11 กรกฎาคม 2552 23:51 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
อาจขาดใจตาย / เสถียร ทำมือดนตรี:Em/D/C/B Em/D/B/Em
G/D/B/Em B Em G
Emเธอใช้คำว่ามาทำไม ถามไถ่เมื่อเจอหน้ากัน B Emอยากบอกว่าฉัน น้อยใจทุกที ที่เคยได้ฟัง C D B Emอาจเป็นเพราะเธอไม่มีใจ เลยสร้างกำแพงขึ้นขวาง D Bm Em Emด้วยการทำให้เหินห่างแม้ทางสายตา G Em * คล้ายดังสายลมโง่เง่า ที่เฝ้าโยกคลอนภูผา D B B ทั้งรู้ทำไปก็เสียเวลา แต่ก็ทำอยู่อย่างนั้น Em G Am Em**ก็เพราะความรักอยู่เหนือเหตุผล คนทุกคนก็เป็นแบบนี้ C G Em Dแค่เดินผ่านเธอก็หลับฝันดี มันเป็นอย่างนี้มานาน G Em D Emถึงเวลาไม่ช่วยอะไรจะหอบใจมาเจอทุกวัน
จนกว่าเธอนั้นจะมอบหัวใจให้ใคร สักคนดนตรี:Em/G/Am/Em/C/G/Em/D G/Em/D/Em/DD/B Emซ้ำ * / **B Em D Emตั้งคำถามว่ามาทำไมจะตอบเธอให้รู้เหตุผล B Emคือคนหนึ่งคนอาจขาดใจตาย ถ้าไม่เห็นเธอ B Emคือคนหนึ่งคนอาจขาดใจตาย ถ้าไม่เห็นเธอดนตรี: D/C/B Em/D/C/B
สำหรับท่านไหน ยังไม่เคยดูมิวสิค ก็คลิกตามเวป เลยนะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=Q1oCsyBK0kQ
*เธอเอ่ยพร่ำ คำว่า มาทำไม
ทุกครั้งไป ที่พบ สบตาฉัน
คำทักทาย ร้ายแรง แทงใจกัน
ทุกทุกวัน น้อยใจ คราได้ฟัง
*คงเป็นเพราะ เธอไม่ มีใจมอบ
และมักชอบ สร้างกำแพง แข็งเกินหวัง
มาขั้นเขต ขอบใจ ไว้ปิดบัง
จ่อมภวังค์ ทางสายตา คราห่างไกล
*เปรียบคำคม ลมโง่เง่า เฝ้าย้ายโยก
พัดโบยโบก ภูผา หาทำไหว
ให้สั่นคลอน อ่อนยวบ ย่อยทลาย
ที่ทำไป เสียเวลา น่าขำจริง
*เพราะความรัก มักเหลือ หลากเหตุผล
คนทุกคน คงเป็น เช่นกล่าวอิง
เพียงเดินผ่าน กาลใด สุขใจจริง
แอบคะนิง ฝันหวาน กาลราตรี
*ทุ่มเวลา ปานใด ไม่อาจช่วย
ใจแหลกม้วย หมดแรง แห้งสุขี
หวังสักวัน วันหนึ่ง ซึ่งอาจมี
คนแสนดี ที่เธอรัก ฉันจักลา
*กับคำถาม ย้ำว่า มาทำไม
ตอบออกไป ว่าใจ ใฝ่ห่วงหา
คนคนนี้ มีรัก ภักดิ์บูชา
อาจมรณา ขาดใจ ไม่มีเธอ
*ร้อยคำถาม ย้ำว่า มาทำไม
ตอบครั้งใด ใจอาจ ขาดเสมอ
ณวันใด ไม่พบ สบตาเธอ
ฉันละเมอ เพ้อพลาด ขาดใจตาย
*โปรดอย่าถาม ย้ำย้ำ คำคำเดิม
เหมือนแรงเสริม หาญหัก รักสลาย
บอกอีกที ล้านที ไม่มีคลาย
ขาดใจตาย แน่แท้ แค่ไม่เจอ
9 กรกฎาคม 2552 22:29 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
ผมบอกตรงๆ เลยครับ ว่าชักจะงง อิอิ
เรื่องความรู้ด้าน ศาสนา ภาษา และเนื้อหา
ไม่ค่อยกระจ่าง ถือว่า เป็นการทดสอบ การเขียนกลอนยาวๆ
ยังไงก็เชิญ วิพากษ์ วิจารณ์ กันเต็มที่นะครับ
เพื่อจะได้ปรับปรุง แลแก้ไข ต่อไป
1. งดสิ่งใด ไม่เท่า ที่เรางด
เหมือนประชด ชะตา ฟ้าเปลี่ยนสี
ถึงเคี้ยวปลา อาหาร สำราญพี
แล้วจำมี วันอด พอชดเชย
2. เมื่องดรัก พักพรรษา น้ำตาหยด
มิอาจลด รันทดแท้ แม่คุณเอ๋ย
วสันต์ผ่าน กาลก่อน อ้อนทรามเชย
ไฉนเลย ล่วงมา โศกากาย
3. นึกหวนหลัง ครั้งเก่า หยอกเย้าแหย่
ทำกระแซ่ กระซิก หยิกข่วนขวาย
ทั้งใบหน้า ค่าตา พาละอาย
เพื่อนหญิงชาย หัวเราะรื่น ก็ครื้นเครง
4.ทั้งสองเรา เนาเนิน ชลมาร์ค
ธงชาติหลาก สีงาม ท่ามเสียงเพลง
พี่แกล้งโอบ ไหล่น้อง ร้องแซ่เซ็ง
แถมตะเบ็ง หยิบไม้ มาไล่ตี
5.พี่วิ่งหลบ โยกย้าย ซ้ายไปขวา
น้องผวา เซซน บ่นอย่าหนี
พูดพึมพำ อ้ำอึ้ง ถึงนาที
แม้รู้ดี มีงอน แกล้งค้อนตาม
6.ทำทีเหล่ มองสาว กล่าวขาวหมวย
น้องกลับอวย หน้าเมิน เดินไม่ถาม
ทั้งหน้าบึ้ง เบ้าบูด มิพูดความ
ต้องต้อยตาม ติดติด สะกิดมือ
7.กระซิบข้าง ข้างหู โฉมตรูน้อง
พี่ยังต้อง รักใคร ได้อีกหรือ
หมดห้องห้วง ดวงใจ ฝากในมือ
คนแอบถือ ไม้หน้าเมิน เดินหน้างอ
8. จนมาถึง อาราม ตามแบบพุทธ
ผ่องวิสุทธิ์ พุทธองค์ บรรจงหนอ
แม้นภาพวาด รูปปั้น พรรณละออ
สืบสานทอ ทอดทาง ระหว่างธรรม
................................................
9. ลุมาถึง ศาลา โอฬาร์หลวง
คนทั้งปวง แน่นเอียด เสียดขนำ
นำดอกไม้ ธูปเทียร เพียร ศีล-ธรรม
ปฏิบัติ กัมมัฎฐาน ชื่นบานตา
10. พี่จูงมือ น้องนาง วางดอกไม้
ขอพรให้ เทพไท้ ไทยรักษา
เป็นคู่รัก สมปอง ครองชีวา
จนเวลา อาสัญ สิ้นปราณลม
11. เหมือนมีเหตุ เภทภัย ในธิษฐาน
ลมฟ้าพาล ก้องกึก นึกมิสม
น้องร้องหวาด หวีดหวิว จะกริ้มลม
เก็บอกตรม หวาดหวาด กลัวขาดกัน
12. แล้วประค้อง น้องกอด มาพลอดพร่ำ
เอ่ยหวานฉ่ำ น้องจ๋า อย่าเสียขวัญ
พี่อยู่นี่ ข้างนุช สุดสำคัญ
จะป้องกัน แก้ไข ทุกภัยพาล
13. จนระฆัง ดังแว่ว แสน่วเพราะ
กาลมาเหมาะ หนึ่งโมง จรรโลงสาน
พระห่มดอง ครองเหลือง เปลื้องปลดมาร
เว้นประหาร ชีวิน ผ่องอินทรีย์
14. พระอาวาส มาดเคร่ง เพ่งพินิจ
กล่าวสถิตย์ ถ้อยคำ นำวิถี
ให้ญาติโยม ยุติธรรม ทำกรรมดี
สิ่งชั่วมี ลดละ ระมัดวาง
15. พระสวดมนต์ คนพรั่ง หลั่งใส่บาตร
ของเปรี้ยวขาด คาวเติม เสริมสลาง
ผลละหมาก หลากคัด ช่วยจัดวาง
จับมือนาง ตักบาตร วาดฝันครอง
16. เพ่งพินิจ พระสงฆ์ องคเจ้า
บางรูปเยาว์ คราวหนุ่ม กล้มแก่กอง
นับถ้วนถี่ มีหยุบหยิบ เพียงสิบสอง
น่าเมียงมอง ครองไตร วิไลตา
................................................
17. ภิกษุหนุ่ม เยื้องย่าง ทางธรรมมาสน์
เทศน์ประกาศ เรื่องราว เข้าพรรษา
พี่กลับนั่ง แนบน้อง จ้องนัยน์ตา
ลืมเนื้อหา มาเป็น เช่นอย่างไร
18. จำคร่าวคร่าว คราวเลิศ ก่อเกิดสงฆ์
จึงครบองค์ พระรัต-ตะ-นะ-สาม
มีพระพุทธ ธรรม-สงฆ์ ทรงศีลงาม
เลื่อมใสตาม ศรัทธา บูชาควร
19. หลังจากกราบ ลาพระ ปฏิมา
ผ่องโสภา พิสุทธิ์ ทุกจุดส่วน
ต่างจำแนก แยกย้าย หลายขบวน
ทุกคนล้วน อิ่มบุญ หนุนชีวี
20. พี่เอ่ยพร่ำ คำหวาน นงคราญจ๋า
ฤกษ์ปีหน้า มาแต่ง อย่าแกล้งหนี
อย่าลืมรส รอยรัก สักนาที
ขอคนดี รอหน่อย อย่าหงอยงอน
21. น้องกลับหยิก หยอกพี่ มีที่ไหน
ใครน๊าใคร รับปาก หากคิดถอน
ขอให้ฟ้า ผ่าพับ ดับชีพรอน
พี่กล่าววอน วิงเว้า หยอกเย้ายวน
22. สักครู่หนึ่ง ถึงย่าน บ้านสามแพร่ง
กลัวเว้าแหว่ง หวาดใจ อาลัยหวน
ทางสามแพร่ง จะแพร่งพราก จากลำดวน
อกพี่ชวน คิดไกล ไปตามทาง
23. นึกนึกแล้ว มิแคล้ว จะครุ่นคิด
น้องสะกิด ชี้มอง ท้องฟ้าสาง
เมฆครึ้มครึ้ม คราคร่ำ ฝนอำพราง
กลัวน้องนาง พรางอำ ทำห่างไกล
24. พระพิรุณ โปรยปราย วุ่นวายนัก
แทบเสียหลัก ล้มลื่น ยืนไถล
โกลาหล อลหม่าน คนบ้านไกล
น้องทรามวัย ว๊ายร้อง มองค้อนมา
..................................................
สเต๊ฟนี้ ยังไม่ งดรักเลย เอาไว้ รอบหน้าครับ
มีเฮ อิอิ รอบนี้.....ติดค้างไว้ รอตอนต่อไป
อวสาน แระ จะไปบวช หรือ จะยังไง อิอิ ลุ้นๆ อิอิ
8 กรกฎาคม 2552 22:24 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
1. งดสิ่งใด ไม่เท่า ที่เรางด
เหมือนประชด ชะตา ฟ้าเปลี่ยนสี
ถึงเคี้ยวปลา อาหาร สำราญพี
แล้วจำมี วันอด พอชดเชย
2. เมื่องดรัก พักพรรษา น้ำตาหยด
มิอาจลด รันทดแท้ แม่คุณเอ่ย
วสันต์ผ่าน กาลก่อน อ้อนทรามเชย
ไฉนเลย ล่วงมา โศกากาย
3. นึกหวนหลัง ครั้งเก่า หยอกเย้าแหย่
ทำกระแซ่ กระซิก หยิกข่วนขวาย
ทั้งใบหน้า ค่าตา พาละอาย
เพื่อนหญิงชาย หัวเราะรื่น ก็ครื้นเครง
4.ทั้งสองเรา เนาเนิน ชลมาร์ค
ธงชาติหลาก สีงาม ท่ามเสียงเพลง
พี่แกล้งโอบ ไหล่น้อง ร้องแซ่เซ็ง
แถมตะเบ็ง หยิบไม้ มาไล่ตี
5.พี่วิ่งหลบ โยกย้าย ซ้ายไปขวา
น้องผวา เซซน บ่นอย่าหนี
พูดพึมพำ อ้ำอึ้ง ถึงนาที
แม้รู้ดี มีงอน แกล้งค้อนตาม
6.ทำทีเหล่ มองสาว กล่าวขาวหมวย
น้องกลับอวย หน้าเมิน เดินไม่ถาม
ทั้งหน้าบึ้ง เบ้าบูด มิพูดความ
ต้องต้อยตาม ติดติด สะกิดมือ
7.กระซิบข้าง ข้างหู โฉมตรูน้อง
พี่ยังต้อง รักใคร ได้อีกหรือ
หมดห้องห้วง ดวงใจ ฝากในมือ
คนแอบถือ ไม้หน้าเมิน เดินหน้างอ
8. จนมาถึง อาราม ตามแบบพุทธ
ผ่องวิสุทธิ์ พุทธองค์ บรรจงหนอ
แม้นภาพวาด รูปปั้น พรรณละออ
สืบสานทอ ทอดทาง ระหว่างธรรม
................................................
ขอเอาทีละ 8 บทนะครับ ค่อยๆ ไป
หลังๆ ชักจะงง แต่งไม่ค่อยออก อิอิ
9. ลุมาถึง ศาลา โอฬาร์หลวง
คนทั้งปวง แน่นเอียด เสียดขนำ
นำดอกไม้ ธูปเทียร เพียร ศีล-ธรรม
ปฏิบัติ กัมมัฎฐาน ชื่นบานตา
10. พี่จูงมือ น้องนาง วางดอกไม้
ขอพรให้ เทพไท้ ไทยรักษา
เป็นคู่รัก สมปอง ครองชีวา
จนเวลา อาสัญ สิ้นปราณลม
11. เหมือนมีเหตุ เภทภัย ในธิษฐาน
ลมฟ้าพาล ก้องกึก นึกมิสม
น้องร้องหวาด หวีดหวิว จะกริ้มลม
เก็บอกตรม หวาดหวาด กลัวขาดกัน
12. แล้วประค้อง น้องกอด มาพลอดพร่ำ
เอ่ยหวานฉ่ำ น้องจ๋า อย่าเสียขวัญ
พี่อยู่นี่ ข้างนุช สุดสำคัญ
จะป้องกัน แก้ไข ทุกภัยพาล
13. จนระฆัง ดังแว่ว แสน่วเพราะ
กาลมาเหมาะ หนึ่งโมง จรรโลงสาน
พระห่มดอง ครองเหลือง เปลื้องปลดมาร
เว้นประหาร ชีวิน ผ่องอินทรีย์
14. พระอาวาส มาดเคร่ง เพ่งพินิจ
กล่าวสถิตย์ ถ้อยคำ นำวิถี
ให้ญาติโยม ยุติธรรม ทำกรรมดี
สิ่งชั่วมี ลดละ ระมัดวาง
15. พระสวดมนต์ คนล้น ขนตักบาตร
ของเปรี้ยวขาด คาวเติม เสริมสลาง
ผลละหมาก หลากคัด ช่วยจัดวาง
จับมือนาง ตักบาตร วาดฝันครอง
16. เพ่งพินิจ พระสงฆ์ องคเจ้า
บางรูปเยาว์ คราวหนุ่ม กล้มแก่กอง
นับถ้วนถี่ มีหยุบหยิบ เพียงสิบสอง
น่าเมียงมอง ครองไตร วิไลตา
..................................................
เอาวันละ 8 บทก่อน มากกว่านี้ ไม่ไหว จะงง อิอิ
รู้สึก จะไม่ค่อยเกี่ยวกะ งดรัก เลย .....