4 มีนาคม 2553 16:37 น.
กวีบ้านไร่
เมื่อคำดี มีค่าพ่อแม่สอน
ครั้งเมื่อตอนเป็นเด็กน้อยด้อยศึกษา
อย่าทำชั่ว ให้ทำดี ดีจะมา
ส่งนำพาให้สุข อยู่ร่มเย็น
ฉันเริ่มงง เห็นคนดี มีที่ไหน
ทนอยู่ได้ กับความจน ที่ทนเห็น
มองดูชั่ว ได้ดี จนอยากเป็น
สิ่งที่เห็น คนทำดี มีน้อยลง
เพราะสังคมเชิดชู คนรวยล้น
จนยากจน ใครจะมอง ให้เทียมหงส์
เพราะสังคมขีดค่าเงิน ที่มั่นคง
ความซื่อตรงจึงหาย เพราะเงินตรา
การศึกษาสอนคนให้เก่งกาจ
เด็กฉลาดชาติ จึงมากวาสนา
มิได้เห็น ใคทำดี มีเงินตรา
รวยกันมา เพราะคดโกง คงตามกัน
ย้อนดูเด็ก ในอดีต นั้นดีหมด
โตมาคดโกงกัน ปั้นเสกสรร
เส้งทำดี เชิดชูค่าอย่างรู้กัน
แต่คืนวันหวนคืน จึงได้ดู
ขึ้นอยู่ว่า ใครมีอำนาจขณะนี้
ด้อยก็มี ไพรี ซ้ำน่าอดสู
แท้ที่จริง เป็นไงก็รู้อยู่
อย่าเข้ารู้ อิเหนา เขาเป็นเอง
แกล้งเปิดแผลคนอื่นดูเวอะวะ
ดูเองหล่ะ น่าแขยง คนข่มเหง
ว่าแต่เขา เรากลับมาเป็นเอง
แล้วแอบเบ่ง ว่าตนดี กว่าทุกคน
+++++++++++
3 มีนาคม 2553 08:29 น.
กวีบ้านไร่
กับความงามบทกลอนที่ริเริ่ม
ค่อยแต่งเติมเสริมคำหมั่นฝึกฝน
วางร้อยเรียงจัดเกณฑ์และอดทน
หวังเป็นคนเก่งกาจฉกาจกลอน
หยดน้ำคำนำความคิดเขียนผิดถูก
เปรียบดังลูกคนเล็กยังต้องสอน
วางสระสัมผัสนอกบอกเป็นกลอน
คำอักษรผิดพลาดบ้างอย่าดูแคลน
คำกวีมีค่าเกิดกล่าวอ้าง
กวีสร้างความงามตามแบบแผน
สุนทรียจึงเกิดอ้างวางเป็นแกน
ตามแบบแผนครรลองแห่งความงาม
เพราะความรู้ยังน้อยจึงหัดแต่ง
โปรดอย่าแกล้งลองภูมิมาไตร่ถาม
เพราะที่จริงยังไม่ชำนาญนาม
กับความงามของครูกลอนที่เกิดมา
เปรียบดังแสงระวีที่แรงน้อย
แต่ยังคอยส่องทางมากคุณค่า
จึงขอวอนครูกลอนโปรดเมตตา
ขอเวลาศิษย์บ้างอย่าดูแคลน
เราใช่เป็น นักกวีมืออาชีพ
แต่ที่กลีบเรียงอักษร เพราะหวงแหน
อยากเรียนรู้ กับค่าที่หาย มาทดแทน
อย่าดูแคลน พวกเราชาวบ้านกลอน
++++
2 มีนาคม 2553 18:05 น.
กวีบ้านไร่
หัวใจ เอย ไยจึงเต้นระรัวนัก
เมื่อพบพักตร นารถน้อง ต้องสั่นไหว
กระอุ่มยิ้ม กระอิ่มเอม เต็มทั้งใจ
ยิ่งอยู่ใกล้ ใจนี้ยิ่งระรัว
พอเข้านอน ก็แอบยิ้มปริมทั้งแก้ม
ภาพยิ้มแย้ม นวลน้อง อยู่ในหัว
อยากจะลุก อยากจะนอน ไร้ตนตัว
ใจระรัว เมื่อคิดถึง คนึงนาง
จึงกอดหมอน แทนนอนกับนวลน้อง
หลับตามอง ภาพน้อง ไม่เหินห่าง
หายใจเข้า หายใจออก มีนวลนาง
แล้วค่อยวาง ความคิดถึงในฝันเรา
1 มีนาคม 2553 17:37 น.
กวีบ้านไร่
เมื่อหัวใจ แห่งรัก แผ่อานุภาพ
ใจเริ่มทราบ ความในใจที่ใฝ่ฝัน
เห็นเพียงรัก ที่บังตา มาเคียงกัน
จนใจนั้นเริ่มสั้นให้เต้นรัว
ราวกับใจ จะหลุดกระเด็นออกร่าง
จนเริ่มวางความนิ่งเฉย เผยในหัว
กระอุ้มยิ้ม อิ่มเอม เย็นทั้งตัว
หมดความกลัว ที่จะเดิน ข้างข้างเธอ
แต่เมื่อห่างก็เริ่มเหงา เข้าจับจิต
หลากความคิด มากความฝั่นมาเสมอ
บ้างก็รัก บ้างระแวง ในตัวเธอ
บ้างอยากเจอ บ้างสับสนจนวุ่นวาย
ก็ข่มใจ ให้คิดถึงผิดชอบ
ได้คำตอบ จากเรื่องรัก ทอความหมาย
อาจมีบ้าง เพลอคิดจะนอกกาย
ที่กลับมาได้ เพราะรักที่เข้าใจ
อย่างนี้หล่ะเรื่องหัวใจ มันเข้าใจยาก
จนฉันอยาก ล่วงเข้าในใจให้-
รู้หมดเปลือกกับห้วงลึกถึงภายใน
แต่ที่รักได้ เพราะเชื่อใจในตัวเธอ
รักนะคนดี
26 กุมภาพันธ์ 2553 21:38 น.
กวีบ้านไร่
ดวงดาวที่เคียงเดือน คงเหงาเหมือนเราไหม
ดาวน้อยแอบร้องไห้ เดือนไยไม่เหลี่ยวมอง
หรือเดือนมีเพื่อนใหม่ จึงทำให้ดาวต้องหมอง
หรือเดือนไม่เหลี่ยวมอง ดวงดาวน้อยที่คอยรอ
คืนวันที่หนาวเหน็บ ดาวเริ่มเจ็บใจเริ่มขอ
เดือนเจ้าข้าเฝ้ารอ เห็นใจหนอดาวรอคอย
น้ำตาที่ดาวล่วง ใจที่ห่วงจากดาวน้อย
ลมหรือที่เดือนคอย ที่แวะเล่นในค่ำคืน
ความไกลที่ใกล้จิต ดาวเริ่มคิดที่ฝืนฝืน
แต่รักที่ยั่งยืน ยังเป็นหนึ่งในใจดาว
เชื่อมั่นใจความรัก แม้ลมทักให้เหน็บหนาว
แต่รักที่ห่มดาว เป็นผ้าห่มให้ใจเย็น