6 ตุลาคม 2553 14:49 น.
กวี ซีม่า
แต่ก่อนนักรบเสื้อแดงเคยแกร่งกล้า
รุกไล่ล่าข้าศึกใจฮึกหาญ
สร้างศรัทธามหาชนด้วยผลงาน
ฝากตำนานเลิศล้ำเกียรติกำจร
ปัจจุบันเสื้อแดงไร้แรงฤทธิ์
ถูกพิชิตแพ้พ่ายไม่หยุดหย่อน
ซบอุราคาเหย้าสุดร้าวรอน
ไม่เหมือนก่อนเลยนิ...Liverpool !!
(แฟนออนซอนหลายเด้อ... Liverpool !!)
21 กันยายน 2553 22:13 น.
กวี ซีม่า
ก่อนร้องเพลง ชาติไทย ให้ก้องฟ้า
เราหันหน้า มาปรองดอง ขัดข้องไหม ?
สำนึกหนึ่ง ตรึงกมล...เราคนไทย
พูดกันได้ ไยไม่พูด พิสูจน์กัน
ข้านะถูก เอ็งสิผิด คิดแตกต่าง
แบ่งขั้วข้าง ขัดแย้ง แบ่งสีสัน
สุดท้ายอ้าง มือที่สาม ตัวสำคัญ
ยุให้เรา ห้ำหั่น...จนบรรลัย
ขณะธง ชาติไทย สู่ปลายฟ้า
หันซ้ายขวา เปล่าเปลี่ยว เสียวถึงไส้
เสียงระเบิด ตูมตาม ชอกช้ำใจ
สะอื้นไห้ ควายฟัง...สุดวังเวง
จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน มันก็จบ
จึงนักรบ นักล่า กล้าข่มเหง
ลั่นกระสุน เปรี้ยง เปรี้ยง เยี่ยงนักเลง
ไม่หวั่นเกรง กฎหมาย ใดใดเลย
แหงนมองธง ชาติไทย ใจซึมเศร้า
ลมบางเบา พัดมา ชินชาเฉย
เสียง ชโย ครั้งสุดท้าย ไม่เหมือนเคย
โอ้อกเอ๋ย แม้แต่ควาย...ก็ไม่ฟัง
คนกับควาย ควายกับคน ท่วมท้นทุกข์
ใครจะปลุก ปลอบใจ ให้สมหวัง
เพลงชาติไทย ถ้าวันนี้ มีพลัง
จงเข้มขลัง รวมไทย ได้เหมือนเดิม
20 กันยายน 2553 15:16 น.
กวี ซีม่า
ไว้ทุกข์ให้ ใจหม่น ทนชอกช้ำ
ผ้าสีดำ คลุมร่าง อำพรางเศร้า
อุทิศแด่ รักร้าง ระหว่างเรา
ซึ่งเหลือความ ว่างเปล่า เข้าจับจอง
ถ้าอยู่ดี กินดี มีความสุข
ไร้ความทุกข์ รุกเร้า ให้เศร้าหมอง
และถ้าเจ้า มีจิต คิดปรองดอง
เรื่องทั้งผอง คงผ่าน การดูแล
ย้ำเหลือเกิน เศรษฐกิจ ฮิตฟู่ฟ่า
ไยรากหญ้า หน้างอ ทุกข์ป้อแป้
ทุนนิยม รวยกระจุก รุกรังแก
ไม่เผื่อแผ่ ผองชน จนกระจาย
อยู่ร่วมกัน กล้ำกลืน ฝืนสุดสุด
รอถึงจุด ใจแยก แตกสลาย
เมื่อเจ้ามี รักใหม่ ไว้เคียงกาย
เราย่อมหมด ความหมาย...ไร้เบ่งบาน
บทเพลงรัก รากหญ้า ล้าระโหย
เสียงโอดโอย ขับกล่อม ทุกหย่อมย่าน
ดำทะมึน คลื่นพลัง อหังการ
ก็มากมาย มหาศาล...แต่นั้นมา
รักครั้งใหม่ ให้เจ้าจง ธำรงมั่น
ผูกสัมพันธ์ สรรค์สร้าง อย่างล้ำค่า
สุดท้ายขอ ความเป็นธรรม ก่อนอำลา
กรุณา...อย่าใส่ร้าย ชายชุดดำ
13 กันยายน 2553 14:00 น.
กวี ซีม่า
น้ำท่วมท้นตา....ประชาเป็นทุกข์
คนรวยกระจุก....คนจนกระจาย
ยิงคนตายเกือบร้อย...ด่างพร้อยพอประมาณ
เผาเมืองเผาบ้าน....เป็นผู้ก่อการร้าย
น้ำท่วมท้องนา...น้ำตาท่วมเมือง
เถอะอย่าขุ่นเคือง...เป็นเรื่องเกินคาดหมาย
ต้องให้น้ำท่วมฟ้า....ต้องให้ปลากินดาว
จึงจะหยุดเรื่องราว...ที่มีแต่ความเสีย(ฉิบ)หาย
12 กันยายน 2553 12:11 น.
กวี ซีม่า
เก็บกดไว้ ในกมล อดทนนิ่ง
กับความจริง ที่ร้าวรอน ซุกซ่อนอยู่
เฝ้ากลบเกลื่อน เบือนหน้า น้ำตราพรู
ทั้งที่รู้ มันหนักข้อ ก็ต้องวาง
เพื่อนบางคน ก่นด่า ว่าโง่เง่า
ถามว่าเรา เหคุใด ถึงใจกว้าง
บ้างดูหมิ่น เชิงชาย ไร้น้ำยาง
ปล่อยให้คน เคียงข้าง เป็นอย่างนั้น
พิพากษา กันไป ไม่สิ้นสุด
เพราะเกินจุด แก้ไข ให้ผกผัน
ขอแค่พียง รู้สึกดี มีต่อกัน
ก่อนเลิกความ สัมพันธ์ เท่านั้นพอ
ไม่มีคำ บรรยาย ใดมามอบ
ยืนยันตอบ เต็มใจ ไม่ไปต่อ
ทางชีวิต ปิดใจ มิให้รอ
หรือวอนขอ ง้อมาลี ดอก(สี)ทอง
ก็ต่างคน ต่างไป ต่างใช้สิทธิ์
สู่ชีวิต อิสระ โลดผยอง
สุขจากกาม เธอเห็น เป็นครรลอง
ขอให้ครอง ไปรอด ปลอดชีวา
เธอจะนัด พบกัน กันวันไหน
จะเลยเถิด ทำอะไร เราไม่ว่า
แต่สิ่งหนึ่ง ร้องขอ ต่อกานดา
อย่าแบะท่า ให้เขาถอง เป็นของฟรี
หมายเหตุ
กวี ซีม่า เขียนกลอนบทนี้ ตั้งแต่ พ.ศ. 2511
ค้นพบโดยบังเอิญ นำเสนอเพื่อเป็นหลักฐานว่า
วิวัฒนาการ...อารมณ์กลอนของ กวี ซีม่า
ก็เริ่มต้นมาจากกลอนรัก สายลม แสงแดด...
เหมือนกับใคร ๆ อีกหลายคน...จ้า