25 มิถุนายน 2551 14:54 น.

จากพ่อ...ถึงลูก

กวี ซีม่า

>>>พ่อจำเป็นต้องปลุกลูกแต่เช้า
เพื่อให้เจ้าไปอ่านเขียนเรียนหนังสือ
เพราะข่าวล่าถาโถมโหมกระพือ
เขาจะยื้อยึดถนนปิดหนทาง
>>>ละเมิดสิทธิ์เรามั่งก็ช่างเขา
ขอเพียงลูกไม่มัวเมาเอาแอบอย่าง
ผู้ใหญ่ดื้อบอกเท่าไรก็ไม่วาง
ทนนะลูกติดขัดบ้าง....บางเวลา
>>>ไปเถอะลูกไปพากเพียรเรียนหนังสือ
เจอฝ่ายแค้นกับแก๊งค์ดื้ออย่าถือสา
จงหลีกเลี่ยงเสียงตะโกนโพนทะนา
ที่ร้องด่าจ้องอัดรัฐบาล
>>>รัฐบาล นอมินี มีแต่เปลือก
ลูกอย่าเลือกมาปกป้องปกครองบ้าน
มีวาระซ่อนเร้นเป็นสันดาน
รับใช้งานปานสุนัขรักเจ้านาย
>>>ใครทำผิด...ใครทำถูก...ลูกย่อมเห็น
จากประเด็นที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่าย
แก๊งค์ดื้อกับฝ่ายแค้นแสนอันตราย
รัฐก็ร้ายหมายบีฑา....ท้าประจัญ
>>>ความปรองดองไม่พ้องพานในวันนี้
เพราะเขามีจิตดื้อยึดถือมั่น
ลูกต้องรู้พวกเขาอย่างเท่าทัน
แล้วเป็นกลางสร้างสรรค์...เพื่อบ้านเมือง
>>>เรียนเถอะลูกรีบพากเพียรเรียนหนังสือ
อย่าหัวดื้อคิดกร่างกระด้างกระเดื่อง
อย่าเป็นหมารับใช้ให้ตัวเปลือง
อย่าก่อเรื่องไม่บังควรป่วนสังคม
>>>เรียนสำเร็จรีบกลับมาพัฒนาชาติ
ชักนำราษฏร์เดินสายกลางอย่างเหมาะสม
อยู่พอเพียงให้พอดี...สุขนิยม
เพาะใจบ่มเทิดพิทักษ์....วงศ์จักรี
				
22 มิถุนายน 2551 13:58 น.

ไม่ใช่นักรบ...ศพอักษร

กวี ซีม่า

เราไม่ใช่นักรบศพอักษร
เราเขียนกลอนไม่ต้องการพ้องพานศพ
เราไม่หาญบรรเลงบทเพลงรบ
เราขอหลบข้างฝามาเขียนกลอน

เราไม่เลือกข้างใครที่ไหนดอก
เราไม่หลอกลวงใครใจปลิ้นปล้อน
เราไม่ชอบขัดแย้งแบ่งตัดตอน
เราวิงวอนอย่า...ฮึกเฮิมเติมเชื้อไฟ

เราชอบความเป็นกลางอย่างสร้างสรรค์
เราวาดฝันถึงความสุขทุกสมัย
เราทุกคนล้วนผองพี่น้องไทย
แล้วทำไมไยแบ่งแยก...จนแตกกัน

เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ เหลือทนรับ
ยังจะสับยังจะเสียบเหยียบสะบั้น
โน่นก็แดกนี่ด่าสารพัน
คอยขย้ำห้ำหั่นกันให้ตาย

คิด คิด คิด คิด คิด อย่าติดบ่วง
หลงกลลวงเราต่างหากจักฉิบหาย
อย่าให้ลูกหลานตราหน้าว่าเยี่ยงควาย
ทั้งสองฝ่ายโปรดพินิจคิดไตร่ตรอง

ศพอักษรนอนตายอยู่ปลายฟ้า
ธารน้ำตาท่วมท้นเมืองหม่นหมอง
ศพนักรบเรียงรายอยู่ก่ายกอง
ล้วนพี่น้องเลือดข้น...ชนชาติไทย
				
22 มิถุนายน 2551 10:52 น.

นิราศกรุงเก่า

กวี ซีม่า

>> นิราศร้างห่างเหจากเคหา
ฉันเดินทางท่องเที่ยวเปลี่ยวอุรา                    
อยุธยาเมืองใหญ่ของไทยเรา

มาพากเพียรเรียนกลอนอักษรศิลป์               
เพื่อประทินการกวีที่กรุงเก่า
มรดกปางบรรพ์โบราณเนา                          
ปลุกใจเร้าสืบสานงานร้อยกรอง

>>ออกจากเมือง กรุงเทพ แดนเสพสุข       
แบกใจทุกข์ท่วมท้นความหม่นหมอง
ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า ฯ เฝ้าแลมอง           
เมืองจะนองเลือดหลั่งหรืออย่างไร ?

ริมถนนตึกใหญ่โตแสนโอ่อ่า                        
พัฒนามาทุกยุคทุกสมัย
รัฐสยามอุปมานาวาไทย                                 
จักพังไปแหลกยับล่มอับปาง

เลียบริม คลองบางกอกน้อย ละห้อยจิต      
ฉันครุ่นคิดถึงคนดีที่เคียงข้าง
ฟ้าวันนี้มืดมิดทุกทิศทาง                                 
ยามเหินห่างจากเธอฉันเพ้อครวญ

>>รถวิ่งถึง บางบัวทอง ต้องช้ำอก              
เหมือนกินน้ำใบบัวบก...อกปั่นป่วน
ยิ่งพลัดพรากจากไกลใจรัญจวน                  
ร้องไห้หวนคิดถึงเธอเพ้อรำพัน

เคยหยอกล้อพ้อพรอดคำออดอ้อน                  
ร่ายบทกลอนคำกรองคล้องรับขวัญ
เคยจับมือร่วมเรียงเดินเคียงกัน                        
วาดหวังฝันเพลงรัก...สามัคคี

วันนี้เธอถือมั่นพันธมิตรฯ                          
แล้วเริ่มกิจก่อกวนป่วนทุกที่
ใช่ฉันรัก ทักษิณ อย่างยินดี                         
แต่ฉันมีใจเป็นกลางเพื่อสร้างไทย

ไม่อยากเห็นบ้านเมืองมีเรื่องยุ่ง                       
กระทบกรุงทุกวันฉันหวั่นไหว
อยากเห็นเธอกลับตัวกลับหัวใจ                       
มารักใคร่ดังพี่น้องปรองดองกัน

>>ถึงเมืองงาม สามโคก เห็นโลกกว้าง         
สองข้างทางทุ่งขจีอวดสีสัน
เมืองกำลังรุ่งโรจน์โชติอนันต์                          
สมานฉันท์กันเถิดเทิดถิ่นไทย

ผ่านหมู่บ้านญี่ปุ่น...อบอุ่นจิต                          
เขาประดิษฐ์สวนงามล้ำสมัย
พฤกษาสวยชื่นบานกิ่งก้านใบ                          
ดูสดใสสมคำเขาร่ำลือ

เธอประท้วงอย่างไรฉันไม่ว่า                            
แต่ไยมาปิดหนทาง..ทำถูกหรือ ?   
คนอย่างเธอคิดดีมีฝีมือ                                     
ทำไมดื้ออย่างนี้...น่าตีจริง

ควรช่วยกันสรรค์สร้างหนทางสุข                     
มิใช่ปลุกความเสียหายไปทุกสิ่ง
อยากให้เธอมีจิตคิดประวิง                                
ฉันท้วงติงด้วยหวังดี...มีต่อเธอ

ต้องรังสรรค์บ้านเมืองนี้เหมือนญี่ปุ่น               
เขาไม่วุ่น...สร้างสวนงามล้ำเสมอ
ที่ฉันพร่ำคำพ้อใช่ออเออ                                   
แค่บ่นเพ้อเพราะสับสนกังวลใจ

>>ชม ศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา โอ่อ่านัก           
ฉันประจักษ์ประวัติศาสตร์ชาติยิ่งใหญ่
อยุธยาเมืองทองของเผ่าไทย                              
เกียรติเกริกไกรอนรรฆค่าแก่นาคร

พิพิธภัณฑ์ชาติสยามงามสง่า                             
สามพระยาสร้างชื่อลือกระฉ่อน
มรดกเวียงวังยังบวร                                          
ได้สืบย้อนของเก่าแต่เบาราณ

>>แวะ วัดหน้าพระเมรุ ฉันเป็นสุข               
เหมือนปลดทุกข์เลิก,ละ,วางปลงสังขาร
สงบเย็นผ่อนคลายใจเบิกบาน                           
ณ สถานพุทธศาสน์สะอาดทรวง

วอนคุณพระปกปักช่วยรักษา                            
แก้ปัญหาโถมไทยให้ลุล่วง 
ขจัดเหตุที่ประดังไทยทั้งปวง                            
สุขแมนสรวงตามแบบพ่ออย่างพอเพียง

จารนิราศนี้มาเพื่อจารึก                                     
ปลุกสำนึกก่อนไทยแยกแตกเป็นเสี่ยง
อยากเห็นเธอปล่อยวางเดินข้างเคียง                  
มาร่วมเรียงรักษ์สยามงามมั่นคง

>>จบนิราศเลียนแบบกลอนสุนทรภู่                 
หวังเชิดชูความเป็นไทยให้สูงส่ง
เสร็จอบรมจะกลับมาหาโฉมยง                         
กอดบรรจงเธอแนบไว้....กลางใจเอย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวี ซีม่า
Lovings  กวี ซีม่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวี ซีม่า
Lovings  กวี ซีม่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวี ซีม่า
Lovings  กวี ซีม่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวี ซีม่า