งหอม ศาสตร์วิชา
มาปีนี้มีบัณฑิต อีกแล้วนี่
เราน้องพี่สุโขทัย ต่างหรรษา
เห็นเพื่อนพ้อง สำเร็จกันออกมา
นำศาสตราพัฒนา ประเทศไทย
ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องสุขโขทัย นะครับ
จาก บัณฑิต มสธ. รุ่น ๒๔
12 ธันวาคม 2552 14:39 น.
กวีบ้านไร่
ตื่นนอนล้างหน้า
มีใครหว่าคอยหุงหาอาหาร
กินข้าวแล้วรีบไปทำงาน
แล้วที่บ้านมีใครคอยห่วงไย
ในสมองหลากหลายเรื่อง
ใจขุ่นเคือง เมื่อไม่ผ่องใส
แล้วอ้อมกอดรักอุ่นไอ
คอยปลอบใจ ใครเล่าคอยรับฟัง
เงินเดือนออกหลายบาท
ไม่เคยพลาดเรื่องราวสรรค์สัง
แต่มีใครหนึ่งคน คอยข่าวฟัง
ที่เรายังไม่กลับบ้าน ในค่ำคืน
เอ็มเค เคเอฟซี ที่อ่อนนุ่ม
เสียงกระอุ่ม ในใจ ไม่เคืองขืน
รสน้ำจิ้ม อะหร่อยล้ำในค่ำคืน
คนที่ยืนคอยเจ้า เขากินเกลือ
วันเกิดเพื่อนทั้งดอกไม้ และของขวัญ
เพลงกล่อมกัน สุขล้นเหลือ
แต่วันวันเกิดของคนที่กินเกลือ
น่าเหลือเชื่อที่เราไม่เคยจำ
กวีบ้านไร่
ประเทศไทย