21 มกราคม 2551 08:02 น.
กวี ซีม่า
เปิดตำนานดอกหญ้าในป่ากว้าง
ทนอยู่อย่างอัตคัดสาหัสแสน
ไม่มีหญ้าดอกใดไม่ขาดแคลน
ทุกข์แร้นแค้นลำเค็ญเป็นสันดาน
พลิกแผ่นดินพลิกฟ้ามากี่หน
เปลี่ยนผู้คนไปมาล้วนหน้าด้าน
นำดอกหญ้ามาอ้างสร้างตำนาน
แล้วปิดบ้านร่วมวงโกงไพบูลย์
จึงดอกหญ้าทั้งผองต้องอับเฉา
กี่ดอกแล้วดอกเล่าเจ้าเสื่อมสูญ
แม้นร่ำร้องเรียกหาโหยอาดูร
เป็นแค่กูณฑ์ร้อนเร่าเผาไหม้ฟาง
ตำนานของดอกหญ้าว้าเหว่ยิ่ง
ฝืนพักพิงเดียวดายในป่ากว้าง
อยู่เพื่อคงชีวิตพบทิศทาง
คอยผู้สร้างดอกหญ้ามาเยือนไพร
ปิดตำนานหม่นหมองของดอกหญ้า
แล้วต้อนรับดอกฟ้าผู้มาใหม่
กลิ่นหอมหวนชวนดมสาสมใจ
ก่อนถูกเด็ดเสียบไว้บนปลายปืน
20 มกราคม 2551 12:36 น.
กวี ซีม่า
ทุ่งรวงทองถิ่นสยามงามพิสิฐ
ชุบชีวิตสมหวังอย่างสดใส
ทุกวิถีทั่วแคว้นแผ่นดินไทย
คงอยู่ได้ด้วยข้าวของชาวนา
คุณของข้าวล้นค่ามหาศาล
เป็นอาหารเลี้ยงคนบนพื้นหล้า
ความเป็นไทสืบทอดตลอดมา
นั่นเพราะว่าไทยเรามีข้าวกิน
เปิบด้วยมือหรือด้วยช้อนป้อนเข้าปาก
ประโยชน์มากหากบรรยายไม่หมดสิ้น
ตราบต้นข้าวยังหนาแน่นเต็มแผ่นดิน
สยามถิ่นมิสิ้นชาติเป็นทาสใคร
20 มกราคม 2551 11:56 น.
กวี ซีม่า
ข้าวเต็มนาปลาเต็มหนองทั่วท้องถิ่น
ทรัพย์ในดินสินในน้ำนำเกื้อหนุน
แผ่นดินทองผืนนี้มีพระคุณ
เอื้อการุณย์ไทยอยู่รอดตลอดมา
องค์พ่อหลวงทรงแนะทางสร้างชีวิต
บอกแนวคิดให้ลูกหลานแก้ปัญหา
อยู่พอเพียงอย่างพอดีสุขชีวา
คือปรัชญาแห่งวิถีชีวิตไทย
20 มกราคม 2551 11:11 น.
กวี ซีม่า
ฉันไม่เหลืออะไรไว้ชมชื่น
เมื่อได้ตื่นจากกมลที่หม่นหมอง
ลบกิเลสชั่วร้ายคอยหมายปอง
ลด,ละ,ครองอัตตาพาทุกข์ตรม
ฉันไม่เหลืออะไรไว้เบื้องหลัง
คงแต่ยังสัจธรรมนำสุขสม
ที่ปลุกใจให้สะอาดปราศโง่งม
สุขบรมหวังบรรลุโลกอุดร
ฉันไม่เหลืออะไรไว้ยึดติด
นอกจากจิตซึ้งพระธรรมคำสั่งสอน
ของพระองค์พุทธะชินวร
ไว้ริดรอนทุกข์มหันต์ให้บรรเทา
ฉันไม่เหลืออะไรไว้เบื้องหน้า
ไม่นำพาต่อชีวีที่โง่เขลา
ความทรงจำประทับไว้ตรึงใจเรา
มีแต่ความว่างเปล่า...เท่านั้นเอง
20 มกราคม 2551 10:55 น.
กวี ซีม่า
ผ้าขาวพิสุทธิ์สดใส
แม้นกาลผ่านไป...ไม่สน
ใครจะเป็นสุข...ทุกข์ทน
ยังซนยังดื้อเหมือนเดิม
แล้วผ้าสีขาวพราวพิสุทธิ์
เกิดจุดด่างแซมแต้มเสริม
ใครหนอที่แสร้งแต่งเติม
ป้ายเพิ่มผ้านี้....มีมลทิน