30 กรกฎาคม 2552 07:47 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
ฤา สิ้นรักร้างเล่ห์สิเน่หา
ผิมายาหัวใจเพียงใฝ่ฝัน
จวบพ้นเดือนเชือนเฉยเคยสัมพันธ์
แท้นิรันดร์ร้างไร้หวังได้ครอง
ฤา บุพเพพ่ายบุญมาหนุนเกื้อ
จึงคงเหลือเศษซ้ำฟ้าร่ำร้อง
ตกสวรรค์วันลาน้ำตานอง
เมฆไหลล่องลดต่ำกระหน่ำใจ
ฤา ทางรักหักกลบพบทางร้าง
ผิแผ้วถางวิถีวิธีไหน
ถึงป่าเขาเหล่าพนาแม้นว่าไพร
มีดพร้าใหญ่แผ้วถางพบทางเดิน
ฤา ทางใจไร้เส้นจึงเว้นว่าง
ทุกก้าวย่างเหยียบไปใจสะเทิ้น
ไร้ชีวิตทิศทางระหว่างเดิน
น่ากลัวเกินสิ่งสรรค์มาบรรยาย
ฤา สิ้นไร้สิเน่หาด้วยอาภัพ
ฟ้าประดับดวงดาวพราวสยาย
เราเอกาเดี่ยวโดดเหมือนโทษตาย
ขังแม้กายใจสลายมิคลายตรม
ฤา เวลาวารีไร้ที่กลับ
ไปลาลับล่วงลอยอกพลอยขม
เหม่อธาราฟ้ากว้างเคว้งคว้างคม
นึกนิยมธรรมชาติมาวาดวอน
ฤา ฤทัยนารีไร้ที่กลับ
ผิไปลับลิบหรี่โศกีถอน
อกสะอื้นกลื่นกล้ำพร่ำเพลงวอน
มิคลายคลอนฤทธิ์เพ้อละเมอรัก
ฤา ชะตาฟ้ากำหนดมีบทสร้าง
แต่ละอย่างยิ่งยวดปวดใจหนัก
ถึงหนาวลมห่มดินมิสินรัก
แอบหวังภักดิ์คู่ครองคู่ทองธรรม
24 กรกฎาคม 2552 22:15 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
เจ้าดอกหญ้างามแย้มแต้มต่างสี
สดขจีขาวนวลชวนใฝ่ฝัน
ทั้งหลากสีดีเด่นเน้นพงศ์พันธ์
ด้วยเจ้านั้นเกิดมาน่าภิรมย์
แม้นโลกหล้าธานินดินและฟ้า
ไม่เห็นค่าคู่ควรล้วนไม่สม
อ้างตำหนิติติงอิงโสมม
เปรียบโคลนตมต่ำต้อยน้อยควรมอง
ถึงใครใครไร้เหลียวแลแม้หยิบยก
เห็นสกปรกโสโครกโลกหม่นหมอง
แต่ตัวฉันฝันใฝ่หมายประคอง
ถือเป็นของสูงค่าบูชาดิน
เจ้าดอกเอ๋ยดอกหญ้าที่น่ารัก
ฉันพร้อมพรักถนอมน้อมถวิล
ให้สดสวยพราวพร่างแนวทางดิน
ไม่ต้องบินสูงฟ้าท้าตะวัน
เพียงแค่เป็นดอกหญ้าคราโลกร้าว
สีสกาวเหลืองส้มพรมไอฝัน
ขับโลกโศกฟื้นคืนชื่นชีวัน
หวังแบ่งปันสรรค์สร้างชี้ทางเดิน
กลิ่นดอกหญ้าหอมหวลมวลแมกไม้
สดไสวอาณาน่าสรรเสริญ
เป็นดอกดินดอกหญ้าน่าชมเพลิน
ไม่สูงเกินกว่าเอื้อมจนเหลื่อมล้ำ
ยามเจ้าเศร้ากล่าวแกล้งแสร้งทำสุข
เพื่อปลอบปลุกรอยยิ้มจนอิ่มหนำ
หากแท้คอยปรอยฝนหล่นพร่างพรำ
กลับยอมทำเฉกเช่นเป็นสำราญ
เพราะไอดินกลิ่นล้วนชวนหลงไหล
กลิ่นดวงใจแกร่งกล้าน่ากล่าวขาน
เจ้ายืนหยัดมั่นแท้แด่อุดมการณ์
ดอกเบ่งบานดอกหญ้าพาโลกงาม...
11 กรกฎาคม 2552 23:51 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
อาจขาดใจตาย / เสถียร ทำมือดนตรี:Em/D/C/B Em/D/B/Em
G/D/B/Em B Em G
Emเธอใช้คำว่ามาทำไม ถามไถ่เมื่อเจอหน้ากัน B Emอยากบอกว่าฉัน น้อยใจทุกที ที่เคยได้ฟัง C D B Emอาจเป็นเพราะเธอไม่มีใจ เลยสร้างกำแพงขึ้นขวาง D Bm Em Emด้วยการทำให้เหินห่างแม้ทางสายตา G Em * คล้ายดังสายลมโง่เง่า ที่เฝ้าโยกคลอนภูผา D B B ทั้งรู้ทำไปก็เสียเวลา แต่ก็ทำอยู่อย่างนั้น Em G Am Em**ก็เพราะความรักอยู่เหนือเหตุผล คนทุกคนก็เป็นแบบนี้ C G Em Dแค่เดินผ่านเธอก็หลับฝันดี มันเป็นอย่างนี้มานาน G Em D Emถึงเวลาไม่ช่วยอะไรจะหอบใจมาเจอทุกวัน
จนกว่าเธอนั้นจะมอบหัวใจให้ใคร สักคนดนตรี:Em/G/Am/Em/C/G/Em/D G/Em/D/Em/DD/B Emซ้ำ * / **B Em D Emตั้งคำถามว่ามาทำไมจะตอบเธอให้รู้เหตุผล B Emคือคนหนึ่งคนอาจขาดใจตาย ถ้าไม่เห็นเธอ B Emคือคนหนึ่งคนอาจขาดใจตาย ถ้าไม่เห็นเธอดนตรี: D/C/B Em/D/C/B
สำหรับท่านไหน ยังไม่เคยดูมิวสิค ก็คลิกตามเวป เลยนะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=Q1oCsyBK0kQ
*เธอเอ่ยพร่ำ คำว่า มาทำไม
ทุกครั้งไป ที่พบ สบตาฉัน
คำทักทาย ร้ายแรง แทงใจกัน
ทุกทุกวัน น้อยใจ คราได้ฟัง
*คงเป็นเพราะ เธอไม่ มีใจมอบ
และมักชอบ สร้างกำแพง แข็งเกินหวัง
มาขั้นเขต ขอบใจ ไว้ปิดบัง
จ่อมภวังค์ ทางสายตา คราห่างไกล
*เปรียบคำคม ลมโง่เง่า เฝ้าย้ายโยก
พัดโบยโบก ภูผา หาทำไหว
ให้สั่นคลอน อ่อนยวบ ย่อยทลาย
ที่ทำไป เสียเวลา น่าขำจริง
*เพราะความรัก มักเหลือ หลากเหตุผล
คนทุกคน คงเป็น เช่นกล่าวอิง
เพียงเดินผ่าน กาลใด สุขใจจริง
แอบคะนิง ฝันหวาน กาลราตรี
*ทุ่มเวลา ปานใด ไม่อาจช่วย
ใจแหลกม้วย หมดแรง แห้งสุขี
หวังสักวัน วันหนึ่ง ซึ่งอาจมี
คนแสนดี ที่เธอรัก ฉันจักลา
*กับคำถาม ย้ำว่า มาทำไม
ตอบออกไป ว่าใจ ใฝ่ห่วงหา
คนคนนี้ มีรัก ภักดิ์บูชา
อาจมรณา ขาดใจ ไม่มีเธอ
*ร้อยคำถาม ย้ำว่า มาทำไม
ตอบครั้งใด ใจอาจ ขาดเสมอ
ณวันใด ไม่พบ สบตาเธอ
ฉันละเมอ เพ้อพลาด ขาดใจตาย
*โปรดอย่าถาม ย้ำย้ำ คำคำเดิม
เหมือนแรงเสริม หาญหัก รักสลาย
บอกอีกที ล้านที ไม่มีคลาย
ขาดใจตาย แน่แท้ แค่ไม่เจอ