2 กรกฎาคม 2552 23:06 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
ขอกล่าวลำนำ คำสาธยาย ก่อนร่ายมนตร์ เอ๊ย ผิดคิว ก่อนร่ายเวทย์ เอ้า นั่นไปใหญ่ ก่อนร่ายรำ (ชักกะตุ้งกะติ้งนะเรา ) ก่อนร่ายกลอน แบบบ้านๆ อ่ะครับ ยอมรับ ว่าแต่งไม่ค่อยโดนใจคนแต่ง ก็ว่ากันไป คิดได้แค่นี้ อิอิ
1 นี่นี่หรือ เขาลือร่ำ คำว่ารัก
ช่างชวนชัก ชี้ช่อง ดั่งมองหา
ช่างเล่นลิ้น ปลิ้นปลอก เย้าหยอกตา
ช่างโสภา ภิรมย์รื่น ชื่นหทัย
2 เปรียบธารา เรื่อยไหล นิ่งไหวลึก
เปรียบม้าคึก คะนองมัน เกินรั้นไหว
เปรยบแสงจันทร์ จำเริสล่อง ส่องอำไพ
เปรียบสุไรย์ เเรงฤทธิ์ มหิทธา
3 เปรียบพระพาย พลัดพลิ้ว ละลิ่วล่อง
เปรียบทุ่มท่อง ทั่วสวรรค์ แสนหรรษา
เปรียบอัคคี ทวีเผา เหล่าพนา
เปรียบสุรา พามึนเมา ทุกเช้าเย็น
4 จะปานเปรียบ เทียบสิ่งใด มิได้สุด
เกินคิดขุด รจนา มาให้เห็น
หากความรัก มีริ้วร้าว เข้าลำเค็ญ
คงเปรียบเป็น เช่นสิงห์เสือ เหนือต่อกร
5 หากว่ารัก เรื่อยไหล ดั่งสายน้ำ
คงชุ่มฉ่ำ พร่ำเพรียก เรียกอัปสร
หากยามรัก แรงร้าย หมายตัดรอน
คงอุทธรณ์ ศาลฏีกา ว่ารักเธอ
6 ณ ยามรัก รอใคร ใจแสนสุข
ดั่งกระปุก ออมจิต คิดเสนอ
ว่าคิดถึง รำพึงหา เพียงหน้าเธอ
เช้าอยากเจอ เย็นอยากพบ คบ..คนดี
7 หรือหากรัก หลอก-หลอก บอกให้หลง
เหมือนเดินดง หลงทางทิศ ผิดวิถี
ต้องระกำ ช้ำหนาว ร้าวฤดี
จนกว่ามี เทพีฟ้า มาล้างใจ
8 นี่น่ะหรือ คือคำร้อง ทำนองรัก
จะประจักษ์ ในจิต คิดไฉน
ยามเข้ามา หรือคราออก บอกทางใด
แล้วแต่ใคร คิดออก บอกข้อย...แน่ เอ๊อะ เอ่อ เอ้อออ เด้ออ
ออกแนวติ๊งต๊อง ไปหน่อย นานๆ มั่วที อิอิ