2 กรกฎาคม 2552 22:57 น.
กวี ซีม่า
รวมหัวใจ ชาวกลอน อักษรศรี
ครบเจ็ดสิบเก้าปี กวีสยาม
ประสิทธิ์ โรหิตเสถียร จำเนียรนาม
เราน้อมความคารวะ...มิละเมิน
เสาร์สิบเอ็ด กรกฎา ฯ ฟ้าสดใส
ห้าโมงเย็น...เป็นต้นไป ไร้ขัดเขิน
ที่ ลิขิต* ข้างเวทีราชดำเนิน
เชิญขอเชิญ พี่น้อง...คล้องขวัญ ลุง
(ประพันธ์โดย - สุพจน์ ชีรานนท์)
--------------------------------------------------
*ร้าน ลิขิตไก่ย่าง ข้างเวทีมวยราชดำเนิน
--------------------------------------------------
เนื่องในวาระวันคล้ายวันเกิด
ลุง ประสิทธิ์ โรหิตเสถียร
อดีตนายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย 3 สมัย
คุณสุพจน์ ชีรานนท์ ผู้ประสานงานนี้
ร่อนไปรษณียบัตรพร้อมบทกลอน
ฝาก กวี ซีม่า กระจายข่าว....
นักกลอนท่านใดสนใจร่วมงานขอเชิญ
พบกันตามเวลา วัน และ สถานที่ ดังกล่าว...ครับ
2 กรกฎาคม 2552 22:24 น.
กวี ซีม่า
ค่าครองชีพ ทุกวันนี้ มีแต่เพิ่ม
ชีวิตเริ่ม ไร้สุข ทุกหย่อมหญ้า
เงินหมุนเวียน ขัดข้อง หมองชีวา
รัฐวิสาหกิจ...คิดแล้วท้อ
จึงเรียกร้อง รัฐบาล ปันงบช่วย
เอื้ออำนวย ไม่อย่างนั้น หยุดงานต่อ
อย่าให้คอย เนิ่นนาน เบื่อการรอ
นี่คือคำ ร้องขอ...ของวรนุช(VARANUS)
28 มิถุนายน 2552 10:42 น.
กวี ซีม่า
"กวี ซีม่า" ไปร่วมกิจกรรมงานสุนทรภู่รำลึก
ที่จังหวัดระยอง ได้สาธิตกลอนจอหงวน
ร่วมกับคณะกวีระยอง....กลอนจอหงวน
มีวิธีการเล่น คือ พิธีกรในงานจะเชิญชวน
ผู้ชมให้คำไม่เกิน 3 พยางค์ มาทั้งหมด 8 คำ
แล้วให้กวีนำ..คำดังกล่าวมาเขียนเป็นบทกวี
ให้ครบ โดยไม่ต้องเรียงลำดับคำก่อนหลัง
ภายในระยะเวลาที่กำหนด คือ 5 นาที
คำที่ผู้ชมให้มามีดังนี้...
คนที่ 1. ข.ไข่ (ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองให้มา)
คนที่ 2. อำเภอแกลง
คนที่ 3. ตุ๊กแก
คนที่ 4. ในหลวง
คนที่ 5. ดอกไม้
คนที่ 6. สบู่
คนที่ 7. บ้านเพ
คนที่ 8. สินสมุทร
จึงขอเชิญชวนเพื่อน ๆ ในบ้านกลอนไทย
นำคำดังกล่าวมาร่วมสนุกเขียนเป็นบทกวี....
พิชิตตำแหน่งจอหงวน โดยไม่จำกัดเวลา....
และไม่จำกัดรูปแบบฉันทลักษณ์...นะครับ
บทกวีข้างล่างนี้ คือ..กลอนงอหงวนของ "กวี ซีม่า"
ที่เล่นกลอนสดในงาน.....
เด็ก บ้านเพ สินสมุทร พิสุทธิ์ใส
ทำ ดอกไม้ สดสวย ด้วย สบู่
เรียน ข.ไข่ คร่ำเคร่ง เก่งน่าดู
เล่าเรียนอยู่ ประจำ อำเภอแกลง
เกลียด ตุ๊กแก ตีนกาว เมาอำนาจ
อาละวาด เต็มสภา บ้าตำแหน่ง
รัก ในหลวง ห่วงหลานเหลน อย่าเล่นแรง
วอนเหลือง-แดง รู้คุณค่า...สามัคคี
25 มิถุนายน 2552 11:27 น.
กวี ซีม่า
ประหนึ่งเพชร เก็จมณี ที่แวววับ
เรียงประดับ สร้อยขวัญ วรรณศิลป์
"สุนทรภู่" ครูร้อยกรอง ของแผ่นดิน
ผู้ประทิน เทิดค่า ภาษาไทย
กลอนนิราศ กลอนนิทาน ท่านสรรค์สร้าง
เป็นแบบอย่าง บทประพันธ์ งานยิ่งใหญ่
"ยูเนสโก" ประกาศชื่อ ระบือไกล
ยกย่องให้ เป็นเลิศด้าน งานกาพย์กลอน
"สุนทรภู่" สมกวี ศรีสยาม
เปรียบเพชรงาม แจ่มจำรัส ประภัสสร
อมตะ พระอภัยมณี ศรีสุนทร
เกริกกำจร เลื่องชื่อ โลกลือชา
เกียรติคุณ สุนทรภู่ โลกรู้จัก
เกียรติศักดิ์ สุนทรภู่ โลกรู้ค่า
เกียรติภูมิ สุนทรภู่ คู่โลกา
ดังสมญา รัตนกวี....สี่แผ่นดิน
22 มิถุนายน 2552 14:22 น.
กวี ซีม่า
>>พญามาร เสียรู้ งูเห่าร้าย
แทบวางวาย เพราะฤทธิ์ พิษงูเห่า
กว่ารักษา แผลฉกรรจ์ ให้บรรเทา
แค้นยังเร้า รุมใจ ไม่รู้เลือน
>>หลงเชื่อใน สัจจะ อสรพิษ
จึ่งเอื้อจิต พร้อมรับ นับเป็นเพื่อน
ร่วมกันรบ กับเทวา ฟ้าสะเทือน
ประหนึ่งเหมือน นายกับบ่าว เข้ากันดี
>>ขณะมาร เพลี่ยงพล้ำ หมดอำนาจ
บ่าวประกาศ จบแล้วนาย ส่ายหน้าหนี
เห่ากับเทพ เสพรัก สามัคคี
แล้วไล่บี้ พญามาร พล่านทุรน
>>สะสมแค้น แน่นหนัก กระอักเลือด
แดงเข้มเดือด ร้อนรุ่ม ทุกขุมขน
นอกเวที พ่ายยับ แทบอับจน
ยังเหลือผล สู้ได้ ในเวที
>>เกมช่วงชิง อำนาจ วาสนา
การไล่ล่า จึงประจักษ์ สมศักดิ์ศรี
เสียงอีสาน รากหญ้า ประชาชี
ยังปรานี ลมปราณ ของมารร้าย
>>อสรพิษ พันแผล พ่ายแพ้ยับ
ต้องมาปรับ กลยุทธ์ เพื่อจุดหมาย
ซ่อนน้ำตา ไหลหลั่ง ที่พร่างพราย
อยู่หรือตาย ก็เป็นเห่า...เท่าเท่าเดิม