11 กรกฎาคม 2547 13:52 น.
กวี ณ เมืองคอน
๑ นะ ขอกราบพระท่านผู้เคารพ
โม น้อมนบพนมไหว้ใจผ่องใส
พุท ตั้งจิตอธิษฐานไว้ในใจ
ธา ส่งให้ใจสว่างห่างป่วงมาร
๒ ยะ จงตบทบท้ายในคาถา
ว่า นะโมพุทธายะ ทุกโมงวัน
แล้วตั้งจิตตั้งใจอยู่ในการ
แล้วตั้งมั่นหมั่นท่องตรองความใน
๓ นะโมพุทธายะ คาถาพระ
ผู้วางละพระทั้งห้าว่าผ่องใส
พระพุทธเจ้า สอนเจ้าทั้งใจกาย
มารมลายดับสิ้นทุกวิญญาณ์
11 กรกฎาคม 2547 13:44 น.
กวี ณ เมืองคอน
๑ กูรักมึงมึงก็รู้ว่ากูรัก
รักนั้นมักปักใจไทยทั้งผอง
กูรักมึงจึงให้ใจพี่น้อง
มึงจงลองตรองใจให้เห็นควร
๒ กูรักเพื่อนเพื่อนก็รู้ว่ากูรัก
รักนั้นมักปักใจให้ได้หวน
คำว่าเพื่อนบ่เลือนเลื่อนผันผวน
เห็นสมควรหวนให้คิดถึงมึง
๓ อันคุณค่าน่าให้ใจความรัก
เห็นประจักษ์ปักใจให้คิดถึง
วอนให้เพื่อนบ่เลือนหวนคนึง
กูรักมึงเพื่อนเอยเฉลยใจ
11 กรกฎาคม 2547 13:33 น.
กวี ณ เมืองคอน
๑ อันความรักปักใจใช่ยาพิษ
ใจย่อมคิดติดตั้งหวังเป้าหมาย
ชายรักหญิงจริงแท้แน่แก่ใจ
ไม่มลายหายจากฟากกมล
๒ ความรักให้ใช่เพื่อเมื่อยอมให้
ให้ด้วยใจไม่คิดผิดยามค้น
รักด้วยใจใช่กายให้หม่องหม่น
รักต้องทนคนต้องรอหนอหัวใจ
๓ อันที่จริงความรักคือน้ำทิพย์
ช่วยชโลมดวงจิตให้ผ่องใส
ช่วยให้จิตคิดตั้งอยู่ในกาย
ช่วยข่มใจในตัวพัวรักเอย
11 กรกฎาคม 2547 13:27 น.
กวี ณ เมืองคอน
๑ อายุดีสิบห้าปีมีบัตรเหลือง
มันเป็นเรื่องคุ้มครองตรองในให้เห็น
ประชาชนคนไทยได้แก่เช่น
สายชนเห็นเป็นไทยในสังคม
11 กรกฎาคม 2547 13:21 น.
กวี ณ เมืองคอน
๑ สายวิทย์นี้มีดีอยู่ที่หัว
รวมทั้งตัวพัวพันหมั่นศึกษา
เพราะเรียนยากลำบากตรากตรำมา
ควรศึกษาหาดีมีศรีงาม