27 สิงหาคม 2546 09:27 น.
กวินทรากร
โลกีย สมฺปท ธรติ สทา
น สาสนมุตฺตมนฺติ กทาจิ
ตสฺมา น เปกขิย โลกโภคํ
ธเรยฺย สาสน อาธรนฺติ
กุศลสร้างจึ่งพร้อม..........สมบัติ
โลกิยนิทัศน์...................ทุกข์ด้วย
ศาสนะอภิวัฒน์.................บางคาบ
ใครฝักใฝ่ธรรม์ฉ้วย.........ชีพรู้สมบัติธรรม
โลกียสมบัติตั้งอยู่ในโลกในกาลทุกเมื่อ ก็ด้วยกุศลแห่งสัตว์ทั้งหลาย
ศาสนาอันประเสริฐ แห่งพระพุทธเจ้า มิตั้งอยู่ในโลกในกาลทุกเมื่อ
ศาสนาตั้งอยู่ในกาลบางคาบ
เหตุนั้นผู้มีปัญญามิพึงฝักใฝ่ในสมบัติ พึงฝักใฝ่ ในศาสนานั้นเถิด
26 สิงหาคม 2546 12:34 น.
กวินทรากร
ติสรณ มคต นรมรุ กลิคหนิ
ทุจริต จริธ กลิผล อนุภวติ
ตุมปคต นรมรุ นหิ กลิคหนิ
สุจริต จริธ สุขผล อนุภวติ
แก้วสามดวงเวี่ยไว้...........หว่างทาง
ทวยเทพนรชนปาง.............ปัดทิ้ง
ถือทุจริตางค์.......................ต้องวิบาก..กรรมเอย
ทุกข์ประทุกมากหยิ้ง..........ย่อมร้อนกลีผล
เทวามานุษย์ผู้.......................พบตรัย..รัตน์เอย
ในทุรคมนาลัย......................รีบคว้า
ถือสุจริตไปร-.........................ษณิยจิตร
เสพสุขรมย์ในหล้า.................แหล่งนี้นีรันดร์
คนและเทวดาซึ่งไม่เข้าสู่ไตรสรณะ แลถือเอาลัทธิอันผิด
ย่อมกระทำทุจริต แลได้เสวยวิบากเป็นทุกข์ในโลก
คนและเทวดาซึ่งเข้าไปสู่ไตรสรณะ แลไม่ถือเอาลัทธิอันผิด
ย่อมกระทำสุจริต แลได้เสวยสุขในโลก
26 สิงหาคม 2546 12:10 น.
กวินทรากร
ยทิ อตฺตโน อถฺเมสิโต
ปหาย ปาปํว โส นโร
ยเทวปุญฺมา ปรายิเก
สุขาวหํตํ จเร สทา
ชนใดไขว่คว้าสุข.......ใส่ตน
ย่อมละเสียซึ่งผล........บาปย้อม
บุญบารมีดล..............แดนเทพ
สู่สุขาวดีน้อม..............เนื่องด้วยกุศลกรรม
บุคคลผู้ได้แสวงหาประโยชน์สุขแก่ตน
ย่อมละเว้นจากบาปกรรมทั้งมวล
กุศลกรรมอันใดซึ่งจักเป็นประโยชน์สุขในเทวโลก
บุคคลผู้นั้นพึงกระทำในกาลทุกเมื่อแล
20 สิงหาคม 2546 16:45 น.
กวินทรากร
น้ำกก ลดเลี้ยวเรื่อย............รินสาย
เลี้ยงส่ำชนเชียงราย...........ชื่นล้ำ
ชำเลืองชุ่มฉ่ำชาย...............ฝั่งฝาก..แควเอย
คืออนรรฆโอฆก้ำ-...............กึ่งโพ้นภพสวรรค์
สันเขาคิริมาศม้วน.................เมฆินทร์
สูงสะกิดอัมรินทร์..................เล่นได้
พฤกษาผกาอิน-.....................ทรีย์รูป
เขียวชะอุ่มพุ่มไล้-................แหล่งฟ้าเกิดฝน
เรือยนต์ชลมารคคว้าง............ควั่งไหล
แล่นทะยานอยู่ใน..................น่านน้ำ
ใจพี่ที่จริงใจ............................ประดิพัทธ์.เจ้าเอย
แล่นรวดเร็วเร่งช้ำ-.................ชอกครั้งคำนึงขวัญ
7 สิงหาคม 2546 18:46 น.
กวินทรากร
เสียงประทัด นัดแรก ไม่แตกต่าง
แสงพรุพร่าง พราวท้า เวหาหน
เป็นความคิด ติดตม จมวังวน
เงินคนจน ถูกสูบ แล้ววูบไป
ไฟพะเนียง เคียงคู่ ลูกหนูวิ่ง
รวดเร็วยิ่ง กลิ้งตามลวด ปวดใจใหม
เงินของเรา เขาเผาเล่น เซ่นสิ่งใด
พรุ ไสว ใช้ประจาน ผลาญเงินตรา
อยากเคารพ ความคิด ที่สิ้นคิด
แต่ถ้าผิด แล้วยิ่งนิ่ง อหิงสา
ย่อมถอยหลัง ลงยังคลอง ท้องธารา
อย่าเป็นชา ล้นถ้วย ควรช่วยกัน
ตัวชี้วัด วัตถุนิยม คนชมชอบ
นั่งดูขอบ สนามหญ้า พาสุขสันต์
งานกีฬา ดูกีฬา ไม่ว่ากัน
สายตาสั้น จึงมองเห็น เป็นอื่นไป
ถ้ามีแก่น ง่อนแง่นแล้ว ไม่แคล้วล่ม
เหมือนไม้หลัก ปักตม ล้มเหลวไหล
รุ่นน้องยึด ประพฤติตาม ต้องถามใจ
เราทำใน สิ่งดีดี มีหรือยัง