23 กุมภาพันธ์ 2546 21:41 น.
กวินทรากร
วันหนึ่งไกลนิ่มน้อง......................หมองหมาง
มาสหนึ่งไกลกานทางค์..................ทรรปเศร้า
ศกหนึ่งห่างดุริยางค์........................โยคจิต..กูเอย
กัปหนึ่งไกลธรรมเข้า......................ข่วงน้ำนรกา
มาศ=เดือน
กานทางค์=กานท+องค
กานท์=โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน (คำประพันธ์)
องค์=ส่วน,ลักษณะ
ทรรป=ความโง่, ความเซ่อความโอ้อวด, ความจองหอง, ความเย่อหยิ่ง, เช่น ขวนทรรป ว่า ใฝ่จองหอง. (ม. คำหลวง สักบรรพ), ทัป ก็ว่า
ศก=ปี
ดุริยางค์=ดุริย+องค
ดุริย=เครื่องดีดสีตีเป่า
องค=ส่วน,ลักษณะ
โยค=การประกอบ, การใช้, การร่วม,ความเพียร,กิเลส
กัป=ระยะเวลาอันนานเหลือเกิน โบราณถือว่า โลกประลัยครั้งหนึ่งเป็นสิ้นกัปหนึ่ง
ข่วง=บริเวณ, ลาน, เช่น ให้ยกหอกลองยังขวงหลวงริมสนาม. (พงศ. โยนก)
นรกา=นรก ,แดนหรือภูมิที่เชื่อกันว่าผู้ทำบาปจะต้องไปเกิดและถูกลงโทษ, โดยปริยายหมายถึงแดนที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน
16 กุมภาพันธ์ 2546 16:36 น.
กวินทรากร
เดือนดาว สกาว ณ คคนาน-........................ตวิศาลโสภี
จันทราธิปัตยวลี..........................................รุจิเลขะผายผัน
เวียนมาฆะคารวะพระพุท-..........................ธวิสุทธิภูมิธรรม์
อีกอังคะสังฆะอรหัน-.................................ตคุณูปการคุณ
ธูปเทียนเสถียร อคนิรุจ-..............................น จะจุดจะเจือจุน
บงกชประณตสิริอดุล-................................ยบุชิตบุชาทำ
ขอหวังและตั้งจิตประดิษ-..........................ฐจริตมโนกรรม
ในวันสำคัญปกรณัม...................................นิรโศกวิโยคภัย