18 ตุลาคม 2545 12:43 น.
กวินทรากร
ใคร เฉ เห ห่างเบื้อง ..............บุญพฺลี
พฤติชั่วมัวเมากี- ....................เลสเร้า
ลนลานพล่านพิถี ...................ทางเบี่ยง
บอกบ่งบาปเบียนเศร้า .........โศกสร้างกรรมทวี
ทำ..ดีทีอย่าสิ้น ......................ศรัทธา
ทำ..นุศาสนา .........................เนิ่นไว้
ทำ..ดีที่ถือถา- ........................วรวัตถุ
ธรรม..บ่ฉุดยื้อให้................. สู่ห้วงสวรรค์
มาราธิราชจ้าว ......................จอมมาร
มาสู่สิงสมภาร....................... เพียบแปร้
เนืองเนืองพร่าเหลืองพาล .....พิโยค
ตรัยรัตน์วิบัติแพ้ ...................ภูติแล้วฤาไฉน
เทวาธิราชจ้าว .......................เทวัญ
เสพย์สุไขศวรรย์....................วุ่นแท้
บรรดานราศัลย์ .....................โศกยิ่ง
โปรดประทานพรแก้ ..............กลบเศร้าสลายสูญ
โลกาภิวัฒน์แล้ว .....................ฤาไฉน
โลกย์จึ่งจริยะไกร ...................เท่านี้
สังคม Civilize ..........................หรือเสื่อม
บริโภคนิยมชี้ .........................ชัดแจ้งแถลงเอย
โจนไปคราวว่ายข้าม ...........สังสาร- วัฏแฮ
คลื่นทุกข์กระทบปาน ..........เปรียบม้วย
อัตตะกวีการณ์ ...................เกาะมั่น..นักแฮ
บ่ ละ สละด้วย ....................หมั่นใช้พรหมวิหาร
ฉันใดใจจากเงื้อม ..............มือมาร
ลุวัฏฏะสงสาร ...................โศกสิ้น
เดินดิน บ่ ผินพาล .............เพียรยาก ..กระมังนา
พูดง่ายดายด้วยลิ้น ..........เรื่องสร้างทางธรรม
ไทย...เอ๋ยเฉยเฉื่อยสร้าง..... ศีลธรรม
ไทย...ย่อมจะถลำ ...............เกลศแล้ว
ไทย...ยุคสนุกสำ- ................ราญรื่น
ไทย...ตื่นคืนคงแคล้ว .........คลาดพ้นอนธการ
สังคมดีได้ด้วย ..................รังสรร
ละชั่วละอธรรม์ ....................ถ่อยช้า
สินธูสู่มหรร- ........................ณพนั่น หนอเอย
สาธุชนอย่าล้า ....................ร่วมสร้างสุขศานต์
18 ตุลาคม 2545 12:13 น.
กวินทรากร
แรกรักประจักษ์สุขะฤดี ...........ทุขะมีก็หนีหาย
ร้างรักประจักษ์สุขะสลาย ........ทุขะเยือนเสมือนเดิม
ไฟฟอนจะร้อนระอุคุไว ............ก็เพราะใช้พระพายเสริม
ไฟโศกวิโยคระอุคุเติม- ............รติจักตระหนักทุกข์
รักเขาน่ะเรา หทยะหวง ............ทระ ทรวง บ่เป็นสุข
รักเขาน่ะเราบ่มิสนุก .................อุระร้อน บ่ ผ่อนปรน
เขานั้น จะ หยัน และมิตระหนัก .เพราะบ่รักสมัคร มน
เขานั้น จะ หยัน รึก็จะทน ..........เพราะ เสน่หะ จับใจ
รักชาติอาตม์สละแม้ ...................ชีวี
รักเกียรติรักศักดิ์ศรี ...................สืบไว้
รักคุรุบุพการี ..............................และญาติ ..เถิดเอย
รักอื่นหมื่นแสนไซร้..................... อย่าได้ถวิลหา
18 ตุลาคม 2545 11:40 น.
กวินทรากร
เพียงขอบอก ออกไป ว่าใจเต๋า
ทุกค่ำเช้า เฝ้าเพ้อ ละเมอหา
ด้วยคิดถึง ซึ่งฝน ล้นอุรา
ยามพบหน้า ฝนนั้น ฉันดีใจ
แต่ธุระ ปะปัง ตั้งหลายอย่าง
ทำเราห่าง หมางเมิน เกินรับไหว
สองปีครบ พบกัน นั้นเร็วไว
ยังเหมือนไม่ นานนัก รู้จักกัน
อยากหยุดนิ่ง ประวิงใจ ไว้สักพัก
อยากตั้งหลัก หักห้าม ความเพ้อฝัน
อยากสร้างเสริม เติมต่อ ก่อสัมพันธ์
ให้เธอฉัน หรรษา ในอารมณ์
หากยิ่งวิ่ง ยิ่งเหนื่อย เพราะเมื่อยล้า
ยิ่งไขว่คว้า หารัก มักขื่นขม
ยิ่งพูดจา พาให้ ใจระบม
ยิ่งสะสม บ่มเศร้า รุมเร้าทรวง
เต๋าห่วงใย ในตัวฝน ท่วมท้นจิต
ทั้งชีวิต อุทิศให้ ไม่เคยหวง
เป็นรักแท้ แน่ใจ ใช่หลอกลวง
จงเชื่อท่วง ลำนำ คำสัญญา
ภาพอดีต ติดตรึง ซาบซึ้งอยู่
ภาพฝนดู คู่เต๋า เก่าแล้วหนา
ไม่รู้ลืม ปลื้มปิติ อนิจา
โอ้เวลา พาให้ ใจคะนึง
คงทุกข์ล้น ฝนมีใจ ให้คนอื่น
เต๋าคงขื่น ขมจิต ยามคิดถึง
มองรูปย้อน ตอนใด ใฝ่รำพึง
เมื่อไรจึง คลายเศร้า เร้าฤทัย
นึกแล้วก็ ท้อแท้ แต่ตระหนัก
ว่าความรัก มักสอน คนอ่อนไหว
ให้เข้มแข็ง แข่งท้า ความอาลัย
ให้เราได้ เรียนรู้ ดูใจกัน
ถึงไม่มี ดีใด ให้ฝนเห็น
ถึงจะเป็น คนเจ้าชู้ ดูน่าขัน
ถึงอย่างไร อยากให้เรา รู้เท่าทัน
อย่าได้ปัน ใจให้ ใครอีกเลย
16 ตุลาคม 2545 16:42 น.
กวินทรากร
แท่งเทียนเสถียรแสง .....................ทะลุแจ้งวิถีจร
ทุกอย่างสว่างตอน............................อคนีทวีคูณ
มองภาพขนาบทั่ว ............................ทิศะมัวสลัวสูญ
แจ่มล้ำและจำรูญ- ...........................นยนา ณ ราตรี
เปลวไฟวิไลลาง...............................ระยะทางสะอางศรี
เทียนแท่งก็แหว่งที .........................ละทิวาเพราะล้าแรง
ฟ้าผ่อง จะหมองหม่น ........................มหะ อน ธการ แฝง
เหลียวเหลือบ คละ เคลือบแคลง .......ขณะแลชะแง้ไป
ริบหรี่ กวีขาน ...................................ธุระกานท์จะวานใคร
ถั่งโถมและโหมไฟ ............................เถอะสหายมิสายเกิน
16 ตุลาคม 2545 16:35 น.
กวินทรากร
กระไรหว่าน่าฝนบ่นแล้งน้ำ
หลับตาพร่ำพูดเพ้อละเมอหลง
เดี๋ยวนี้ฝนบนฟ้าไหลบ่าลง
ทั่วแดนดงพงไพรได้ร่มเย็น
บึงที่เคยระเหยแห้งเพราะแล้งน้ำ
ก็ชุ่มฉ่ำลำธารสำราญเห็น
เย็นกายาพาใจคลายลำเค็ญ
ฝนกระเซ็นเป็นฝอยพลอยชื่นทรวง
เหล่าชาวนา พากัน หมั่นหว่านไถ
ทำเทือกไร่ ไขน้ำ ตามคลองหลวง
ก่อทำนบ ทบฝาย ไว้ตักตวง-
ธารจากห้วง สรวงสรรค์ ชั้นเมืองแมน
ใครอยากให้ สายนที มีเต็มฝั่ง
ก็ต้องตั้ง กำลังจิต คิดหวงแหน
พิทักษ์ป่า พฤกษาไว้ ให้ทั่วแดน
คงคู่แคว้น แผ่นเขต ประเทศไทย