20 กันยายน 2552 23:56 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
*โอ้หัวใจเจ็บล้นเหมือนคนบ้า
ปรารถนานานเนายังเฝ้าฝัน
ให้รักหวนย้อนใหม่เมื่อไกลกัน
สุดรำพันอธิษฐานรักปานใด
*หากยังมีเยื่อใยเหลือให้อยู่
โปรดตรองดูอีกคราอย่าผลักไส
พี่ยังรักยังหวงหมดดวงใจ
ไม่มีใครได้เลยไม่เคยแล
*อยากให้เธอเห็นใจได้ไหมหนอ
คนที่รอชีวิตเคยติดแผล
เคยสัมพันธ์กันมาคราผันแปร
อ้างว้างแท้แลขุนเขายังเหงาใจ
*นึกถึงภาพซาบซ่านยามหวานหอม
เมื่อนึกน้อมน้ำตาแอบพร่าไหล
เคยเคลียเคล้าคนงามแม่ทรามวัย
อีกเมื่อไรรักก่อนจักย้อนมา
*ยังเฝ้าคอยส่งจิตอธิษฐาน
ทรมานแค่ไหนครวญใฝ่หา
ภาพเก่าก่อนหลอนหลอกตอนบอกลา
เห็นน้ำตาตกในหลั่งไหลลง
*ทุกวันคืนฝืนทนสวดมนต์อ้อน
ขอวิงวอนเทพช่วยอำนวยประสงค์
อย่าปล่อยให้ละเมอเพ้อพะวง
จนปลดปลงชีวาน้ำตานอง
*เมื่อยามนอนพลิกซ้ายกระส่ายกระสับ
ไม่อาจหลับลงได้เมื่อใจหมอง
คิดถึงเธอลมลมมิสมปอง
เหม่อลอยล่องสุดฟ้าแสนอาดูร
*ขอวิงวอนเทวาอีกคราหนึ่ง
ของคนซึ่งอาภัพรักดับสูญ
ให้กลับมาต่อเติมและเพิ่มพูน
เป็นพันคูณหมื่นคูณรักพูนทวี
คำร้อง ชาตรี
ใจ ยังไม่คลาย ยังไม่สาย มาคิดรักกันใหม่
ดู ดูที่ใจของฉัน ยังรำพันถึงเธอทุกคืนวัน
เฝ้าอธิษฐาน เมื่อวันวาน จงหวนคืนมาใหม่
เธอโอ้เธออยู่ที่ไหน ได้โปรดจงเห็นใจชุบชีวา
ก่อน เคยมีสัมพันธ์ เดี๋ยว นี้มัน เลือนลาง
ใจก็ยิ่งอ้างว้าง เฝ้าคอย อธิษฐาน
ใจ ยังหลอกหลอน ห่วงอาวรณ์
มองเห็นภาพของเธอ นอน ยามค่ำคืนก็เพ้อ
จำต้องนอนละเมอคิดถึงเธอ
ใจ ยังไม่คลาย ยังไม่สาย มาคิดรักกันใหม่
ดู ดูที่ใจของฉัน ยังรำพันถึงเธอทุกคืนวัน
เฝ้าอธิษฐาน เมื่อวันวาน จงหวนคืนมาใหม่
เธอโอ้เธออยู่ที่ไหน ได้โปรดจงเห็นใจชุบชีวา
>ก่อน เคยมีสัมพันธ์ เดี๋ยว นี้มัน เลือนลาง
ใจก็ยิ่งอ้างว้าง เฝ้าคอย อธิษฐาน
ก่อน เคยมีสัมพันธ์ เดี๋ยว นี้มัน เลือนลาง
ใจก็ยิ่งอ้างว้าง เฝ้าคอย อธิษฐาน
10 กันยายน 2552 07:19 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
อยากบอกว่า นี่เป็นกลอน ผสมเพลง อ่านเลยวังเวง เลยเคว้งเลยสับสน....
เพลงนี้ แต่งเอง กลอนคิดเอง กะคือว่า มั่วๆๆ
*ยังจำได้บ่ละหนอละออเอ๋ย
ฮักเฮาก่อนเคยชื่นชิดพิสมัย
บัดนี้น้องหล่าลืมสัญญาไปหาผู้ใด(เริ่มเพลงล่ะ อิอิ)
อ้ายเจ็บอ้ายอุกอั่งใจ จั๋งได๋จั่งไดมาเฮ็ดแนวนี้
*เคยเย้าหยอกแต่ออกแต่อ้อน
เป็นหยังมาถอนฮักเฮาย่างเข่าหนี
บ่ฮักบ่ว่าลืมสัญญาบ่ว่าคนดี
แต่เจ้ามาเฮ็ดจั่งซี้ อกอ้ายสลายแล้ว...เด้อ
*ฮักอ้ายหล่นจากต้นหมากเม่า
ม่องที่สองเฮาเคยเฝ้าเสนอ
เคยเก็บตำแจ่วแซ่บแล้วน้องบอกนะเออ
บัดนี้อ้ายยืนเซ่อมองหาเธอ บ่มีบ่มี
*มันเป็นแนวได๋ไผเฮ็ดให้ใจน่องหล้า
มาเอืออมระอาเห็นว่า อ้ายบ่มีหยังดี
กะเหมิดคำเว้าหมากเม่าน้ำตาไหลปรี่
ฮักอ้ายมื้อนี่ มันหล่นจากต้น...หมากเม่า
*เพียงเฝ้าคิดวันวานอันหวานถ้อย (กลอน ล่ะ อิอิ)
อกพี่คอยคำรักสลักเสลา
ไม่ต้องบอกรักคุณอกอุ่นเรา
คำรักเก่าจริงใจมีไหมเอย
*พี่นั่ง-ยืนฝืนใจอาลัยเศร้า
ต้นหมากเม่าต้นนี้ครั้งที่เผย
คำว่ารักจริงแท้แด่ทรามเชย
โอ้อกเอ๋ยครวญคร่ำน้าตาริน
*เจ้าไปบอกรักใหม่กับใครหนอ
ไม่เพียงพอเปลี่ยนแปรกระแสสินธ์
ที่ไหลลดลงไปดั่งใจยุพิน
พี่ถวิลโหยหารอท่านาง
*ไม่อาจเด็ดหมากเม่ามาเข้าปาก
ยังกระดากรอกานดาจนฟ้าสาง
รุ่งอรุณทิวาสีฟ้าจาง
พี่รอนางเหมือนเก่าหมากเม่าต้นนี้....
ภูพานเพชร" ผู้นำตลาดหมากเม่าระดับสากล
PhuPhanPhet - Leading MaMao Market
หมากเม่า (มะเม่า เม่าเสี้ยน มัดเซ) เป็นผลไม้ชั้นนำในเขตภาคอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ส่วนภาคอื่นๆ เรียกว่า "เม่า" ชื่อวิทยาศาสตร์ Antidesma velutinosum Blume ในวงศ์ Stilaginaceae. เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ความสูงประมาณ 12-15 เมตร ออกดอกช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม และผลจะสุกในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน
คุณค่าทางโภชนาการ ชองผลหมากเม่า (ต่อ 100 กรัม)
พลังงาน 75.20 กิโลแคลลอรี่
โปรตีน 0.63 กรัม
เยื่อใย 0.79 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 17.96 กรัม
แคลเซียม 13.30 มิลลิกรัม
เหล็ก 1.44 มิลลิกรัม
วิตามิน ซี 8.97 กรัม
วิตามิน บี1 4.50 ไมโครกรัม
วิตามิน บี 2 0.03 ไมโครกรัม
วิตามิน อี 0.38 ไมโครกรัม
ประโยชน์ หมากเม่า
1. ผลดิบสีเขียวอ่อน ประกอบอาหารคล้ายส้มตำเม่า
2. ผลแก่สีแดงมีรสเปรี้ยว ส่วนผลแก่จัดสีดำม่วง จะมีรสหวานอมเปรี้ยว รับประทานเป็นผลไม้สด
3. ผลมีสรรพคุณเป็นยาระบายและบำรุงสายตา ใบสดนำมาอังไฟเพื่อใช้ประคบแก้อาการฟกช้ำดำเขียว เปลือกต้นเม่าใช้เป็นส่วนประกอบของลูกประคบ
4. ผลหมากเม่าสุก มีกรดอะมิโน 18 ชนิด แคลเซียม เหล็ก สังกะสี วิตามิน B1 B2 C และ E
5. ผลิตภัณฑ์แปรรูปเช่น น้ำผลไม้ ไวน์เม่า แยม กวน สีธรรมชาติผสมอาหาร ฯลฯ
6. น้ำเม่าสกัดเข้มข้น 100% มีสารอาหาร วิตามินหลายชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายรวมทั้ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ
7.ไวน์หมากเม่า มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
8.กัมมาลและคณะ (2546) ศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อ HIV เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียของสมุนไพรไทย 5 ชนิด คือ มะเม่า ฟ้าทลายโจร หญ้าแห้วหมู ผักเป็ดแดง และสายน้ำผึ้ง พบว่า มะเม่า สายน้ำผึ้ง และหญ้าแห้วหมู มีศักยภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและมีฤทธิ์ต้านเชื้อ HIV ได้
หจก.ภูพานเพชร มีทั้งต้นพันธุ์ และผลิตภัณฑ์แปรรูป
หมากเม่า ภูพานเพชร
1. ลักษณะเด่น หมากเม่า สายพันธุ์ "ภูพานเพชร"
* ต้นสูงประมาณ 12 - 15 เมตร
* ลักษณะใบ กว้างมนใหญ่ มีทั้งใบยาว และใบสั้น
* ผล เป็นพวงช่อขนาดใหญ่ ประมาณ 15 ซม. ผลดิบมีสีเขียว ผลแก่
สีแดง เมื่อผลแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีดำ
2. ผลิตภัณฑ์ ภูพานเพชร
2.1 ต้นพันธุ์หมากเม่า ภูพานเพชร ความสูง 50, 80, 100 ซม.
2.2 ไวน์หมากเม่า "ภูพานเพชร"
2.3 แยมหมากเม่า "ภูพานเพชร"
2.4 น้ำผลไม้เข้มข้น หมากเม่า "ภูพานเพชร"
หมากเม่า ภูพานทอง
1. ลักษณะเด่น หมากเม่าสายพันธุ์ "ภูพานทอง"
* ต้นสูงประมาณ 10 - 12 เมตร
* ลักษณะใบ แคบเล็กยาว ใบห่าง
* ผล เป็นพวงช่อขนาดใหญ่ ประมาณ 12 ซม. ผลดิบมีสีเขียว ผลแก่
สีแดง เมื่อผลแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีดำ
2. ผลิตภัณฑ์ ภูพานทอง
2.1 ต้นพันธุ์หมากเม่า ภูพานทอง ความสูง 50, 80, 100 ซม.
2.2 ไวน์หมากเม่า "ภูพานทอง"
2.3 แยมหมากเม่า "ภูพานทอง"
2.4 น้ำผลไม้เข้มข้นหมากเม่า "ภูพานทอง"
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม
www.phuphanphet.com
6 กันยายน 2552 23:56 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
เห้ออออ กว่าจะแต่งเสร็จก็ปวดหัว ตึ้บๆๆ และต้องขอบอกว่า แต่งแล้วไม่ค่อยจะดีใจกับผลงานของตัวเองเท่าไรเลย เป็นแนวหนักๆ แต่งไม่ค่อยเป็น แต่รับปากพี่ไหมไทย....ที่เกิดจากการแซว ทว่า....ไอ้น้องมันบ้า เลยถือว่า แต่งแบบ ขำๆๆ
หากท่านใด อ่านแล้วไม่ถูกใจ เนื่องจาก เนื้อหาเยอะ สำนวนไม่ดี และเนื้อเรื่องแปร่งๆๆ ก็อย่าคิดมากครับ คนแต่งคิดมากกว่า 555+
ส่วนท่านใดจะวิจารณ์....ผมยินดีรับคำแนะนำทั้งหลายทั้งมวลครับ เผอิญว่า ลองแต่งแนวหนักๆ ดู ก็รู้ว่า ภาษา-สำนวนอ่อนด้อยมากๆๆ
ส่วนท่านอาจารย์ คุณน้า คนกุลา จะวิจารณ์เรื่องเสียงนั้น ก็ยินดีครับ ผมแต่งแบบลวกๆ เพราะเร่งรีบให้เสร็จ ในวันนี้ และอีกอย่าง ถึงตั้งใจแต่ง แต่ภาษาน้อยก็ไม่ต่างกันมาก...
ขอขอบคุณทุกท่าน ที่ฝีนใจอ่านจนหมด ส่วนไม่หมดไม่ว่ากันครับ ยอมรับว่า เยอะๆๆๆ จริงๆๆ
1 ปลาบู่ทองเป็นนิทานพื้นบ้านไทย
ที่สอนให้รู้เรื่องราวสาวชาวบ้าน
ด้วยทำบุญกุศลและผลทาน
จึงแต่งงานกับกษัตริย์ขัตติยา
2 ทารกเศรษฐีมีเมียสอง
ชื่อคล้องจองครองจิตขนิษฐา
ส่วนอีกคนเรียกนามตามภริยา
มีชื่อว่าขนิษฐีไม่มีธรรม
3 ขนิษฐาแม่เอื้อยนี้เหมือนมีบาป
สวรรค์สาปหมดบุญมาหนุนค้ำ
จึงติดตามสามีนี้ประจำ
ณ แหล่งน้ำลำคลองมองหาปลา
4 เช้ายันค่ำปลาปูอยู่แห่งไหน
เศรษฐีใจร้ายร่ำพร่ำเสาะหา
แล้วหันมองข้างเมียละเหี่ยตา
ตัวชะตากาลกิณีปลาหนีไป
5 ขนิษฐาเศร้าสร้อยน้อยใจหมอง
เศรษฐีได้ปลาบู่ทองไม่ผ่องใส
ทั้งหนำซ้ำขนิษฐาขอปลาไป
ปล่อยได้ไหมโปรดสงสารทำทานทุน
6 ฝ่ายเศรษฐีเกิดโมโหด้วยโกรธา
พลั้งโทสาทุบไปใจหันหุน
ขนิษฐาตายอนาถด้วยขาดบุญ
กรรมเกื้อหนุนเกิดมา เป็นปลาบู่ทอง
7 เมื่อลูกเอื้อยถามหามารดาหนู
แสนหดหู่เมื่อแม่หนีไปมีสอง
มีชายใหม่ไม่อยู่เป็นคู่ทอง
เอื้อยร่ำร้องโหยหามารดาตน
8 นับแต่นั้นขนิษฐีมีใจคด
ใช้งานหมดทุกแหล่งในแห่งหน
ทั้งอ้าย...อี่พี่น้องทั้งสองคน
ข่มเหงจนเอื้อยตรมระทมใจ
9 เอื้อยคิดถึงแม่จ๋าน้ำตาตก
นั่งตระหนกริมน้ำที่ฉ่ำไหล
พบปลาบู่ทองมองหาด้วยอาลัย
จึงเข้าใจแม่กำเนิดเกิดเป็นปลา
10 ทุกทุกวันโปรยข้าวเคล้าอาหาร
คุยสื่อสาสน์ปรับทุกข์ไม่สุขา
ถูกกลั่นแกล้งสารพันฉันระอา
ไม่รู้ว่ากรรมใดส่งให้เป็น
11 ขนิษฐีเห็นเอื้อยไม่เฉื่อยเฉา
อ้าย...อี่เล่ารู้เรื่องแล้วเคืองเข็ญ
จับปลาบู่ลู่ลาบฉาบไอเย็น
วางให้เห็นเกล็ดปลาเอื้อยมาเจอ
12 จึงกอบกำเกล็ดปลามาอธิษฐาน
สาธุการน้อมนึกรำลึกเสมอ
ให้เกล็ดปลาเป็นมะเขือจนเหลือเฟ้อ
อ้าย...อี่เจอตัดมะเขือเพื่อทำกิน
13 น้องเอื้อยนำเมล็ดเศษมะเขือ
นำไปเพื่อปลูกใหม่ใจถวิล
ขอให้เป็นโพธิ์ทองอย่าหมองราคิน
ขอชีวินแม่ยืนยงคงกระพัน
14 อย่าให้ใครตัดโค่นจนโกร๋นกร๋อ
เทวาหนอช่วยให้ไม่อาสัญ
ไม่อาจทำอันตรายทะลายฟัน
ฉุดดึงกันไม่เขยื้อนบิดเบือนไป
15 พระเจ้าพรหมทัตขัตติยา
ปรารถนาโพธิ์ทองต้นผ่องใส
นำไปปลูกราชวังด้วยตั้งใจ
แต่หาใครเขยื้อนขยับแทบอับจน
16 จึงประกาศรางวัลอันสูงค่า
ใครนำพาโพธิ์ใหญ่ไปทั้งต้น
ทั้งอ้าย..อี่พี่น้องทั้งสองคน
กระชากจนหมดหวังเลิกตั้งใจ
17 ส่วนน้องเอื้อยส่งจิตอธิษฐาน
เทพบันดาลชูช่วยอำนวยให้
จึงถอนต้นโพธิ์งามตามแต่ใจ
ถวายให้พรหมทัตขัตติยา
18 เมื่อเอื้อยนำโพธิ์ทองงามผ่องศรี
กุลสตรีนางนี้มีสง่า
เพียงแรกพบสบพักตร์รักตรึงตา
บุพเพนิวาสาส่งมาครอง
19 จึงแต่งตั้งให้สมภิรมย์ศักดิ์
เป็นยอดรักคู่บุญเกื้อหนุนสนอง
มเหสีมิ่งมิตรจิตสมปอง
เป็นคู่ทองคู่ธรรมนำประชา
20 แต่อ้าย..อี่มีจิตแสนคิดแค้น
จึงวางแผนว่าพ่อป่วยช่วยมาหา
อาจถึงตายวายวอดมอดชีวา
เอื้อยกลับมาหาบิดรด้วยร้อนใจ
21 พอถึงเรือนชานเก่าแสนเหงาหงอย
ไร้คนคอยต้อนรับเหมือนหลับใหล
ไม่แคยรู้แผนหยาบช้าสามานย์ใด
จึงหล่นในกระทะต้มสิ้นลมปราณ
22 ขนิษฐีดีใจในแผนชั่ว
นั่งนอนหัวเราะลั่นสนั่นบ้าน
แล้วบอกอ้ายปลอมตัวอย่ามัวนาน
อ้ายยิ้มบานปลอมเป็นเอื้อยอยู่เรื่อยไป
23 เอื้อยเกิดใหม่ใจแหลกนกแขกเต้า
แสนจะเศร้าในชีวิตผิดวิสัย
เป็นมนุษย์สุดสมภิรมย์ใจ
กรรมอันใดสร้างมาน้ำตานอง
24 จึงบินร่อนอ่อนลงตรงวังเก่า
เคยเคียงเคล้าภิรมย์สมสนอง
พรหมทัตเห็นนกเต้าแอบเฝ้ามอง
จึงมาลองเลี้ยงดูนกรู้ดี
25 อ้ายเห็นนกแสนรู้จึงดูออก
แล้วก็บอกคนครัวนำตัวนี้
ทำอาหารเถิดหนาอย่าช้าที
เหมือนดั่งมีบุญช่วยอำนวยการณ์
26 นกแขกเต้าถูกถอนขนดิ้นรนหนี
หนูแสนดีช่วยพ้นคนประหาร
ให้พักอยู่รูของตนจนสำราญ
นกเบิกบานปีกกล้าร่อนหาไพร
27 จนไปพบฤๅษีมีฤทธิ์เดช
จึงร่ายเวทมนตร์คาถาท้องฟ้าใส
ให้กลับกลายเป็นมนุษย์สุดดีใจ
ปั้นดินให้เป็นลูกปลูกสัมพันธ์
28 เอื้อยจึงบอกเรื่องราวกล่าวรสถ้อย
ให้ลูกน้อยกลับไปหาบิดานั้น
แล้วจึงมอบพวงมาลัยมอบไปพลัน
เพื่อเจ้านั่นไปหาบิดาตน
29 เมื่อเด็กน้อยมอบมาลัยในพระหัตถ์
พรหมทัตจึงสอบถามความสับสน
จนรู้แจ้งแถลงไขในกมล
ให้นำคนจับอ้าย..อี่มีโทษทัณฑ์
30 พร้อมทั้งจับขนิษฐีคนนี้ด้วย
วางแผนช่วยสมคบคิดผิดมหันต์
ให้จับตัวไปประหารประจานกัน
คนเหล่านั้นไม่ควรคู่ดูโลกงาม
31 และและแล้วพรมมทัตขัตติยา
นำพลทหารกล้ามาหมื่นสาม
รับขวัญเอื้อยสู่บัลลังก์ราชวังงาม
พลติดตามแห่แหนทั่วแดนกรุง
32 จึงขอจบเรื่องราวสาวชาวบ้าน
เป็นนิทานสอนแนวคิดจิตจำรุง
กตัญญูรู้คุณคนผลพยุง
ให้เรืองรุ่งจำรัสสวัสดิกาล
28 สิงหาคม 2552 22:51 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
มีคนบอกว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์...ภาษาอังกฤษ คิดเอง มั่วเอง ตามประสา ผิดก็ขอ อาภัย ถูกใจ ก็ขอตังค์ 555+ เอ่อ กลอนเศร้านะเนี่ย งง กะตัวเอง อิอิ
*โอ้อนาถฤทัยไม่สิ้นสุด
เหมือนรักคุดสะดุดลง ณ ตรงฝัน
ยามมีรักกลับทุกข์จุกกลางคัน
จะฝ่าฟันทุกข์ไปอย่างไรดี
*ใครหนอใครช่วยได้เพียงใฝ่ช่วย
อกจะม้วยจะมอดตาบอดสี
เห็นแต่รักสวยงามยามราตรี
ตื่นกีทีกลับเศร้าเกินเข้าใจ
*เหมือนวังเวงเคว้งคว้างอยู่กลางป่า
เดินเสาะหาภูเขาลำเนาใส
กลับมีเราเดินดุ่มตามพุ่มไพร
ไร้เงาใครเคียงข้างอ้างว้างจริง
*ที่ใดหนอมีรักไม่ผลักไส
หาเท่าไรไม่พบประสบหญิง
ใครหนอใครให้หนุนตักแลพักพิง
ให้ก้านกิ่งหัวใจเติบใหญ่พอ
*ราตรีนี้มีใจมั่นในรัก
กลับทุกข์หนักเกินใครเข้าใจหนอ
ด้วยว่าขาดคู่เคล้าพะเน้าพะนอ
ไม่เคยขอเกินไปแค่ใคร...สักคน
*หากมีใครหนึ่งนั้นคืนฝันหวาน
คงเบิกบานสดใสหยาดไอฝน
เพียงปรอยปรอยร่วงมาจากฟ้าบน
ช่วยหนึ่งคนยิ่มร่ามองฟ้างาม
*แต่ไม่มีนี่แหละเป็นเเพะบาป
ดุจถูกสาปชะตาพาเกรงขาม
ฟ้ายังสมน้ำหน้ากล่าวว่าทราม
ถูกเหยียดหยามจากฟ้าน้ำตาคลอ
*โอ้ความรักไยเล่าคละเคล้าทุกข์
หมดสนุกภายในดวงใจขอ
ความเป็นธรรมบางใครที่ใฝ่รอ
ช่วยสานต่อต้นรักแค่สักครา...
25 สิงหาคม 2552 09:29 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
*โอ้ดวงดาวเจ้าเอ๋ยเจ้าเคยไหม
ที่หัวใจจงรักสลักมั่น
ทุกนาทีร้อยคืนล่วงหมื่นวัน
เหมือนว่าฉันจะด่าวดิ้นจนสิ้นใจ
*ด้วยแอบรักใครนั้นคอยฝันเฟ้อ
เพียงแต่เธอไม่รักกลับ ฟ้าหลับไหล
ดั่งธาราร้างแล้งแห้งขอดไป
ฤา ต้นไม้ยืนเดี่ยวให้เปลี่ยวทรวง
*อยากให้รู้...ว่ารักแสนภักดิ์ยิ่ง
เพียงหนึ่งหญิงในแสนจากแดนสรวง
หนึ่งในล้านวาดฝันถึงจันทร์จวง
ไม่คิดลวงหลอกล่อ ละออเลย
*นั่งพินิจคิดไปจนไหวหวั่น
อกจะพรั่นเพียงใดใคร่เฉลย
ร้อยชั่วโมงโยงข้ามถึงทรามเชย
คนคุ้นเคยหยอกเย้าคลายเหงาตรม
*โอ้ยามรักแรงร้ายกลับกลายพิษ
ทำชีวิตทุกขณะเศร้าสะสม
จะหลับตาคราใดฝันได้ชม
อกระบมเพราะฝันทุกวันคืน
*ไม่อาจเป็นเช่นนั้นรำพันนัก
มิอาจหักอาลัยจำใจฝืน
เหมือนเคี้ยวข้าวทุกคำยังกล้ำกลืน
หลับตาตื่นจากฝั้นร้ายไม่กลายดี
*นี่น่ะหรือพิษรักมาปักอก
ทำสะทกสะท้านซมซานหนี
ตะเกียกตะกายหมายข้ามน้ำนที
อีกกี่ปีจะคลายโศกวิโยคยวน
*อยากให้รู้...ว่ารักเป็นหนักหนา
อนิจจาคำหวานยังพาลห้วน
ยิ่งตกดึกยิ่งนึกหนาวร้าวรัญจวน
เปรียบขบวนพายุรักยากหักใจ....